กดสูตรติด!มัตเตโอประเดิมสิงห์ตะปบ 2-0 ลิ่วเจอจิ้งจอก
"สิงห์ไฮโซ"เชลซีกดสูตรบอลเปลี่ยนโค้ชสำเร็จหลังโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอประเดิมคุมนัดแรกไร้ปัญหาด้วยการบุกขย้ำบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ 2-0 ก่อนฉลุยเข้ารอบก่อนรองฯเอฟเอ คัพรอดวลกับเลสเตอร์ ซิตี้
เอฟเอ คัพรอบที่ 5 นัดรีเพลย์
วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2555
เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ 0 : 2 เชลซี
ประตู : 1-0 มาต้า น.55, 2-0 เมเรเลส น.60
คลิปไฮไลท์ เอฟเอ คัพ เบอร์มิงแฮม 0-2 เชลซี
เกมนี้ใครชนะจะเข้าไปพบกับเลสเตอร์ ซิตี้ที่รออยู่แล้ว เจ้าถิ่นเบอร์มิ่งแฮมมีปัญหานักเตะบาดเจ็บค่อนข้างเยอะ ไม่มีชื่อของแข้งเก๋าอย่างสตีเฟ่น คาร์และสตีฟคาล์ดเวลล์ลงสนามแต่แนวรุกยังมีนาธาน เร้ดมอนด์และหอกตัวเก๋านิโกล่า ซิกิชลงล่าตาข่าย ขณะทีเชลซีเป็นนัดแรกที่ลงเล่นหลังปลดอังเดร วิลลาส โบอาสออกจาตำแหน่งโดยมีโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอคุมทีมแทนส่งตอร์เรสยืนเป็นหน้าเป้าและในม้านั่งสำรองมีแข้งเก๋าทั้ง จอห์น เทอร์รี่, แฟร้งก์ แลมพาร์ดและดิดิเยร์ ดร็อกบานั่งรอโอกาสอยู่
ครึ่งแรก
มาต้ายิงเสาแรก
เพียงแค่ 2 นาที"สิงห์บลู"ก็ได้ลุ้นก่อนจากบอลยาวให้กับมาต้ารับไว้ได้ก่อนควบพาขึ้นไป ในเขตโทษและตัดสินใจแปด้วยซ้ายเสาแรกแต่ยังติดมือของดอยล์เซฟออกหลังไป
สิงห์ยังไม่คำราม
เกมผ่านไป 10 กว่านาทีเกมของเชลซีก็ดูยังติดๆขัดไม่สามารถครองบอลกดดันใส่เจ้าถิ่นได้ สงสัยบอลเปลี่ยนโค้ชยังไม่ส่งผลกับทีมเยือนในตอนนี้ส่วนเจ้าถิ่นก็เน้นการ ตั้งรับที่เหนียวแน่นเป็นหลักแล้วส่วนโดยให้ซิกิชคอยพักบอลและใช้ความเร็ว ของเร้ดมอนด์คอยทะลุทะลวง
เจ้าถิ่นเล่น 10 คน
เบอร์มิ่งแฮมต้องเล่นกัน 10 คนเกือบ 5 นาที ในนาทีที่ 15 เมื่อซิกิชพยายามใช้หัวก้มโหม่งบอลให้เพื่อนแต่โดนลูอิซใช้ขาเตะเข้าที่คิ้ว เลือดอาบเลยทีเดียวทำให้ศูนย์หน้าร่างใหญ่ต้องออกไปปฐมพยาบาลห้ามเลือดอยู่ ที่ข้างสนามเกือบ 5 นาทีก่อนจะหลับลงมาเล่นต่อได้
เช็กล้มตัวรับสวย
นาทีที่ 24 เจ้าถิ่นก็มีโอกาสได้ลุ้นบ้างเมื่อซิกิชเปิดบอลมาให้กับเอลเลียตเกี่ยวบอลลง ได้สวยก่อนจะพลิกตัวยิงทันทีแต่เช็กก็อ่านทางถูกพุ่งล้มตัวรับไว้ได้สบาย เกมยังเสมอกันอยู่ 0-0
เช็กโชว์เซฟอีกแล้ว
นาทีที่ 40 ปีเตอร์ เช็กก็ต้องออกแรงเซฟอีกครั้งเมื่อมัทช์เปิดบอลมาให้กับซิกิชได้โหม่งแต้เซฟ ก็ยังปัดข้ามคานไปได้ รอดไปสำหรับเชลซีจังหวะนี้ส่วนรูปเกมต้องบอกเลยว่าเจ้าบ้านทำได้เยี่ยมที เดียวเป็นฝ่ายมีโอกาสได้ลุ้นมากกว่าด้วยซ้ำ
จบครึ่งแรกเชลซียังจ่ายบอลกันขาดๆเกินๆตั้งเกมแทบไม่ได้เลยและเป็นเบอร์มิ่ง แฮมที่มีโอกาสได้ลุ้นจังๆ 2-3 หนแต่ก็ยังไม่เฉียบพอ เสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง
เชลซีเริ่มเร่งเครื่อง
เริ่มเกมครึ่งหลังดูเหมือนว่าทีมเยือนจะพยายามเล่นเกมรุกมากขึ้นแล้วแต่ไอ เดียในการสร้างสรรค์เกมต้องบอกว่าแทบจะไม่มีเลย เกมบุกทื่อมากๆสงสัยอาจเห็นพวกแข้งเก๋าๆลงเล่นในเร็วๆนี้แล้ว
ยังจะแย่งกัน!มาต้าซัดจนได้
นาทีที่ 55 "สิงห์ไฮโซ"ก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ต้องชมรามิเรสที่เบียดแย่งเอาบอลมาได้ ก่อนจะเปิดจากทางขวาให้กับกาลูจับบอลในเขตโทษแล้วพยายามจะพลิกยิงเองแต่ดัน ไปปั๊มบอลกับมาต้าก่อนที่บอลจะหลุดมาเข้าทางดาวเตะทีมชาติสเปนได้ซัดด้วยขวา เข้าประตูไป เชลซีขึ้นนำแล้ว 1-0
สิงห์เกือบได้ลูกสอง
2 นาทีต่อมาเชลซีก็เกือบมาได้ประตูทิ้งห่างจากจังหวะสวนกลับเมื่ออิวานโนวิ ชเปิดบอลไปที่เสาสอง มาต้าวิ่งสอดขึ้นมาโหม่งเต็มเฉี่ยวเสาไปนิดเดียวเท่านั้น
หลวงพี่เมซัดหาย
เชลซีมาได้ประตูที่ 2 จนได้ในนาทีที่ 60 อิวาโนวิชล็อกบอลหลบกองหลังเจ้าถิ่นก่อนจะเปิดมาในกรอบเขตโทษให้กับเคฮิลล์ แตะให้รามิเรสแล้วก็เป็นดาวเตะจอมขยันตั้งบอลให้กับเมเรเลสซัดเต็มข้อ จากระยะ 25 หลาบอลพุ่งเสียบเสาแรกชนิดดอยล์ประตูของเบอร์มิ่งแฮมไม่ต้องขยับเลยที่เดียว ทีมเยือนนำ 2-0
ตอร์เรียกจุดโทษ-มาต้ายิงติดเซฟ
หลังได้ 2 ประตูในช่วง 5 นาทีเจ้าถิ่นก็ดูจะเป๋ไปเลย จริงๆต้องบอกว่าตั้งแต่เริ่มครึ่งหลังก็เป็นเชลซีที่ได้บุกกดดันใส่เบอร์ มิ่งแฮมอยู่ตลอดยิ่งพอได้ประตูเหมือนบอลได้ใจ ครองเกมบุกใส่เรื่อยๆแทบจะพับสนามเลยทีเดียวและนาทีที่ 68 ตอร์เรสก็ลากบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนโดนทำฟาว์ลกรรมการชีเป็นจุดโทษแต่ดอยล์ พุ่งถูกทางเซฟลูกยิงของมาต้าไว้ได้ ยังห่าง 2 ลูกเท่าเดิม
สิงห์ทำสวยน่าได้ลูกสาม
นาทีที่ 76 เชลซีก็น่าจะได้ลูกที่สามจากจังหวะที่มาต้าเปิดทะลุไปให้กับตอร์เรสทางขวา ก่อนที่หัวหอกแก้มน้ำเงินจะลากเข้ามาในเขตโทษแล้วเปิดไปให้กับสเตอร์ริดจ์ ที่พุ่งเข้ามาชาร์จแต่กะจังหวะไม่ดีเลยไม่ได้ซัดซะงั้น น่าเสียดายจริงๆลูกนี้
เจ้าถิ่นมาเร่งเอาช่วงท้าย
ช่วงท้ายเกมเป็นเบอร์มิงแฮมที่พยายามบุกทวงประตูคืนแต่ก็ทำอะไรเกมรับของเชล ซีที่วันนี้เล่นได้โอเคเลยทีเดียวไม่ได้ จบเกม"สิงห์ไฮโซ"ยุคใหม่ไร้เงา AVB บุกมาเอาชนะเบอร์มิ่งแฮมไปได้ 2-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลเอฟเอ คัพไปพบกับเลสเตอร์ที่รออยู่ก่อนแล้ว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เบอร์มิ่งแฮม : โคลิน ดอยล์5.5, ปาโบล อิบาเญซ6.0, เคอร์ติส เดวี่ย์ส5.0, โจนาธาน สเปคเตอร์6.0, เวด เอลเลียต6.0, กีแรน เอ็นดาว์น5.5(มาร์ลอน คิง น.71 5.5), มอร์กาโร่ โกมิส6.0, จอร์แดน มัธช์5.5, นาธาน เร้ดมอนด์5.5, นิโกล่า ซิกิช6.0, อดัม รูนี่ย์5.5(คริส เบอร์ค น.59 5.5)
สำรองไม่ได้ใช้ : โบอัซ มายฮิลล์, วิล แพ็ควู๊ด, เอ็นริค วัลเลซ, คัลลัม เรลลี่, เจค เจอร์วิส
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ค6.5, แกรี่ เคฮิลล์6.5, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช6.5, ไรอัน เบอร์ทรานด์5.5, ดาวิด ลูอิซ6.0, ราอูล เมเรเลส6.5, จอห์น โอบี มิเกล6.0, รามิเรส6.5(แฟร้งก์ แลมพาร์ด น.75 5.5), เฟร์นานโด ตอร์เรส5.0, ซาโลมง กาลู6.0(ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น.59 5.5), ฆวน มาต้า7.0(มิคาเอล เอสเซียง น.88)
สำรองไม่ได้ใช้ : ฮิลาริโอ, จอห์น เทอร์รี่, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, โรเมลู ลูกากู