"ช้างศึก" ทีมชาติไทย สู้เต็มที่แล้ว แต่ต้านความจัดจ้านของ "สโลวาเกีย" ไม่ไหว พ่ายไปแบบดุเดือด 3-2 ทำให้สโลวัค คว้าแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ไปครอง
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46
วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2561
สนามราชมังคลากีฬาสถาน
รอบชิงชนะเลิศ
ไทย 2-3 สโลวาเกีย
ประตู : 0-1 อ็องเดรจ์ ดูด้า น.10,0-2 โรเบิร์ต มัค น.34,1-2 จักรพันธ์ แก้วพรม น.42,1-3 เอริค พาซินด้า น.68,2-3 พรรษา เหมวิบูลย์ น.79
ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 คู่ชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่างเจ้าภาพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย อันดับ 129 ของโลก พบกับ สโลวาเกีย ทีมจากยุโรปอันดับ 29 ของโลก
"ช้างศึก" ของกุนซือมิโลวาน ราเยวัช จัดผู้เล่นชุดเดิมจากนัดดวลจุดโทษชนะกาบองลงสนามทั้งหมด ในระบบ 4-2-3-นำโดย 3 ผู้เล่นที่ไปค้าแข้งในเจลีก ญี่ปุ่น อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน และยังมี กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารที่ค้าแข้งกับ โอเอช ลูเวิน ในลีกเบลเยี่ยมลงเฝ้าเสา
ขณะที่ สโลวาเกีย โดยกุนซือแยน โคซัค เปลี่ยนทีมจากเกมชนะยูเออี 2-1 ถึง 7 คน เหลือไว้แค่ 4 ที่ยังได้ลงตัวจริงต่อคือ สองกองหลัง มาร์ติน สเคอร์เทล กัปตันทีม กับ โรเบิร์ต มาซาน มิดฟิลด์จอมทัพ อ็องเดรจ์ ดูด้า และกองหน้า โรเบิร์ต มัค
ครึ่งแรก
เริ่มเกมมายังดูเชิงกันอยู่ในช่วง 5 นาทีแรก หลังจากนั้น สโลวาเกีย เริ่มครองบอลได้มากกว่าในแดนกลาง นำไปสู่ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 10 จากจังหวะที่ โรเบิร์ต มัค กระชากเผา ฟิลิป โรลเลอร์ หลุดไปถึงเส้นหลังในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนปาดเข้ากลางมาให้ อ็องเดรจ์ ดูด้า จิ้มในกรอบ 6 หลาไม่เหลือซาก
หลังเสียประตูช้างศึกเริ่มตื่น นาทีที่ 13 ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เริ่มเก็บบอลได้มากขึ้น แทงบอลทะลุให้ ธีรศิลป์ แดงดา
แต่แรงไปหน่อย นายทวาร มิชาล ซูลล่า ออกมาตัดบอลได้ก่อน
สโลวาเกีย ครองบอลมากกว่าก็จริง แต่ทีมไทยเล่นสวนกลับเร็วได้วูบวาบทีเดียว นาทีที่ 27 เกมต้องหยุดไปพักใหญ่เมื่อ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เตะบอลอัดหน้า มาร์ติน สเคอร์เทล จนลงไปนอนตาค้าง แต่เจ้าหน้าที่เข้ามาปฐมพยาบาลจนเล่นต่อไปได้
นาที 30 ทีมไทยน่าจะได้ประตูตีเสมออย่างที่สุดเมื่อ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ แตะบอลหนีเข้าเขตโทษด้านขวา กดเต็มเท้าข้ามคานไปนิดเดียวหวาดเสียวได้ลุ้น
บุกอยู่เพลินๆ นาทีที่ 34 สโลวาเกียโต้กลับเร็วได้ประตูนำห่าง 2-0 เมื่อ โรเบิร์ต มัค ได้บอลแทงทะลุช่องเข้าเขตโทษ หลุดแทรกกลางแนวรับไทย ซัดเรียดด้วยขวา 12 หลา ตุงตาข่าย
ช้างศึกถึงกับช็อตไปพักใหญ่หลังโดนนำห่าง แต่ได้ส้มหล่นได้ประตูไล่มา 2-1 ในนาทีที่ 42 เมื่อนายทวาร มิชาล ซูลล่า จ่ายบอลไปติด ธีรศิลป์ แดงดา ที่ดักได้ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ จักรพันธ์ แก้วพรม แปโล่งๆ เข้าไป
ไทยคึกคักลุยต่อทันที ชนาธิป ทิ้งบอลยาวไปทางขวาให้ มงคล แตะหนีเข้าเขตโทษ แต่ยิงปลิ้นออกไปเฉย ครึ่งแรกทดเจ็บ 3 นาที จากช่วงเวลาที่ สเคอร์เทล เจ็บ แต่ไม่มีประตูเพิ่ม สโลวาเกีย นำ ไทย 2-1
ครึ่งหลัง
ช้างศึกเปลี่ยนตัวก่อนส่ง บดินทร์ ผาลา ลงมาทำเกมปีกขวาแทน มงคล ทศไกร และแค่ 3 นาที บดินทร์ ได้โอกาสยิงไกลแต่เบาไปเข้ามือโกล์
ไทยบุกหนักต่อเนื่อง นาที 51 กองหลังสโลวาเกียสกัดไม่ดี มาเช้าทาง ชนาธิป ส่องเรียด 18 หลา แต่ไม่ผ่านมือ มิชาล ซูลล่า ที่ปัดเอาไว้ได้ ก่อนที่กองหลังจะเตะทิ้งออกไป
นาทีที่ 54 ธีราธร ยิงไปติด สเคอร์เทล บอลชิ่งขา ธีราธร กระดอนเข้ากรอบ แต่ มิชาล ซูลล่า ปัดข้ามคาน อีก 10 นาทีต่อมา ไทยเปลี่ยนตัวคนที่สอง นูรูล ศรียานเก็ม ลงมาแทน จักรพันธ์ แก้วพรม
โอกาสครองบอลตอนนี้ไทยมากกว่านิดหน่อย 51-49 แต่กลายเป็น สโลวาเกีย มาได้ประตูนำห่าง 3-1 นาทีที่ 68 เป็นการทำชิ่งก่อนที่ เอริค พาซินด้า จะปั่นด้วยซ้ายจากระยะ 20 หลา เช็คเสาเกือบถึงสามเหลี่ยมเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
นาที 72 ไทยเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง สิโรจน์ ฉัตรทอง ลงมาแทน พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา หวังแก้ประตูคืนให้ได้ ก่อนมาได้ประตูไล่มา 3-2 นาที 79 จากลูกฟรีคิกที่เปิดไปให้ พรรษา เหมวิบูลย์ ซัดในกรอบเขตโทษเข้าไป
ช่วงเวลาที่เหลือ ไทยบุกหนักแต่ไม่สามารถตามตีเสมอได้สำเร็จ จบเกม สโลวาเกีย เอาชนะ ทีมชาติไทย ไปได้แบบดุเดือด 3-2 คว้าแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ไปครอง
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ไทย : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ - ฟิลิป โรลเลอร์ ,พรรษา เหมวิบูลย์ ,เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ,พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา - จักรพันธ์ แก้วพรม ,ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ,ชนาธิป สรงกระสินธ์ - มงคล ทศไกร ,ธีราทร บุญมาทัน ,ธีรศิลป์ แดงดา
สโลวาเกีย : มิชาล ซูลล่า - บอริส เซคูลิช ,มาร์ติน สเคอร์เทล ,โรเบิร์ต มาซาน ,ลูโบเมียร์ ซัทก้า - อ็องเดรจ์ ดูด้า ,แยน เกรกุส ,เอริค ซาโบ ,เอริค พาซินด้า - อดัม เนเมค ,โรเบิร์ต มัค