กุนโดกานฮีโร่!ยิงวิฯสุดท้ายเสือเหลืองเฉือน1-0 ลิ่วชิงเดเอฟเบ
"เสือเหลือง"โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์เกือบต้องไปลุ้นยิงจุดโทษตัดสินอยู่แล้วแต่มาได้อิลกาย กุนโดกานสวมบทฮีโร่ซัดประตูชัยในวินาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลาพาทีมเชือดกรอยเธอร์ เฟือร์ธทีมจากดิวิชั่น 2 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงเดเอฟเบ โพคาลรอดวลผู้ชนะระหว่างบาเยิร์น มิวนิคหรือกลัดบัค
เดเอฟเบ โพคาลรอบรองชนะเลิศ
วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2555
กรอยเธอร์ เฟือร์ธ 0 : 1 ดอร์ทมุนด์
ประตู : 0-1 กุนโดกาน น.120
ครึ่งแรก
เกมเดเอฟเบ โพคาลรอบรองชนะเลิศดอร์ทมุนด์แม้ว่าจะเจอกับทีมที่อยู่ในลีกต่ำกว่าแต่ก็ไม่ประมาทส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงครบเลยและก็เกือบเสียจุดโทษในนาทีที่ 6 เมื่อบอลไปโดนหัวไหล่ของเคห์ลผู้เล่นเฟือร์ธประท้วงกันใหญ่แต่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้ว่าอะไร
เกมในช่วงแรกทั้ง 2 ทีมยังจ่ายบอลผิดพลาดกันเยอะทำให้ครองบอลกันไม่ได้ทั้งคู่และดูเป็นเจ้าบ้านที่ได้ครองบอลมากกว่าอยู่หน่อยๆด้วย พาบอลขึ้นมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆเขตโทษของดอร์ทมุนด์ได้บ่อยครั้งแต่จังหวะออกบอลสุดท้ายยังไม่ค่อยมีจินตนาการกันเท่าไหรนัก
นาทีที่ 17 ดอร์ทมุนด์ก็มีโอกาสได้ลุ้นประตูครั้งแรกของเกมนี้เมื่อเคห์ลข้ามบอลไปให้กับชเมลเซอร์ที่เติมขึ้นมาทางซ้ายก่อนที่ตัวเองจะวิ่งเข้าไปโหม่งที่เสาแรกแต่ก็ไปตรงตัวของกรุนรับไว้ได้พอดี
ผ่านครึ่งชั่วโมงของเกมทีมเยือนก็น่าจะได้ประตูขึ้นนำสุดๆเมื่อเบนเดอร์ครอสบอลไปให้กับเลวานดอฟสกี้ที่เสาสองก่อนที่หัวหอกโปลจะโหม่งตั้งกลับมาหน้าประตูและคากาวะที่ยื่นอยู่โล่งกลับโหม่งบอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย ไม่รู้พลาดได้ไงลูกนี้สำหรับเพลย์เมคเกอร์เจแปนนีส
ดอร์ทมุนด์เริ่มตั้งเกมได้แล้ว นาทีที่ 41 บลาสซีคอฟสกี้ก็ได้โอกาสยิงด้วยเท้าซ้ายข้างไม่ถนัดบอลพุ่งไปชนเสาอย่าน่าเสียดายหลังจากนัก"เสือเหลือง"เป็นฝ่ายบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นอยู่ฝ่ายเดียวแต่ก็ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ จบครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลัง
เริ่มครึ่งหลังเฟือร์ธก็เกือบได้ลุ้นจากจัวหวะที่ซาราเรอร์เปิดบอลมาจากทางซ้ายให้กับเนห์ริกที่เกือบจะได้ยิงแล้วแต่ชเมลเซอร์ก็วิ่งเข้ามาสกัดไว้ได้ทันแบบเฉียดฉิว
นาทีที่ 56 เลวานดอฟสกี้ก็ได้บอลบริเวณกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจะเปิดไปให้กับโกรสครอยซ์ได้โหม่งที่หน้าประตูแต่กรุนก็ยังไวพุ่งปัดออกหลังไปได้ 2 นาทีต่อมาคากาวะก็เล่นกับโกรสครอยซ์ก่อนที่คากาวะจะได้ปั่นโค้งบอลเหินข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น
ผ่านครึ่งชั่วโมงตอนนี้ทั้งเจ้าถิ่นเริ่มเปิดเกมแลกแบบไม่เกรงกลัวแชมป์เก่าเลย นาทีที่ 61 โอคเชี่ยนก็ได้โหม่งบอลที่เปิดมาจากกราบซ้ายลอยข้ามคานไปนิดเดียว นับเป็นโอกาสได้เสียวเต็มๆครั้งแรกของเจ้าถิ่นหลังจากก่อนหน้านี้ทำเกมกันขึ้นมาได้ดีหลายครั้งแต่จบกันไม่ได้ซักที
เล่นไปเล่นมากลายเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ครองบอลบุกเข้าใส่ดอร์ทมุนด์อย่างต่อเนื่องนาทีที่ 78 ชเมลเซอร์ประกบหลวมไปหน่อยปล่อยให้เนห์ริกได้ตั้งป้อมเปิดจากทางขวาและก็เป็นโอคเชี่ยนได้โหม่งแต่กดไม่ลงบอลลอยข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น
ช่วงท้ายเกมดอร์ทมุนด์พยายามทำเกมบุกแต่ก็เจาะเกมรับของเจ้าถิ่นไม่ได้ จบ 90 นาทียังเสมอกันอยู่ 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
ต่อเวลาพิเศษ
ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรกทั้งคู่ผลัดกันเป็นฝ่ายครองบอลและนาทีที่ 96 เฟือร์ธก็เกือบได้ประตูนำแชมป์เก่าเมื่อชมิดท์กัลเปิดบอลข้ามไวเดนเฟลเลอร์ไปที่เสาสองให้กับโอคเชี่ยนได้โหม่งแต่บอลก็หลุดกรอบไปนิดเดียวเท่านั้น น่าเสียดายจริงๆจังหวะนี้สำหรับเจ้าถิ่น ต้องบอกว่าวันนี้ตลอดทั้งเกมเจ้าถิ่นสู้กับจ่าฝูงบุนเดสลีกาได้ดีมากทีเดียว
ต่อเวลาพิเศษครึ่งหลังคล็อปป์เปลี่ยนตัวสำรองคนสุดท้ายเปริซิชลงมาแทนเลวานดอฟสกี้ นาทีที่ 107 เนห์ริกก็ลองส่องไกลจากระยะประมาณ 20 หลาบอลเหินข้ามคานไป 4 นาทีต่อมาโอคเชี่ยนก็ได้ยิงในกรอบเขตโทษแต่ก็ข้ามคานเหมือนเดิม
2 นาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นเปลี่ยนเอาเฟจซิชโกล์สำรองลงมาแต่ดอร์ทมุนด์ก็มายิงประตูชัยในช่วง 3 วินาทีสุดท้ายก่อนจะครบ 120 นาทีเมื่อกุนโดกานได้โอกาสยิงในกรอบเขตโทษบอลชนเสาเข้าประตูไป จบเกมดอร์ทมุนด์ต้องเหนื่อยถึง 120 นาทีก่อนที่จะเฉือนเอาชนะกรอยเธอร์ เฟือร์ธไปได้ 1-0 เข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลเดเอฟเบ โพคาลโดยจะรอพบผู้ชนะระหว่างบาเยิร์น มิวนิคกลับกลัดบัคที่จะเตะกันในวันพรุ่งนี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
กรอยเธอร์ เฟือร์ธ : แม็กซ์ กรุน(เฟจซิช น.119), เมร์จิม มาฟราจ, โธมัส ไคลน์, ไฮน์ริช ชมิดท์กัล, แบร์น เนห์ริก, เอ็ดการ์ ไพร์บ, สเตฟาน เฟอร์สท์เนอร์, เซร์คาน ซาราเรอร์, เฟลิกซ์ เคล้าซ์(อซาโมอาห์ น.85), คริสโตเฟอร์ โนเท่(ซิลเนอร์ น.69), โอลิวิเยร์ โอคเชี่ยน
สำรองไม่ได้ใช้ : คาราสลาวอฟ, เปโกวิช, เปคเติร์ก, เบาม์การ์เทล
ดอร์ทมุนด์ : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์, แม็ท ฮุมเมิลส์, เนเว่น ซูโบติช, มาร์เซล ชเมลเซอร์, ลูคัสซ์ พิสซ์เซ็ค, เซบาสเตียน เคห์ล, สเวน เบนเดอร์(กุนโดกาน น.82), เควิน โกรสครอยซ์, ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้(เปริซิช น.106), ชินจิ คากาวะ(บาร์ริออส น.70)
สำรองไม่ได้ใช้ : โอโวโมเยล่า, ซานตาน่า, ลังเกรัค, ไลท์เนอร์