3 ใบแดง!เมสซี่เหมาสองบาร์ซ่าเฉือนราชันสุดระอุ
กลายเป็นเกม "เอล คลาซิโก้" ที่เดือดทะลุองศาไปเลย เมื่อมีสามใบแดงเกิดขึ้นในช่วงท้ายเกมที่ทั้งสองทีมระเบิดอารมณ์ใส่กัน แต่สุดท้ายจบลงด้วยชัยชนะของบาร์เซโลน่าที่ได้เมสซี่เหมาคนเดียวสองประตู เฉือนเอาชนะเรอัล มาดริดไป 3-2 เถลิงแชมป์แรกได้สำเร็จ
สแปนิช ซูเปอร์ คัพ เลกสอง
วันพุธที่ 18 สิงหาคม 2554
บาร์เซโลน่า 3 : 2 เรอัล มาดริด
ประตู : 1-0 อังเดรส อิเนสต้า น.15,1-1 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น.20,2-1 ลีโอเนล เมสซี่ น.44, 2-2 คาริม เบนเซม่า น.82, 3-2 ลีโอเนล เมสซี่ น.88
หลังจากเสมอกันมาในนัดแรกที่สนามซานติเอโก้ เบร์นาบิว 2-2 เกมนี้ก็มาเตะกันที่คัมป์นูรังของบาร์เซโลน่าที่ต้อนรับการมาเยือนของเรอัล มาดริดเพื่อวัดชิงแชมป์ถ้วยแรกของฤดูกาลใหม่
เจ้าบ้านบาร์เซโลน่าวันนี้จัดชุดใหญ่ลงเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นชาบี เอร์นานเดซ, อังเดรส อิเนสต้า, ลีโอเนล เมสซี่และดาวิด บีญ่า โดยมีเชสก์ ฟาเบรกัสมิดฟิลด์ตัวใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งจะเซ็นสัญญามาสดๆร้อนๆนั่งเป็นตัว สำรองอยู่ข้างสนาม
ส่วนทางเรอัล มาดริดก็ไม่ยอมน้อยหน้า ขนชุดใหญ่ลงกันเต็มสูบนำโดยคริสเตียโน่ โรนัลโด้, เมซุต โอซีล, ชาบี้ อลอนโซ่ รวมทั้งคาริม เบนเซม่าที่รอทะลวงตาข่ายอยู่ในแดนหน้า
ครึ่งแรก
เกมไม่ต่างกันมากนัก
ผ่านช่วง 10 นาทีแรก เหมือนจะยังต้องปรับจูนกันอยู่ทั้งสองทีม เพราะเกมเหมือนว่าติดๆขัดๆกันอยู่ในจังหวะบุก เพราะแลกกันอยู่ช่วงกลางสนาม พอมีทีมไหนได้บุกก็จะไปสุดแค่หน้ากรอบเขตโทษ ยังหาจังหวะจบที่เหมาะๆไม่ได้สักที
หลุดเป็นยวง!เมสซี่จ่ายเทพ-อิเนสต้ายิงสุดแจ่ม
นาทีที่ 15 หลังจากหาโอกาสยิงกันแทบไม่ได้ บาร์ซ่าก็แผลงฤทธิ์เหมือนในเกมที่แล้ว เมื่อเมสซี่ได้บอลกลางสนาม ยึกยักอยู่หลายจังหวะ ก่อนที่จะสบโอกาสแทงบอลทะลุช่องผ่านกองหลังของเรอัล มาดริดไปทั้งยวง ส่งให้อิเนสต้าหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับคาซิญาสที่พยายามจะพุ่งออกมาบล็อก แต่โดนชิพข้ามตัวบอลเข้าไปนอนอยู่ก้นตาข่ายแบบหมดสิทธิ์รับจริงๆ บาร์เซโลน่าชิงความได้เปรียบออกนำไปก่อนแล้ว 1-0
ทันด่วน!โด้จิ๋วสะกิดให้ราชันเสมอ
อีกเพียงแค่ 5 นาทีต่อมา เรอัล มาดริดก็ได้ประตูตีคืนแบบปัจจุบันทันด่วนเลย จากจังหวะเตะมุมที่กองหลังของบาร์ซ่าเคลียร์ไม่ขาด บอลยาวไปถึงเบนเซม่าที่เก็บตกได้แล้วยิงยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษ บอลไปเข้าทางของโรนัลโด้ที่หันเท้าสะกิดเปลี่ยนทางนิดเดียวส่งเข้าไปตุง ตาข่าย แม้ว่าผู้เล่นของบาร์ซ่าจะพยายามประท้วงว่าเป็นลูกล้ำหน้า แต่ไลน์แมนไม่ว่าอะไร ทำให้เรอัล มาดริดตีเสมอได้แล้วเป็น 1-1
เปโดรยิงสวยแต่คาซิญาสเซฟเยี่ยม
นาทีที่ 22 เกมเริ่มได้ลุ้นกันมากขึ้นไปทุกขณะ หลังจากเสียประตูไปบาร์ซ่าก็มาหวังทวงคืนจากลูกยิงของเปโดร ที่จัดการปั่นนอกกรอบเขตโทษผ่านบล็อกของกองหลังไปแล้ว แถมบอลพุ่งฮุคเหมือนจะเสียบเสาไกล แต่เป็นคาซิญาสที่ยังยอดเยี่ยมไม่สร่าง โดดปัดออกหลังไปได้ทัน
บัลเดสขอโชว์บ้าง
หลังจากโดนบาร์ซ่าลุยใส่ไปพักหนึง เรอัล มาดริดก็มาขอสวนคืนบ้างแบบสองจังหวะเน้นๆ โดยลูกแรกเป็นโรนัลโด้ที่ตะบันซัดเข้าไปติดเซฟของบัลเดสที่เกือบจะเข้าประตู ไปแล้ว เพราะปัดไปชนคานกับอีกจังหวะเป็นของโอซีลที่ได้หลุดเข้าไปแปด้วยซ้ายในกรอบ เขตโทษ แต่ก็เป็นบัลเดสอีกที่ล้มตัวปัดเอาไว้ได้ทัน ทำให้ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ในตอนนี้
เมสซี่ได้หลุดแต่ติดเซฟ
นาทีที่ 38 เป็นบาร์เซโลน่าที่ได้โอกาสลุ้น หลังจากวัดกันที่กลางสนามมาได้พักใหญ่ โดยเมสซี่รับบอลที่เพื่อนแทงทะลุช่องหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ด้วยการที่มีกองหลังวิ่งเข้ามาบีบ เลยต้องรีบยิงลูกเลียด ทำให้คาซิญาสเซฟเอาไว้ได้
โด้จิ๋วแผลงฤทธิ์ไม่ออก
รู้สึกว่าวันนี้จะไม่ใช่วันของโรนัลโด้ซะทีเดียว แม้ว่าเจ้าตัวจะมีโอกาสได้ลุ้นยิงและทำประตูได้ แต่จังหวะทำเกมทางริมเส้นนั้นดูจะทื่อๆไปเลย แม้ว่าจะพยายามลากบอลให้ผ่านกองหลังของบาร์ซ่า แต่ก็โดนตัดโดนดักเอาไว้ได้แทบหมด
เขานี่ล่ะ!เมสซี่แสบยิงขึ้นนำ
นาทีที่ 44 บาร์เซโลน่ามาได้ประตูสุดแสนจะสำคัญก่อนหมดครึ่งแรก จากจังหวะเตะมุมที่กองหลังของเรอัล มาดริดพยายามจะโหม่งสกัด แต่บอลไปเข้าทางเมสซี่ที่พักอกให้กับปิเก้ ก่อนที่อดีตปราการหลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะโชว์เทคนิคตอกส้นกลับไปให้กับเมสซี่ที่ลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วจัดการชิพนิ่มๆผ่านตัวของคาซิญาสเข้าไปอย่างสวยงาม บาร์ซ่านำขึ้นไป 2-1 ก่อนที่กรรมการจะเป่านกหวีดหมดเวลา 45 นาทีแรก ต้องไปลุ้นกันในครึ่งหลังว่าสกอร์จะขยับไปมากน้อยแค่ไหน
ครึ่งหลัง
เรอัล มาดริดเปลี่ยนเคดิร่าออก ก่อนที่จะส่งมาร์เซโล่ลงไปทำเกมในช่วงครึ่งหลังนี้
เกมชักเดือด!เมสซี่ลงไปกอง
นาทีที่ 53 เกมเริ่มจะเดือดขึ้นมาทันใด เมื่อมาร์เซโล่กระโดดขึ้นโหม่งบอล แต่ไปติดดาบใส่เมสซี่ที่อยู่ข้างๆ ทำให้เจ้าหนูอาร์เจนไตน์ลงไปนอนกองกับเพื่อน ก่อนที่เพื่อนร่วมทีมจะวิ่งกรูกันเข้ามาเอาเรื่อง ทำให้วุ่นวายกันอยู่พักหนึง กรรมการจึงต้องไล่แจกใบเหลืองให้กับบรรดานักเตะที่อารมณ์ร้อนเพื่อยุติปัญหา เชื่อเลยว่าหลังจากนี้อาจจะมีใบเหลืองตามมาอีกไม่มากก็น้อยแน่
เกมมันเรื่อยๆจริง
ผ่านเข้าช่วงหนึ่งชั่วโมงเต็ม ตอนนี้ต้องยอมรับจริงๆเลยว่านอกจากจังหวะที่มีเรื่องมีราวกันแล้ว เกมไม่ค่อยให้แฟนได้ลุ้นอะไรกันมาก เพราะทั้งสองทีมไม่ได้มีจังหวะทำประตูหรือผ่านเข้าไปยิงกันจังๆซะทีเดียว คงต้องดูกันไปก่อนว่าจังหวะของเกมจะดีขึ้นหรือไม่
ต้องเสริม!ราชันจัดอิกวาอินลง
นาทีที่ 63 เรอัล มาดริดต้องเสริมแนวรุกเพื่อทวงประตูคืนให้ได้แล้ว จึงส่งอิกวาอินลงไปจับคู่กับเบนเซม่าในแดนหน้าและถอดดิ มาเรียออกไป ต้องดูว่าเกมของพวกเขาจะดีขึ้นจนสามารถตีเสมอบาร์ซ่าได้หรือไม่
อีเคร์โว้ย!ให้เมสซี่ยิงได้ไง
อีก 2 นาทีต่อมา คาซิญาสถึงกับต้องโวยเพื่อนร่วมทีมเลยทีเดียว หลังจากปล่อยให้อิเนสต้าลากบอลแบบยาวไปเข้าถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะส่งให้เมสซี่ที่แตะบอลผ่านกองหลังของเรอัล มาดริดซึ่งยืนอยู่เพียบ แต่กันไม่อยู่ไปตะบันแบบเน้นๆ ยังดีที่คาซิญาสล้มตัวเซฟเอาไว้ได้ทัน
ซี๊ดมาก!รามอสโหม่งหลุดกรอบนิดเดียว
นาทีที่ 70 เรอัล มาดริดน่าจะได้ประตูตีเสมอแบบไม่รู้จะว่ายังไง จากจังหวะเตะมุมที่โยนเข้ากลางแล้วเป็นรามอสที่ลอยตัวขึ้นโหม่งโล่งๆที่เสา สองคนเดียวแบบไม่มีใครเข้ามาบัง แต่เจ้าตัวกลับสะบัดหลุดกรอบออกไปได้แค่เสียวซะงั้น
รามอสโดนไปอีกคน
ทางฝั่งผู้เล่นของเรอัล มาดริดทะยอยโดนใบเหลืองเรื่อยๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เปเป้โดนไปแล้ว ก็มาเป็นรามอสที่เข้าบอลแบบคาบลูกคาบดอกใส่ผู้เล่นของบาร์ซ่าทำให้กรรมการ ต้องแจกใบเหลืองเพื่อเตือนกันหน่อย
กาก้าลงสนาม-โอซีลออก
นาทีที่ 77 ตอนนี้ทำอะไรได้ต้องทำแล้ว จัดการส่งกาก้าลงไปเล่นในสนามแทนที่โอซีลที่ดูเหมือนว่าครึ่งหลังจะค่อนข้าง เงียบๆไปหน่อย เพื่อที่จะลุ้นยิงประตูตีเสมอให้จงได้
เอาล่ะเว้ย!ราชันตีเสมอแล้ว
นาทีที่ 82 เอาจนได้สำหรับเรอัล มาดริดที่ตามตีเสมอได้อย่างใจหวัง จากจังหวะเตะมุมที่อาเดรียโน่ซึ่งเพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลงมานั่นสกัดไม่ดี ไปติดขาของชาบี้ สุดท้ายบอลไปเข้าทางเบนเซม่าที่ตวัดยิงผ่านมือของบัลเดสเข้าไปกองอยู่ก้น ตาข่าย มาดริดตามตีเสมอได้เป็น 2-2 สกอร์เหมือนเกมแรกเป๊ะกันไปเลย
เอ้ากรี๊ด!ฟาเบรกัสลงประเดิมจ้า
อีกหนึ่งนาทีต่อมา บาร์เซโลน่าเปลี่ยนตัวเอาฟาเบรกัสที่เพิ่งจะย้ายมาร่วมทีมหมาดๆลงเล่นแทนเป โดร เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนบอลที่เฝ้ารอคอยกระทาชายนายนี้สวมเสื้อสีเลือดหมูมา นานแสนนานนั่นเอง
สุดตีนนนนนนน!เมสซี่สังหารไม่มีเหลือ
นาทีที่ 88 เรอัล มาดริดช็อกตาตั้งตาค้างไปเลยเมื่อเจอทีเด็ดของลีโอเนล เมสซี่สุดยอดแข้งทองแห่งวงการฟุตบอล จากจังหวะที่เขาทำชิ่งกับอาเดรียโน่ก่อนที่จะไปรอรับลูกเปิดในกรอบเขตโทษ แล้วจัดการลอยตัววอลเล่ย์จังหวะเดียวผ่านมือของคาซิญาสเข้าไปแบบสวยสดงดงาม สุดๆ บาร์ซ่าได้ประตูสำคัญโคตรในช่วงท้าย ขึ้นนำไปอีกครั้งด้วยสกอร์ 3-2 งานนี้ต้องพึ่งปาฏิหารย์อย่างเดียวเท่านั้นสำหรับ "ราชันชุดขาว"
โคตรเดือด!ใบแดงว่อนสนาม
ช่วงท้ายเกมเกิดการเดือดขึ้นแบบสุดๆ เมื่อมาร์เซโล่ไปเข้าบอลแบบรับน้องสุดโหดใส่ฟาเบรกัสชนิดกลิ้งไปลงกองกับ พื้น ก่อนที่ผู้เล่นของทั้งสองทีมจะกรูเข้ามาหาเรื่องกัน ทำให้วุ่นวายมากพอดู กรรมการจึงต้องแจกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงให้กับมาร์เซโล่ ก่อนที่จะมาให้ใบแดงโอซีลและบีญ่าที่ถูกเปลี่ยนตัวออกไปแล้วทั้งคู่อีก เนื่องจากทั้งสองคนฮึดฮัดแบบเอาเป็นเอาตายจนเกือบจะมีวางมวยกันเลยทีเดียว ทำให้ช่วงท้ายเกมมีใบแดงถึง 3 ใบแบบติดๆ
จากจังหวะนี้มีภาพช้าให้เห็นว่ามูริญโญ่คุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เดินไปเอามือจิ้มตาโค้ชของบาร์ซ่าเข้าซะงั้น ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีกด้วย ก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นในใจคิดอะไรอยู่กันแน่
จบ 90 นาทีเป็นบาร์เซโลน่าที่เอาชนะเรอัล มาดริดไปได้ด้วยสกอร์ 3-2 ฉลองแชมป์ซูเปอร์ คัพเป็นถ้วยแรกก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ พร้อมกับความยินดีของฟาเบรกัสที่ย้ายมาได้ไม่กี่วันก็ได้สัมผัสถ้วยแชมป์เลย ทันที
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บาร์เซโลน่า : วิคตอร์ บัลเดส,ฮาเวียร์ มาสเชราโน่,เคราร์ด ปิเก้,เอริค อบิดัล,ดาเนียล อัลเวส,แซร์คิโอ้ บุสเกตส์(เกอิต้า น.85),อังเดรส อิเนสต้า,ชาบี้ เอร์นานเดซ,ดาวิด บีญ่า(อาเดรียโน่ น.73),เปโดร(ฟาเบรกัส น.84)
เรอัล มาดริด : อีเคร์ คาซิญาส,ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่,เปเป้, ฟาบิโอ โคเอ็นเทรา,แซร์คิโอ้ รามอส,ซามี เคดิร่า(มาร์เซโล่ น.45),ชาบี้ อลอนโซ่,อังเคล ดิ มาเรีย(อิกวาอิน น.64),คริสเตียโน่ โรนัลโด้,คาริม เบนเซม่า,เมซุต โอซีล(กาก้า น.78)