ผลบอล ไทย 1-1 มาเลเซีย (จุดโทษ 4-6) คิงส์คัพ 23 ก.ย. 2022
การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย.65 รอบรองชนะเลิศ ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เวลา 20.30 น. เป็นเกมคู่ระหว่าง "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 111 ของโลก ลงสนามพบกับ "เสือเหลือง" ทีมชาติมาเลเซีย ทีมอันดับ 148 ของโลก โดยคู่นี้เป็นเกมระดับ"A" Match คิดคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้งด้วย
หลังจากนั้นรายชื่อทัพ "ช้างศึก" ทาง มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือใหญ่จัดเต็มอัตราศึกในระบบ 4-2-3-1 ตามแบบถนัดที่ใช้มาโดยตลอด ผู้รักษาประตูใช้ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ลงเฝ้าเสา ส่วนแผงแบ็คโฟว์ ใช้กฤษดา กาแมน จับคู่กับ พรรษา เหมวิบูลย์ แบ็คขวาเป็น นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และแบ็คซ้ายเป็นรองกัปตันทีม ธีราทร บุญมาทัน
ขณะที่แดนกลาง ตัวรับใช้ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ โดยมี ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เล่นเป็นตัวบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ และกัปตันทีม ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นตัวขับเคลื่อนพาบอลไปสู่แดนหน้า
ส่วน 3 แผงเกมรุกฝั่งหน้าขวาหรือปีกขวาพร้อมใช้ สุภโชค สารชาติ ขณะที่ฝั่งซ้ายเป็น บดินทร์ ผาลา และกองหน้าตัวเป้านาทีนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ศุภชัย ใจเด็ด หัวหอกจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ผลงานกำลังอยู่ในช่วงสุดยอด หลังระเบิดฟอร์มในไทยลีก 2022-23 ซัดประตูไปแล้ว 5 ลูก จาก 6 เกม
เริ่มเกม น.14 ทีมชาติไทย ขยับเปลี่ยนตัวคนแรกอย่างรวดเร็วโดยถอด "กัปตันเจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ และส่ง สุมัญญา ปุริสาย ลงมาเล่นแทน "กัปตันเจ" มีอาการบาดเจ็บ และได้ส่งสัญญาณมายังซุ้มม้านั่งสำรองเพื่อขอเปลี่ยนตัว
น.17 กลายเป็น มาเลเซีย ได้โอกาสทักทายก่อนจากจังหวะที่ อาลีฟ อีมาน ฮานาปี ได้โอกาสลองสับไกลยิงจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเลียดแรงแต่ไปเข้าข้างตาข่ายนิดเดียว
น.24 "เสือเหลือง" หวิดได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย เบรนดัน กาน เปิดบอลโค้งๆเข้ามาก่อนที่ ดาร์เรน โลด ได้โฉบโหม่งแต่บอลพุ่งเฉียดคานออกหลังไป
น.28 โมห์ด นอร์ อาซาม บิน อาซีห์ นักเตะมาเลเซียโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของเกมนี้ หลังไปเข้าสกัดหนักใส่ สุมัญญา ปุริสาย บริเวณกลางสนาม
เริ่มเกม น.14 ทีมชาติไทย ขยับเปลี่ยนตัวคนแรกอย่างรวดเร็วโดยถอด "กัปตันเจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ และส่ง สุมัญญา ปุริสาย ลงมาเล่นแทน "กัปตันเจ" มีอาการบาดเจ็บ และได้ส่งสัญญาณมายังซุ้มม้านั่งสำรองเพื่อขอเปลี่ยนตัว
น.17 กลายเป็น มาเลเซีย ได้โอกาสทักทายก่อนจากจังหวะที่ อาลีฟ อีมาน ฮานาปี ได้โอกาสลองสับไกลยิงจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเลียดแรงแต่ไปเข้าข้างตาข่ายนิดเดียว
น.24 "เสือเหลือง" หวิดได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย เบรนดัน กาน เปิดบอลโค้งๆเข้ามาก่อนที่ ดาร์เรน โลด ได้โฉบโหม่งแต่บอลพุ่งเฉียดคานออกหลังไป
น.28 โมห์ด นอร์ อาซาม บิน อาซีห์ นักเตะมาเลเซียโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของเกมนี้ หลังไปเข้าสกัดหนักใส่ สุมัญญา ปุริสาย บริเวณกลางสนาม
น.63 "ช้างศึก” พลาดโอกาสทองได้ประตูตีเสมออย่างไม่น่าเชื่อเมื่อ สุภโชค สารชาติ แทงบอลทะลุช่องไปให้กับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หลุดเดี่ยวพาบอลเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายดันยิงไปติดเซฟ ชีฮัน ฮัซมี อย่างน่าเสียดาย
น.71 เป็นอีกครั้งที่ทีมชาติไทย น่าจะได้ประตูเหลือเกิน และเป็นคู่เดิม สุภโชค สารชาติ จ่ายทะลุช่องไปให้กับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังคงติดเซฟ ชีฮัน ฮัซมี อีกแล้ว
น.77 แฟนบอลไทยเกือบได้เฮเป็นครั้งที่ 3 จากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลโค้งๆเข้าไปก่อนจะเป็น ศุภชัย ใจเด็ด ที่ขึ้นโขกจ่อๆ ทว่ายังไปติดเซฟ ชีฮัน ฮัซมี นายด่านเสือเหลือง ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดีเช่นเดิม
น.90+4 มาเลเซีย เหลือ 10 คน นอร์ อาซัม อาซิคห์ โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดง ก่อนที่ น.90+5 ไทย มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากลูกฟรีคิกฝั่งขวา สุมัญญา ปุริสาย เปิดบอลโค้งๆเข้าเขตโทษก่อนที่ พรรษา เหมวิบูลย์ จะโหม่งเข้าไปไม่เหลือซาก กระทั่งจบเกม 90 นาทียังเสมอกัน 1-1 ต้องดวลลูกจุดโทษเพื่อหาผู้ชนะเข้ารอบต่อไป
ช่วงดวลจุดโทษ มาเลเซีย ยิงไม่พลาดเลยทั้ง 5 คน ส่วนทีมชาติไทย มาพลาดคนที่ 4 หลังจาก สุภโชค สารชาติ ดันยิงไปติดเซฟผู้รักษาประตูมาเลเซีย ทำให้จบเกม มาเลเซีย เอาชนะ ทีมชาติไทย ไปด้วยสกอร์รวม 6-4
สำหรับทัพ "ช้างศึก” เข้าไปชิงอันดับ 3 พบ ตรินิแดดแอนด์โตเบโก เวลา 17.30 น. ส่วนพลพรรค "เสือเหลือง” เข้าไปชิงชนะเลิศพบ ทาจิกิสถาน เวลา 20.30 น. โดยทั้งสองคู่จะลงแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย.65
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ทีมชาติไทย : กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ผู้รักษาประตู) , พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา กาแมน, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ธีราทร บุญมาทัน, วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล แทน น.46), ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ แทน น.46), ชนาธิป สรงกระสินธ์ (สุมัญญา ปุริสาย แทน น.14), สุภโชค สารชาติ, บดินทร์ ผาลา (ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา แทน น.46), ศุภชัย ใจเด็ด
ทีมชาติมาเลเซีย : ชีฮัน ฮัซมี (ผู้รักษาประตู), แมทธิว เดวีส์, ไฟซอล ฮาลิม (อัคยาร์ ราชิค แทน น.65), ดาร์เรน โลด (ซายาฟิค อาหมัด แทน น.65), ซาฟาวี ราชิด (โมฮามาดู ซูมาเรห์ แทน น.68), อาลีฟ อีมาน ฮานาปี (เดคลาน แลมเบิร์ต แทน น.79), อาหมัด คูซามี่ เปียห์ (อาซัม อัซมี แทน น.79), นอร์ อาซัม อาซิคห์, เบรนดัน กาน, ดิออง กูลส์, ลาเวียร์ คอร์บิน-ออง
ตารางคะแนน
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ลิเวอร์พูล | 11 | 28 |
2 | แมนเชสเตอร์ | 11 | 23 |
3 | เชลซี | 11 | 19 |
4 | อาร์เซนอล | 11 | 19 |
5 | น็อตติ้งแฮม | 11 | 19 |
6 | ไบรท์ตัน | 11 | 19 |
7 | ฟูแล่ม | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | แบงค็อก ยูไน | 13 | 30 |
2 | บุรีรัมย์ ยู | 10 | 24 |
3 | การท่าเรือ เ | 12 | 22 |
4 | บีจี ปทุม ยู� | 12 | 22 |
5 | พีที ประจวบ � | 13 | 22 |
6 | สุโขทัย เอฟซ | 13 | 20 |
7 | อุทัยธานี เอ | 13 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาเยิร์น มิว | 10 | 26 |
2 | RB ไลป์ซิก | 10 | 21 |
3 | ไอน์ทรัค แฟร | 10 | 20 |
4 | เลเวอร์คูเซ� | 10 | 17 |
5 | ไฟร์บวร์ก | 10 | 17 |
6 | ยูเนี่ยน เบอ | 10 | 16 |
7 | ดอร์ทมุนด์ | 10 | 16 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | นาโปลี | 12 | 26 |
2 | อตาลันต้า | 12 | 25 |
3 | ฟิออเรนติน่� | 12 | 25 |
4 | อินเตอร์ มิล | 12 | 25 |
5 | ลาซิโอ | 12 | 25 |
6 | ยูเวนตุส | 12 | 24 |
7 | เอซี มิลาน | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาร์เซโลน่า | 13 | 33 |
2 | เรอัล มาดริด | 12 | 27 |
3 | แอตเลติโก มา | 13 | 26 |
4 | บียาร์เรอัล | 12 | 24 |
5 | โอซาซูน่า | 13 | 21 |
6 | แอธเลติก บิล | 13 | 20 |
7 | เรอัล เบติส | 13 | 20 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ปารีส แซงต์ � | 11 | 29 |
2 | โมนาโก | 11 | 23 |
3 | โอลิมปิก มาร | 11 | 20 |
4 | ลีลล์ | 11 | 19 |
5 | โอลิมปิก ลีย | 11 | 18 |
6 | นีซ | 11 | 17 |
7 | แร็งส์ | 11 | 17 |
ดูทั้งหมด |