แชมป์กลุ่มหล่อๆ! "ช้างศึก" คึกทุกไลน์อัพซดนิ่มลอดช่อง 2-0
"ช้างศึก" ทีมชาติไทย ที่เปลี่ยนทีมแบบยกชุดแต่เกมรุกคมกริบได้ทีเด็ดจาก เอเลียส ดอเลาะ และ ศุภชัย ใจเด็ด ทำคนละ 1 ประตูในท้ายครึ่งแรก เชือดเจ้าภาพ สิงคโปร์ 2-0 คว้าชัยรวดทั้ง 4 นัด ผ่านเข้ารอบตัดเชือกในฐานะแชมป์กลุ่ม เอ
ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 กลุ่ม เอ นัดที่ 4
วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม 2564
สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์
ไทย 2-0 สิงคโปร์
ผู้ทำประตู : 1-0 เอเลียส ดอเลาะ น.31,2-0 ศุภชัย ใจเด็ด น.45+2
"ช้างศึก" ทีมชาติไทย ทำผลงานชนะรวดทั้ง 3 นัด นำจ่าฝูงของกลุ่ม เกมนี้จะแย่งแชมป์กลุ่มกับเจ้าภาพสิงคโปร์ ของกุนซือทาซึมะ โยชิดะ ที่มี 9 คะแนนเท่ากัน แต่ประตูได้เสียเป็นรอง มาโน่ โพลกิ้ง นายใหญ่ช้างศึกปรับทีมจากเกมล่าสุดที่ชนะฟิลิปปินส์ 2-1 ทั้ง 11 คน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ลงเฝ้าเสาในฐานะกัปตันทีม แดนกลางจัดด้วย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ แนวรุก ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ประสานงาน ศุภชัย ใจเด็ด
เริ่มเกมมาในช่วง 10 นาทีแรกทั้งสองทีมเข้าบอลกันหนักเกมหยุดหลายครั้ง สิงโคโปร์ต้องเปลี่ยนผู้เล่นเร็ว ชาคีร์ ฮัมซาห์ แบ็คซ้ายเจ็บจากการปะทะกับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง ซุลฟาห์มี่ อาริฟิน ลงมาเล่นแทน
นาทีที่ 16 บดินทร์ ผาลา พลาดทำเสียบอลก่อนที่ ฮามี ซาฮิน ลักไก่ยิงไกลให้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ต้องออกแรงเซฟทุบออกมาได้ ถัดมา 2 นาที ฮามี ซาฮิน รับใบเหลืองเป็นคนแรกจากการไปทำฟาวล์ใส่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
ผ่านไป 25 นาที ช้างศึกตรองบอลได้มากกว่าเล็กน้อย แต่ยังหาจังหวะยิงไม่ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ขณะที่เกมรุกของเจ้าภาพวูบวาบมากกว่า ได้สับไกไปแล้ว 5 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง
โป้งเดียวนับ! นาที่ที่ 31 โอกาสครั้งแรกต่อเนื่องครั้งที่สองของช้างศึกได้ประตูทันที จากจังหวะเรียกฟรีติกของ ทริสตอง โด ระยะ 25 หลาเยื้องไปทางขวา บดินทร์ ผาลา ปั่นเกือบเสียบสามเหลี่ยมแต่ ฮัสซัน ซันนี่ ปัดบอลไปชนคานกระดอนลงมาโดนตัวแล้วไปเข้าทาง เอเลียส ดอเลาะ ตามเข้าซ้ำจ่อๆไม่เหลือ ไทยออกนำ 1-0
เกมของไทยผ่อนคลายมากขึ้นหลังได้ประตูนำ นาทีที่ 42 ศุภชัย ใจเด็ด หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาไปซัดเรียดด้วยขวาเข้ามือ ฮัสซัน ซันนี่ ถัดมานาทีเดียวผู้รักษาประตูของสิงคโปร์ก็ต้องเซฟลูกยิงในกรอบของ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ อีกครั้ง
ยาวไปลูกพี่! ทดเจ็บ 45+2 ช้างศึกเพรสสูงแย่งบอลมาได้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ แอสซิสต์สวยๆให้ ศุภชัย ใจเด็ด หลุุดไปล่อเป้าเสาแรกให้ ไทย นำห่าง 2-0 เมื่อจบครึ่งแรก ในรูปเกมที่สิงคโปร์เหนือกว่าในครึ่งชั่วโมงแรก แต่ 20 นาทีท้ายรวมทดเจ็บลูกทีมมาโน่คมกริบ ยิง 5 เข้ากรอบ 5 ได้มา 2
ครึ่งหลังไทยเปลี่ยนตัวรวดเดียว 3 คนส่ง ฟิลิป โรลเลอร์, ปกเกล้า อนันต์ และ อดิศักดิ์ ไกรษร ลงมาเล่นแทน สุริยา สิงห์มุ้ย, บดินทร์ ผาลา และ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์
ช้างศึกคึกคักต่อเนื่อง นาที 46 ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ เติมมาเก็บตกลูกเปิดฟรีคิกของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ซัดหลุดเสาแรกได้ลุ้น ถัดมา วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ได้ซัดด้วยซ้ายในกรอบบอลหลุดกรอบออกไป
เจ้าภาพมีหจังหวะเสียวเหมือนกัน 2-3 ครั้งแต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เก็บกินได้หมด ไทยสวนสวยๆนาทีที่ 60 วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ แทงทะลุให้ ฟิลิป โรลเลอร์ หลุดเข้ากรอบโล่งๆ แต่ยิงช้าไปนิดโดนกองหลังเข้ามาบล็อกเอาไว้ได้ทัน
มาโน่ โพลกิ้ง เปลี่ยนตัว 2 คนสุดท้ายนาทีที่ 65 พิชา อุทรา กับ ศิวกรณ์ เตียตระกูล ลงมาเล่นแทน ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ ศุภชัย ใจเด็ด
ช่วงเวลาที่เหลือเกมไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ไทยเล่นประคองจนจบเกมเอาชนะ สิงคโปร์ ไปได้ 2-0 คว้าชัย 4 นัดรวด จบด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม ส่วนเจ้าภาพ ชนะ 3 แพ้ 1 เข้ารอบรองชนะเลิศเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ไทย : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, สุริยา สิงห์มุ้ย, เอเลียส ดอเลาะ, ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์, ทริสตอง โด, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, บดินทร์ ผาลา, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, ศุภชัย ใจเด็ด
สิงคโปร์ : ฮัสซัน ซันนี่ (GK), ซุลคาร์เนียน ซุสลิมาน, อิร์ฟาน ฟานดี้, ซาฟูวาน บาฮารูดิน, ชาคีร์ ฮัมซาห์, ชาวัล อานูอาร์, ฮาริสส์ ฮารูน, ฮาร์มี่ ไซยาฮิน, ชาห์ดาน ซูไลมาน, ฟาริส รัมลี่, อิคห์ซาน ฟานดี้