“มุ้ย” ซัดเบิ้ลทุบสถิติดาวยิง! ไทย เฉือน ฟิลิปปินส์ 2-1 ลิ่วตัดเชือก
"มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ทำคนเดียว 2 ประตู ขึ้นแท่นดาวซัลโวทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์อาเซียนด้วยจำนวน 19 ประตู นำทัพช้างศึก ทีมชาติไทย เบียดชนะ ทีมชาติฟิลิปปินส์ 2-1 พร้อมการันตีเข้ารอบรองชนะเลิศเรียบร้อย
ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 กลุ่มเอ นัดที่ 3
วันอังคารที่ 14 ธันวาคม 2564
สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์
ทีมชาติไทย 2-1 ทีมชาติฟิลิปปินส์
ผู้ทำประตู :1-0 ธีรศิลป์ แดงดา น.26,1-1 พาทริค ไรเชลท์ น.57,2-1 ธีรศิลป์ แดงดา (จุดโทษ) น.78
“ช้างศึก” นำจ่าฝูงด้วยการมี 6 แต้มเต็มจากชัยชนะเหนือ ติมอร์-เลสเต 2-0 และ เมียนมา 4-0 เกมนี้ มาโน่ โพลกิ้ง เปลี่ยน 1 ตำแหน่ง ส่ง สุภโชค สารชาติ ลงตัวจริงแทน ศุภชัย ใจเด็ด นอกนั้นยึดชุดเดิมที่ถล่ม เมียนมา
ส่วน ฟิลิปปินส์ อยู่อันดับ 3 ของตาราง มี 3 คะแนนจากการแพ้ สิงคโปร์ 1-2 และถล่ม ติมอร์ 7-0 เกมนี้ สกอตต์ คูเปอร์ ส่งนักเตะค้าแข้งในลีกไทยลงสนามถึง 6 คน นำโดย อามานี อากีนัลโด้, เอียน แรมซีย์, ไดสุเกะ ซาโตะ, แพทริก ไรเซลท์, มาร์ติน สตูเบิ้ล และ เควิน อินเกรโซ่
สถิติในศึกชิงแชมป์อาเซียนคู่นี้เจอกันล่าสุดเมื่อ 3 ปีก่อน อยู่กลุ่มเดียวกัน และเสมอกันไป 1-1 ที่บาโคลอด ก่อนจะกอดคอกันเข้ารอบตัดเชือก อย่างไรก็ตาม ฟิลิปปินส์ พ่ายให้ทีมแชมป์ เวียดนาม สกอร์รวม 2-4 เช่นเดียวกับ ไทย ที่แพ้ มาเลเซีย ด้วยกฎอเวย์โกล หลังเสมอกัน 2-2
เปิดฉากมาในช่วง 15 นาแรก ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายตรองเกมได้ระดับ 75% แต่ต้องเจอกับเกมรับต่ำของฟิลิปปินส์ที่ช่วยกันไล่ช่วยกันบีบเร็ว ทำให้ช้างศึกยังไม่มีจังหวะยิงแบบเหน่งๆแต่อย่างใด
นาทีที่ 22 ช้างศึกเข้าทำสวย ธีราทร บุญมาทัน ทิ้งบอลยาวในแดนตัวเองไปให้ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม หลุดไปทางขวาก่อนจ่ายย้อนมาให้ สุภโชค สารชาติ ยิงด้วยขวาไปติดบล็อคกองหลัง และจังหวะต่อเนื่อง ชนาธิป สรงกระสินธ์ เล่นจังหวะสองในกรอบเขตโทษทำให้โดนสกัดชวดได้สับไก
อุ้มแอสซิสต์ มุ้ยทุบสถิติ! นาทีที่ 26 ทำนบเกมรับของฟิลิปปินส์ก็พังทลาย ธีราทร บุญมาทัน แตะหลบ พาทริค ไรเชลท์ หลุดไปเปิดบอลทางปีกซ้ายเข้ากลางกระดอนลงพื้นให้ ธีรศิลป์ แดงดา วอลเลย์ด้วยซ้ายจังหวะเดียวแบบไม่จับตุงตาข่ายหมดจด ไทยแลนด์ออกนำ 1-0 และเป็นประตูที่ 18 ของเจ้ามุ้ยในรายการนี้ เป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์อาเซียน แซงหน้า 17 ประตูของ นอห์ อลัม ชาห์ จากสิงคโปร์ไปเรียบร้อย
หลังได้ประตูปลดล็อก ช้างศึกเล่นง่ายทันทีทำเกมรุกได้หวือหวามากขึ้่น นาทีที่ 28 พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล จ่ายจากทางซ้ายมาให้ ธีรศิลป์ แดงดา ซัดด้วยซ้ายไปติดแนวรับ ถัดมาอีก 4 นาที ธีรศิลป์ แดงดา ซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟ เควิน แฮนเซ่น รับกระฉแกมาเข้าทาง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ยกบอลเข้าสู่ตาข่ายไปได้ แต่มีธงล้ำหน้าขึ้นมาชวดได้ประตู
จบครึ่งแรก ไทยนำ 1-0 ด้วยรูปเกมที่เหนือกว่าแบบเบ็ดเสร็จ ครองบอล 76-24% โอกาสยิง 6-1 เข้ากรอบ 4-0 ขณะที่ฟิลิปปินส์ ต้องใช้เกมหนักตัดฟาวล์รับใบเหลืองไป 2 คนคือ มาร์ติน สตูเบิ้ล และกัปตันทีม สเตฟาน ชร็อค
ครึ่งหลังไทยยังเดินหน้าบุกเหมือนเดิม นาทีที่ 52 ภโชค สารชาติ ซัดในกรอบแต่ 10 หลาแต่ไปตรงตัว เควิน แฮนเซ่น รับเอาไว้ได้ ถัดมา 2 นาทีช้างศึกน่าได้จาก ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ตะบันไกล 25 หลาไปโดน เควิน แฮนเซ่น ปัดปลายมือชนคาน
บุกอยู่ดีโดนตีเสมอเฉย! นาทีที่ 57 อม เบียร์ห โหม่งสกัดลูกฟรีคิกไม่ไปไหนตั้งให้ พาทริค ไรเชลท์ ยิงไม่เหลือให้ฟิลิปปินส์ ตามตีเสมอ 1-1 เป็นการเสียประตูแรกของทีมชาติไทยในทัวร์นาเมนต์
นาทีที่ 60 ช้างศึกเกือบนำอีกครั้ง ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ได้ยิงด้วยขวาไปโดน ไดสุเกะ ซาโตะ สกัดบอลออกมาจากเส้นได้แบบจวนเจียน
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ถูกส่งลงมาแทน ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร และกัปตันทีม ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่มีใบเหลืองติดตัว ในนาทีที่ 75
ลงมาแป๊บเดียว 2 ตัวสำรองแผลงฤทธิ์ทันที วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ซัดไปติดมือ เควิน แฮนเซ่น รับหลุดจังหวะแรกก่อนตามมาเก็บได้ ก่อนจังหวะต่อมา ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ โดน อามานี อากินัลโด้ หวดล้มในกรอบ ผู้ตัดสินเป่าให้ไทยได้จุดโทษทันที
ธีรศิลป์ แดงดา รับหน้าที่สังหารคมกริบให้ไทยนำอีกครั้งเป็น 2-1 ในนาทีที่ 78 เป็นประตูที่ 4 จาก 3 นัดของเจ้ามุ้ย และประตูที่ 19 นำโด่งดาวซัลโวฟุตบอลอาเซียนตลอดกาล
จบเกม ทีมชาติไทย เฉือนชนะ ฟิลิปปินส์ 2-1 เก็บ 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัด การันตีเข้ารอบตัดเชือกแน่นอนแล้ว ส่วน ฟิลิปปินส์ มีแค่ 3 คะแนน ตกรอบแน่นอนแล้วเช่นกัน
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ทีมชาติไทย : ฉัตรชัย บุตรพรม (GK), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, กฤษดา กาแมน, มานูเอล ทอม เบียร์ห, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, ชนาธิป สรงกระสินธ์ (C), สุภโชค สารชาติ, ธีรศิลป์ แดงดา
ทีมชาติฟิลิปปินส์ : เควิน แฮนเซ่น (GK), มิเกล บาส, อามานี อากินัลโด้, เจสเปอร์ นีฮอล์ม, ไดสุเกะ ซาโตะ, พาทริค ไรเชลท์, มาร์ติน สตูเบิ้ล, สเตฟาน ชร็อค (C), เควิน อินเกรโซ่, เอียน แรมซีย์, อังเคล กิราโด้