ต่างดาวแดงมั่ง!ราชันสตาร์ทโหดทุบ 2-1 คว้าซูเปอร์คัพ
"เอล กลาซิโก้"หนล่าสุดสถานการณ์แปรผันเป็นฝั่งบาร์เซโลน่าที่เหลือผู้เล่นน้อยกว่าหลังอาเดรียโน่โดนใบแดงในตอนที่ทีมตามหลังเรอัล มาดริดตั้งแต่ 20 นาทีแรกสองลูกก่อนทำได้ดีสุดแค่ตีไข่แตกไล่มาแพ้ 2-1 รวมผลสองนัดเสมอ 4-4 "ราชันชุดขาว"คว้าแชมป์ซูเปอร์โคปาสมัยที่ 9 ไปครองตามกฎอเวย์โกล
สแปนิช ซูเปอร์ คัพ
วันพุธที่ 29 สิงหาคม 2555
เรอัล มาดริด 2 : 1 บาร์เซโลน่า
(รวมผลสองนัด เสมอ 4-4 ราชันชุดขาวคว้าแชมป์ด้วยกฎอเวย์โกล)
สนาม : ซานติอาโก เบร์นาเบว
ประตู : 1-0 กอนซาโล่ อิกวาอิน น.11, 2-0 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ น.19, 2-1 ลิโอเนล เมสซี่ น.45
เรอัล มาดริดได้รับข่าวดีเปเป้ผ่านบททดสอบความฟิตเบียดราอูล อัลบิโอลกลับมาคุมเกมรับคู่กับเซร์กิโอ รามอส ขณะที่แข้งป้ายแดงลูก้า โมดริชเริ่ม"เอล กลาซิโก้"หนแรกของชีวิตในฐานะตัวสำรอง ด้านกาก้า โดนตัดชื่อออกจากทีมด้วยเหตุผลทางแทคติกเป็นนัดที่สามติดต่อกัน
บาร์เซโลน่ายังใช้ฆอร์ดี้ อัลบาลงประจำการแบ็กซ้ายหลังทำผลงานได้ดีนับแต่ย้ายมา ส่วนตัวความหวังในเกมนี้ยังอยู่ที่ลิโอเนล เมสซี่โดยมีอเล็กซิส ซานเชซกับเปโดร โรดริเกซคอยทำเกมตามกราบ
ครึ่งแรก
บัลเดสออกแรงตั้งแต่ต้น
"เอล กลาซิโก้"ที่สนามเบร์นาเบวเล่นมาได้เพียง 7 นาทีเป็นเจ้าบ้านที่ได้เสียวซี๊ดก่อนจากจังหวะที่มาร์เซโลน่าแทงบอลทะลุช่องเซนเตอร์แบ็คให้อิกวาอินพลิกเข้ายิงติดขาซ้ายของบัลเดสที่ถลาออกมาได้เร็ว
มาสช์เคลียร์พลาด-อิกวาฉกไปยิง
นาที 11 เรอัล มาดริดก็พังประตูขึ้นนำก่อน 1-0 เมื่อเปเป้เตะจุดพลุโด่งมาหน้าเขตโทษบาร์เซโลน่าแล้วมาสเชราโน่เตะสกัดวืดเลยเปิดโอกาสให้อิกวาอินฉกบอลเข้าไปยิงสวนตัวบัลเดสซุกก้นตาข่าย
โด้โชว์เหนือก่อนซัดตุง
เท่านั้นไม่พอเมื่อนาที 19 บอลยาวขึ้นหน้าของ"ราชันชุดขาว"มาถึงโรนัลโด้ได้ใช้ข้างเท้าด้านนอกกระดกบอลข้ามหัวปิเก้ก่อนตามไปเก็บบอลแล้วยิงอัดใส่บัลเดสกระดอนเข้าประตูให้ทีมนำ 2-0
ราชันคึกบุกไม่หยุด
เกมของเจ้าบ้านยังดีต่อเนื่องเมื่อนาที 22 อิกวาอินได้บอลทะลุช่องเข้าไปซัลโวอีกครั้งแต่บัลเดสใช้เท้าดักเอาไว้ได้ก่อนที่สองนาทีถัดมาเปเป้โหม่งฟรีคิกเข้าไปแต่ไม่ได้ประตูเพราะดันไปผลักมาสเชราโน่ก่อน
บาร์ซ่าเหลือสิบคน-อาเดรียโน่เจอแดง
นาที 28 อาเดรียโน่มาโดนใบแดงหลังเอาโรนัลโด้ไม่อยู่จนต้องโอบกอดในจังหวะที่เหลือตัวเองเป็นคนสุดท้าย แล้วอีกสองนาทีถัดมามาร์เซโล่ผ่านบอลมาให้เคห์ดิร่าวอลเล่ย์ไปตรงตัวบัลเดส
มาสช์สกัดเยี่ยม-มอนโตญ่าทิ้งโอกาสทอง
"มาสช์"มาแก้ตัวได้ในนาที 33 เมื่อวิ่งเข้าไปสกัดบอลจากปลายเท้าของอิกวาอินในจังหวะง้างไกยิงและอีกสี่นาทีให้หลังอิเนียสต้าเปิดบอลจากฝั่งซ้ายไปหน้าประตูแต่มอนโตญ่าชาร์จไม่ทันเลยอดตีไข่แตก
เมสซี่ปั่นฟรีคิกไล่มา 2-1
ก่อนพักครึ่งเมสซี่มาปั่นฟรีคิกอ้อมกำแพงเสียบเสาซ้ายให้"บาร์ซ่า"ตีตื้น 2-1 แต่ช่วงทดเจ็บโรนัลโด้ลากบอลมาส่องไกลถากเสาออกหลัง ขณะที่จังหวะกระชากตัดเข้าในมายิงของดิ มาเรียก็หลุดเสาเช่นกัน
ครึ่งหลัง
เหยดโด้โคอาล่า"มาสช์"วางบอลสุดยอด
กลับมาเล่นครึงหลังได้ถึงนาที 62 มาสเชราโน่โชว์ทักษะหยอดบอลจากแดนตัวเองข้ามแผงรับ"ราชันชุดขาว"หยดลงที่เท้าเปโดรที่วิ่งสอดขึ้นมาพอดิบพอดีแต่ยิงแปเท้าขวาไปตรงตัวกาซิยาส
บัลเดสอย่างเจ๋งเซฟได้อีกแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานบาร์เซโลน่าก็หวิดเสียประตูที่สามหากไม่ได้ความสุดยอดของผู้รักษาประตูช่วยไว้เพราะแนวรับดันปล่อยให้เคห์ดิร่าทะลวงเข้ามาจนได้โอกาสกระหน่ำบอลไปติดเซฟของบัลเดส
อัลบาอดยิงหลังเจอรามอสมารผจญ
นาที 76 เมสซี่วางบอลสุดคมกริบจากครึ่งสนามไปให้อัลบาที่วิ่งสอดทะลุแนวรับเรอัล มาดริดขึ้นไปรับบอลก่อนพาหนีกาซิญาสที่พยายามออกมาดักจนมุมเปิดกว้างกำลังง้างไกดันมีรามอสมาเป็นมารผจญ
อิกวาอินหลุดเดี่ยวไปกดชนเสา
เรอัล มาดริดน่าได้ประตูปิดเกมในนาที 80 เมื่ออิกวาอินได้บอลทะลุช่องหลุดไปเผชิญหน้ากับบัลเดสแบบเดี่ยวๆมีเวลาเหลือแต่ทำได้ดีที่สุดแค่กดไปชนเสาจนสุดท้ายถูกเปลี่ยนตัวให้เบนเซม่าลงมาแทน
ท้ายเกมบาร์ซ่าบุกแหลกแต่ไม่ได้
ช่วงท้ายเกมโมดริชที่ถูกส่งลงสนามมามีโอกาสได้ยิงแต่บอลไปติดบล็อกแนวรับบาร์เซโลน่า จังหวะโต้กลับของทีมเยือนเป็นมอนโตญ่าที่หลุดเดี่ยวเข้าไปเผชิญหน้ากับกาซิญาสทางเสาขวาแต่ยิงไปติดเซฟ แถมอีกไม่กี่อึดใจถัดมาซงก็ส่งบอลให้เมสซี่ที่บริเวณหัวกระโหลกก่อนแต่งเข้าเท้าซ้ายแล้วปั่นหลุดกรอบ
ครบ 90 นาทีเรอัล มาดริดเปิดบ้านเอาชนะบาร์เซโลน่า 2-1 รวมผลสองนัดเสมอ 4-4 แต่"ราชันชุดขาว"คว้าแชมป์ซูเปอร์โคปา 2012 ไปด้วยกฎอเวย์โกล นับเป็นหนที่ 9 ของพวกเขาเป็นรอง"บาร์ซ่า"แค่สมัยเดียว
ในส่วนของเมสซี่ผลจากที่เขาทำประตูได้เกมนี้ก็ทำให้ขึ้นทำเนียบผู้ทำประตูมากสุดใน"เอล กลาซิโก้" เป็นอันดับสองร่วมกับราอูล กอนซาเลซที่จำนวน 15 ประตูเป็นรองแค่อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน่ที่กระหน่ำไปถึง 18 ลูกแค่รายเดียว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด : อิเคร์ คาซิญาส, เซร์คิโอ รามอส , เปเป้ , มาร์เซโล่, อัลบาโร่ อาร์เบลัว , ชาบี อลอนโซ่, ซามี่ เคห์ดิร่า , คริสติอาโน่ โรนัลโด้ , อังเคล ดิ มาเรีย (โฆเซ่ มาเรีย กาเญฆ่อน น.79), เมซุต โอซิล (ลูก้า โมดริช น.83), กอนซาโล่ อิกวาอิน (คาริม เบนเซม่า น.82)
สำรองไม่ได้ใช้ : อันโตนิโอ อาดาน, นาโช่, ราอูล อัลบิโอล, ลาสซานา ดิยาร์ร่า
เทรนเนอร์ : โจเซ่ มูรินโญ่
บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส, ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ , เคราร์ด ปิเก้ , ฆอร์ดี้ อัลบา, อาเดรียโน่ กอร์เรอา , เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (อเล็กซ์ ซง น.75), อันเดรส อิเนียสต้า, ชาบี เอร์นานเดซ, เปโดร โรดริเกซ (คริสเตียน เตโญ่ น.82), อเล็กซิส ซานเชซ (มาร์ติน มอนโตญ่า น.32), ลิโอเนล เมสซี่
สำรองไม่ได้ใช้ : โฆเซ่ ปินโต้, มาร์ค บาตร้า, เชส ฟาเบรกาส, ดาบิด บีญ่า
เทรนเนอร์ : ตีโต้ บีลาโนบา
_________________