ผลบอล ไทย 2-1 ตรินิแดดและโตเบโก คิงส์คัพ 26 ก.ย. 2022
การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ประจำวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย.65 รอบชิงอันดับ 3 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 111 ของโลก ลงสนามพบกับ ทีมชาติตรินิแดดแอนด์โตเบโก ทีมอันดับ 101 ของโลก จากโซนคอนคาเคฟ โดยคู่นี้เป็นเกมระดับ "A" Match จะถูกคิดคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้งด้วย
รายชื่อผู้ตัดสิน : โมฮัมหมัด ทากี (สิงคโปร์), ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 : ทอนนี่ โคห์ มิน เคียส (สิงคโปร์), ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 : อับดุล ฮานนัน บิน อับดุล ฮาซิม (สิงคโปร์), ผู้ตัดสินที่ 4 : ต่อพงษ์ สมสิงห์ (ไทย)
โดยทีมชาติไทย ที่มี "มาโน่ โพลกิ้ง" คุมทัพ และมี "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นจัดการทีม ในรอบรองชนะเลิศพ่ายจุดโทษต่อ ทีมชาติมาเลเซีย 3-5 หลังเสมอในเวลาปกติ 1-1 ส่วนตรินิแดดแอนด์โตเบโก ที่มี "แองกัส อีฟ" คุมทัพ เกมรอบรองชนะเลิศแพ้ ทีมชาติทาจิกิสถาน 1-2
ทัพ "ช้างศึก" ยังเน้นระบบ 4-2-3-1 แต่มีการปรับทัพถึง 8 ตำแหน่งจากเกมที่แล้ว ผู้รักษาประตูจะมาใช้ กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก ลงเฝ้าเสา ขณะที่กองหลังยังใช้ กฤษดา กาแมน แต่เปลี่ยนคู่หูเป็น เฉลิมศักดิ์ อักขี แบ็คซ้ายซ้ายใช้ดาวรุ่งวัย 20 ปี ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ลงเดบิวต์ และแบ็คขวาวาง ศุภนันท์ บุรีรัตน์
ขณะที่กองกลางดัน ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมในเกมนี้มายืนเป็นมิดฟิลด์คู่กับ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล โดยมี จักรพันธ์ แก้วพรม เป็นตัวรุก ส่วนปีกขวา ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ดาวเตะวัย 21 ปีลงเดบิวต์อีกคน ฝั่งปีกซ้ายใช้ สุภโชค สารชาติ ที่เกมกับมาเลเซียเล่นฝั่งขวาย้ายมาเล่นตรงที่ถนัดนี้ ส่วนกองหน้าตัวเป้าปรับมาใช้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ดาวยิงวัย 20 ปี ลงล่าตาข่ายก่อน
เริ่มเกม น.9 ช้างศึก เกือบได้ประตูขึ้นนำจากลูกเตะมุมฝั่งขวา สุภโชค สารชาติ เปิดบอลโค้งๆมาถึงเสาสอง เฉลิมศักดิ์ อักขี ได้โหม่งเน้นๆ บอลกำลังเข้าประตูอยู่แล้วแต่นักเตะตรินิแดดฯ มาเคลียสกัดไว้บนเส้นออกไปนิดเดียว
น.12 เป็นโอกาสอีกครั้งของทีมชาติไทย ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ได้โอกาสซัดด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดนอกกรอบเขตโทษ วิถีบอลพุ่งแรงจะเสียบใต้คาน ทว่า มาร์วิน ฟิลลิป โชว์เซฟบินปัดไว้ได้ปลายมือ
น.21 จากความผิดพลาดของ มาร์วิน ฟิลลิป นายด่านตรินิแดดฯ เตะผิดเหลี่ยมทำให้บอลมาเข้าทาง ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว เก็บตกบอลได้ก่อนยิงด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ เข้าไปอย่างง่ายดายช่วยให้ทีมชาติไทย ขึ้นนำไปก่อน 1-0
น.24 ตรินิแดดฯ เกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ เคสตัน จูเลียน พาบอลหลุดมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนเปิดบอลมาตรงกลาง รีออน มัวร์ ได้โหม่งแต่โชคดีที่ กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก ยืนตำแหน่งได้ดีช่วยทีมเซฟเอาไว้ได้
ช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งแรกไม่มีสกอร์เพิ่มเติม แต่รูปเกมเป็นฝั่ง "ช้างศึก" ที่ดูเหนือกว่าพอสมควร ก่อนจะจบ 45 นาทีแรก ทีมชาติไทย ยังคงออกนำ ตรินิแดดแอนด์โตเบโก 1-0
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง น.61 ตรินิแดดฯ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จนได้จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย บอลเปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนจะเป็น คารีม โมเสส ที่วิ่งโฉบเข้ามาโหม่งสะบัดเข้าไปตุงตาข่าย
น.63 ทีมชาติไทย ขยับเปลี่ยนตัวคนแรก โดยส่ง พรรษา เหมวิบูลย์ ลงสนามมาเล่นแทน เฉลิมศักดิ์ อักขี ที่บากเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ก่อนที่ น.65 เปลี่ยนเพิ่มอีก 3 คนรวด โดยถอด ธีราทร บุญมาทัน, จักรพันธ์ แก้วพรม, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ออกไปพัก และส่ง ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, พิชา อุทรา และธีรศักดิ์ เผยพิมาย ลงสนามมาเล่นแทน
น.72 ทีมชาติไทย ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากจังหวะที่ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ เลี้ยงบอลจากฝั่งขวาตัดเข้ามาตรงกลางก่อนปาดให้กับ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว จับหนึ่งจังหวะและไหลไปทางซ้ายให้กับ สุภโชค สารชาติ เอี้ยวตัวปั่นโค้งๆด้วยขวาส่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติมก่อนจบเกม ทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติตรินิแดดแอนด์โตเบโก 2-1 ทำให้ทัพ "ช้างศึก" คว้าอันดับ 3 ศึกคิงส์คัพ 2022 ไปครอง พร้อมกับรับเงินอัดฉีดจำนวน 2,000,000 บาท จาก "มาดามแป้ง"นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ที่ได้ประกาศไว้ก่อนเกมนี้อีกด้วย
สำหรับภารกิจต่อไปของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จะไปป้องกันแชมป์ลุยศึกฟุตบอล "เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ 2022" ระหว่างวันที่ 20 ธ.ค.65-16 ม.ค.66 โดยมีโปรแกรมประกอบด้วย วันที่ 20 ธ.ค.65 พบ บรูไน หรือ ติมอร์ เลสเต (เยือน), วันที่ 26 ธ.ค.65 พบ ฟิลิปปินส์ (เหย้า), วันที่ 29 ธ.ค.65 พบ อินโดนีเซีย (เยือน) และวันที่ 2 ม.ค.66 พบ กัมพูชา (เหย้า)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ทีมชาติไทย : กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (ผู้รักษาประตู), เฉลิมศักดิ์ อักขี (พรรษา เหมวิบูลย์ แทน น.63), กฤษดา กาแมน, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ธีราทร บุญมาทัน (ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ แทน น.65), จักรพันธ์ แก้วพรม (พิชา อุทรา แทน น.65), ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, สุภโชค สารชาติ (ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ แทน น.78), ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (ธีรศักดิ์ เผยพิมาย แทน น.65)
ตรินิแดดแอนด์โตเบโก : มาร์วิน ฟิลลิป (ผู้รักษาประตู), ออเบรย์ เดวิด, เชลดอน บาโต (เจสซี วิลเลียมส์ แทน น.46), อังเดร ฟอร์จูน (อาจานี ฟอร์จูน แทน น.46), เลวี การ์เซีย, คารีม โมเสส, รีออน มัวร์ (จอห์น-พอล รอคฟอร์ด แทน น.74), เนวีล ฮัคชอว์, อัลวิน โจนส์ (เควิน โมลิโน แทน น.46), เคสตัน จูเลียน, เลสตัน พอล (แอนโธนี เฮอร์เบิร์ต แทน น.82)
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : สุภโชค สารชาติ (ทีมชาติไทย)
ตารางคะแนน
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ลิเวอร์พูล | 11 | 28 |
2 | แมนเชสเตอร์ | 11 | 23 |
3 | เชลซี | 11 | 19 |
4 | อาร์เซนอล | 11 | 19 |
5 | น็อตติ้งแฮม | 11 | 19 |
6 | ไบรท์ตัน | 11 | 19 |
7 | ฟูแล่ม | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | แบงค็อก ยูไน | 13 | 30 |
2 | บุรีรัมย์ ยู | 10 | 24 |
3 | การท่าเรือ เ | 12 | 22 |
4 | บีจี ปทุม ยู� | 12 | 22 |
5 | พีที ประจวบ � | 13 | 22 |
6 | สุโขทัย เอฟซ | 13 | 20 |
7 | อุทัยธานี เอ | 13 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาเยิร์น มิว | 10 | 26 |
2 | RB ไลป์ซิก | 10 | 21 |
3 | ไอน์ทรัค แฟร | 10 | 20 |
4 | เลเวอร์คูเซ� | 10 | 17 |
5 | ไฟร์บวร์ก | 10 | 17 |
6 | ยูเนี่ยน เบอ | 10 | 16 |
7 | ดอร์ทมุนด์ | 10 | 16 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | นาโปลี | 12 | 26 |
2 | อตาลันต้า | 12 | 25 |
3 | ฟิออเรนติน่� | 12 | 25 |
4 | อินเตอร์ มิล | 12 | 25 |
5 | ลาซิโอ | 12 | 25 |
6 | ยูเวนตุส | 12 | 24 |
7 | เอซี มิลาน | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาร์เซโลน่า | 13 | 33 |
2 | เรอัล มาดริด | 12 | 27 |
3 | แอตเลติโก มา | 13 | 26 |
4 | บียาร์เรอัล | 12 | 24 |
5 | โอซาซูน่า | 13 | 21 |
6 | แอธเลติก บิล | 13 | 20 |
7 | เรอัล เบติส | 13 | 20 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ปารีส แซงต์ � | 11 | 29 |
2 | โมนาโก | 11 | 23 |
3 | โอลิมปิก มาร | 11 | 20 |
4 | ลีลล์ | 11 | 19 |
5 | โอลิมปิก ลีย | 11 | 18 |
6 | นีซ | 11 | 17 |
7 | แร็งส์ | 11 | 17 |
ดูทั้งหมด |