กลัวไม่ลุ้น!บังยิง+จ่ายผีป่วนท้ายเกมซิวเรดดิ้ง 2-1 ทะลุเอฟเอ
ให้แฟนดูเกมง่ายๆชนะสบายเหมือนชาวบ้านไม่เป็นสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่นำห่างจากลูกยิงและจ่ายของนานี่ที่ลงเป็นสำรองแทนโจนส์ที่เจ็บอีกแล้วไป แต่กลับมาประมาทโดนตีไข่แตกท้ายเกม ยังดีที่ยื้อสกอร์ได้จนจบ 2-1 ทะลุผ่านเข้ารอบต่อไปชนิดที่เฟอร์กี้เครียดทั้งเกม
เอฟเอ คัพ รอบ 5
วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 1 เรดดิ้ง
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ประตู :1-0 นานี่ น.69, 2-0 เอร์นานเดซ น.72, 2-1 แม็คอีนัฟฟ์ น.81
คลิปไฮไลท์ เอฟเอ คัพ แมนยู 2-1 เรดดิ้ง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดต้อนรับการมาเยือนของเรดดิ้งเพื่อที่จะก้าวไปให้ถึงแชมป์เอฟเอ คัพที่พวกเขาไม่ได้มาตั้งแต่ปี 2004 โน่นเลย
เซอร์ อเล็กซ์นั้นเลือกที่จะพักบรรดาตัวหลักตัวจริงอย่างฟาน เพอร์ซี่และรูนี่ย์ รวมทั้งคาร์ริคกับคากาวะเอาไว้ เพราะต้องกรำศึกหนักกันมา โดยเลือกให้เอร์นานเดซยืนกับเวลเบ็คในแดนหน้า
แนวรับมีวีดิชยืนสวมปลอกแขนกัปตันทีมลงคุม โดยบุตต์เนอร์ยืนแบ็คซ้ายไป ขณะที่โจนส์และสมอลลิ่งได้ลงพร้อมกันทั้งคู่
เรดดิ้งไม่ได้ส่งโพเกร็บเนียคลงเป็นตัวจริง แต่ให้เด ฟอนเดรยืนหอกไปแทนในเกมนี้ โดยมีฮันท์คอยป่วนแนวรับร่วมด้วย
สถิติของทั้งสองทีมเจ้าบ้านข่มแบบไกลลิบตาเลย เพราะ 12 เกมหลังสุดที่เจอกันมาในทุกรายการแมนฯยูไนเต็ดไม่เคยแพ้ ชนะถึง 8 และเสมอไป 4 เท่านั้น
มิหนำซ้ำลูกทีมของเฟอร์กูสันยังคว้าชัยได้ถึง 15 จากทั้งหมด 19 เกมที่ลงเล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ดสำหรับรายการเอฟเอ คัพนี้
ครึ่งแรก
ผีเปิดฉากหยั่งพายุ
เริ่มเกมมาแค่ไม่กี่นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดลุยมันตั้งแต่วินาทีแรกเลย โดยพวกเขาทำเกมบุกกดดันหวังให้เรดดิ้งไม่ทันตั้งตัว แต่ติดตรงบอลยังไม่ผ่านเฟเดริชี่ที่ปัดป้องเอาไว้ได้
โก๋แดนน่าจ่ายมากกว่า
นาทีที่ 6 จริงๆแล้วหลุดไปมุมแบบนั้นจ่ายน่าจะได้ลุ้นมากกว่าสำหรับเวลเบ็คเมื่อเพื่อนจ่ายบอลไหลทะลุช่องให้เขาหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย แม้ว่าเอร์นานเดซจะเบียดกับกองหลังอยู่ตรงกลาง แต่เขาเลือกที่จะหวดบอลยิงด้วยเท้าซ้ายแบบฝืนๆ เลยเจอเฟเดริชี่เซฟเอาไว้ได้
ฮันท์ถึงเลือด-เรดดิ้งตั้งหลักได้
นาทีที่ 14 งานนี้ต้องปฐมพยาบาลกันอย่างเดียวเท่านั้นสำหรับฮันท์ที่ขึ้นโหม่งบอลแต่โดนหัวของวีดิชโขกเข้าด้านหลังเต็มๆจนเลือดแตกไหลริน ผู้ตัดสินต้องให้ออกไปทำแผลที่ข้างสนามแล้วกลับมาใหม่ มีเรียกเสียงฮือฮาได้สักหน่อยเพราะต้องเปลี่ยนทั้งเสื้อและกางเกงข้างสนามเลย
ส่วนในเกมนั้นต้องถือว่าเรดดิ้งกลับมาเข้าที่เข้าทางได้เร็วและเล่นกันได้ดีขึ้นเรื่อยๆจนตอนนี้คุมเกมบุกใส่แมนฯยูไนเต็ดแทน
โคตรของโคตรซูเปอร์เซฟครับเฟเดริชี่!
นาทีที่ 22 ลูกนี้มันต้องใส่สกอร์แล้วเว้ยเฮ้ยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เพราะเคลฟเวอร์ลี่ย์ได้ลองส่องยิงเน้นๆนอกกรอบ บอลพุ่งเลียดรับยาก แต่เฟเดริชี่ล้มตัวปัดเอาไว้ได้ แม้ว่ามันจะเข้าทางของยังที่วิ่งเข้ามาเอี้ยวตัวก่ะยิงให้เสียบเสาแรกเน้นๆไปเลย แต่เฟเดริชี่ก็ไวโคตรลุกมาปัดออกหลังได้เฉียดฉิวสุดๆ
ผีกลับมาครองแต่ไม่ขาด
เจอเกมบีบเข้าเร็วๆไปทำให้มิดฟิลด์ตรงกลางของแมนฯยูไนเต็ดเล่นกันไม่ออกเลยทีเดียว เพราะแม้ว่าจะได้กลับมาครองบอลคืนเอาบ้าง แต่โดยรวมแล้วเกมเจ้าบ้านไม่ได้มีจังหวะต่อจังหวะปั้นกันสักเท่าไหร่ เพราะโดนเข้าเร็วจนเล่นกันไม่ถนัดนะ
โจนส์หาเรื่องให้ตัวเองเจ็บอีก
นาทีที่ 38 ไม่น่าเลยจริงๆสำหรับโจนส์เพราะตัวเองเปราะอยู่แล้ว แต่จังหวันี้ไปจับยาวแล้วจำต้องเอี้ยวตัวเบี่ยงขาขวาเพื่อปั้มบอลกับผู้เล่นของเรดดิ้งจนตัวเองกลิ้งลงไปนอนโอดโอยกับพื้น พอปฐมพยาบาลแล้วเอาน้ำหนักลงที่เท้ากลับไม่ไหว ดูท่าจะต้องพักอีกแล้ว
ทำให้แมนฯยูไนเต็ดต้องส่งตัวนานี่ลงไปในสนามแทนที่ของโจนส์ แล้วขยับเอาบาเลนเซียไปยืนแบ็คขวาจำเป็นแทน
เล ฟอนเดรซัดให้ลามะได้บิน
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ใกล้เคียงมากจริงๆสำหรับจังหวะยิงครั้งนี้ของเล ฟอนเดรที่พลิกไปยิงนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งไซด์จะเสียบเข้าเสาแรกอยู่แล้ว แต่เด เกอาก็บินไปคว้าเอาไว้ได้หนึบมือพอดี อันนี้ประมาทไม่ได้เลยเพราะเล ฟอนเดรยิงมา 7 นัด 7 ประตูให้กับเรดดิ้งเลยนะ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บแมนฯยูไนเต็ดน่าจะได้ประตูสุดสวยจากนานี่ที่วิ่งเข้าบวกบอลซึ่งกองหลังเรดดิ้งสกัดออกมาไม่ขาดได้แบบเต็มข้อ บอลพุ่งโค้งฮุคผ่านมือของเฟเดริชี่ไปแล้ว แต่กลับชนเสาไกลซะก่อน
จบ 45 นาทีแรกเลยกลายเป็นว่าทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0 แบบแมนฯยูไนเต็ดหัวเสียอยู่สักหน่อยที่บุกแล้วทำไม่ได้ แถมยังต้องมาเสียโจนส์ไปอีก
ครึ่งหลัง
โดนด่าซะ ... บังยิงเองซะงั้น
นาทีที่ 50 ถ้าเดินไปตะคอกต่อหน้าได้คงทำแล้วสำหรับเฟอร์กูสัน เพราะจังหวะนี้นานี่ทำเสียของหมด แมนฯยูไนเต็ดได้สวยกลับ นักเตะเรดดิ้งยืนกันสูงทำให้มีพื้นที่เลือกเล่นได้เยอะ มีเพื่อนกำลังวิ่งทำทางอยู่สองฝั่ง แต่นานี่กลับเลือกยิงไกลกว่า 30 หลาแถมจังหวะฝืน บอลเลยพุ่งเลียดๆเข้ามือเฟเดริชี่สบาย
เรดดิ้งขยับเกมของตัวเองดีขึ้น
หลังจากหลุดๆไปให้แมนฯยูไนเต็ดครองก่อนในช่วงแรก ตอนนี้เรดดิ้งได้บอลมาครองกันติดเท้าอยู่พักใหญ่ เพียงแต่โอกาสในการเจาะเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายของพวกเขายังถือว่าน้อยไปอยู่
น้องแอนบอกขอเสียงโหน่ย
นาทีที่ 61 กระตุ้นกันสักนิดสำหรับแมนฯยูไนเต็ด จากพ่อหนุ่มอารมณ์ดีอย่างอันแดร์สันที่ได้บอลลากหลุดเข้าไปในเขตโทษ แม้ว่ามุมจะแคบและโดนบีบให้ยิงด้วยขวา แต่เขาก็บอลไปติดเซฟของเฟเดริชี่ ก่อนที่จะกระตุ้นแฟนบอลให้ส่งเสียงเชียร์กันเพิ่มขึ้น
และแล้วก็ต้องลง ... RVP แทนพี่หนุ่ม
อีก 3 นาทีต่อมา อั้นอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ต้องลงเหมือนเดิมสำหรับฟาน เพอร์ซี่เพราะตอนนี้เกมของแมนฯยูไนเต็ดขาดทีเด็ดทีขาดในแดนหน้า โดยเปลี่ยนเอายังออกไป
ใครด่าผม!อาบังวิ่งบวกให้ผีเฮเต็มเสียง
นาทีที่ 69 แม้ว่าจะเล่นตะกุกตะกักไปหลายดอก แต่สุดท้ายนานี่ก็มายิงเรียกเสียงเฮจากแฟนบอลได้สำเร็จ จากจังหวะที่วาเลนเซียแตะบอลจ่ายเลียดมาให้ ก่อนนานี่จะจับจังหวะแรกบอลเด้งลอยขึ้นแล้วซัดไม่ต้องรอ บอลพุ่งเสียบตาข่าย แมนฯยูไนเต็ดนำ 1-0
ไหลแล้วจ้า!บังต่อเนื่องเปิดให้ถั่วโขกโฉบเฮ
อีก 2 นาทีต่อมา พอได้ปุ้บก็เหมือนกับเขื่อนแตกเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ดที่ทำเกมบุกต่อเนื่องใส่เรดดิ้ง จนมาได้ประตูนำห่างจากลูกเปิดของนานี่ที่บรรจงตักไปเสาแรกให้เอร์นานเดซพุ่งมาโฉบโขกตามสูตรเป๊ะๆ เห็นอีกทีบอลนอนกองอยู่ก้นตาข่าย แมนฯยูไนเต็ดทิ้ง 2-0 เฟอร์กี้ไม่ต้องไปโวยผู้ตัดสินที่ 4 กดดันให้เมื่อยตุ้มแล้ว
ประมาทนักก็โดนซะ!ผีเหม่อไข่เลยแตก
นาทีที่ 81 ยืนหลังห่างกันน่าเกลียดเลยสำหรับแนวรับของแมนฯยูไนเต็ดในจังหวะนี้ที่เปิดช่องให้กับเรดดิ้งได้ลุย วีดิชหายจากตำแหน่ง สมอลลิ่งพยายามเข้าสกัดลูกเปิดจนบอลไปเข้าทางของแม็คอีนัฟฟ์ แม้ว่าบุตต์เนอร์จะพยายามเข้าสกัดแต่ไม่ทัน โดนยิงบอลโค้งผ่านเด เกอาเสียบเสาสองซะแล้ว เรดดิ้งยังมีหวังไล่ตามมา 2-1
โก๋แดน ... จะเอาฮาใช่ไหม?
นาทีที่ 85 ก่ะว่าจะสวนเกมเอาแบบหล่อๆแต่กลายเป็นฮาแถมโดนเฟอร์กูสันตะคอกใส่อย่างแรงเลยสำหรับเวลเบ็คที่เพื่อนจ่ายบอลทะลุช่องไปให้ เจ้าตัวก่ะว่าจะหลอกกองหลังแล้วเข้าไปซัดเหน่งๆ แต่จังหวะล็อกบอลซ้ายไปขวากลับไปติดเท้าหลักที่ยืนก่อนสะดุดหัวเกือบทิ่มแล้วบอลก็กลิ้งหลุดออกหลังไปเลย
ช่วงท้ายเกมอึดอัดหัวใจแทบแย่เหมือนกันสำหรับแฟนแมนฯยูไนเต็ดที่แม้ว่าจะมีโอกาสได้ฝังจากฟาน เพอร์ซี่ แต่ก็โดนเรดดิ้งบุกกดดันไม่หยุด เล่นเอาหายใจไม่ทั่วท้อง แต่สุดท้ายจบ 90 นาทีพวกเขาก็เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ผ่านเข้ารอบต่อไปรอเจอผู้ชนะระหว่างเชลซีและมิดเดิ้ลสโบรห์
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เกอา, ฟีล โจนส์(นานี่ น.42), คริส สมอลลิ่ง, เนมันย่า วีดิช, อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, อันแดร์สัน(คาร์ริค น.83), แอชลี่ย์ ยัง(ฟาน เพอร์ซี่ น.64), ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ, แดนนี่ เวลเบ็ค
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ไรอัน กิ๊กส์, ชินจิ คากาวะ
เรดดิ้ง : อดัม เฟเดริชี่, นิคกี้ ชอรี่ย์, เอเดรียน มาเรียปป้า, ฌอน มอร์ริสัน, สตีเฟ่น เคลลี่, เย็ม คาราแกน, มิเกเล่ เลเกอร์วูด(กัทธรี่ น.63), โจบี้ แม็คเอนัฟฟ์, อดัม เล ฟอนเดร, โนเอล ฮันท์, แกเร็ธ แม็คเคลียรี่ย์(ร๊อบสัน-คานู น.70)
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : มิคเคล แอนเดอร์สัน, คริส กุนเทอร์, อเล็กซ์ เพียร์ช, ดาเนียล คาร์ริโก้, พาเวล โพเกร็บเนียค