ผลบอล บาห์เรน 0-1 ไทย เอเชียน คัพ 10 ม.ค. 2019
มาโว้ย! "ชนาธิป" ซัดงามหยดนำชัย "ช้างศึก" เบียดซิว "บาห์เรน" 1-0
บอลเปลี่ยนโค้ชทำงาน "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นฮีโร่ให้แข้งช้างศึก ซัดประตูชัยสุดสวยในครึ่งหลัง ทีมชาติไทย เฉือนเอาชนะ บาห์เรน 1-0 กลับมามีลุ้นเข้ารอบศึกเอเชียนคัพ
ฟุตบอล "เอเชียนคัพ 2019"
วันพฤหัสบดีที่ 10 ม.ค. 2562
สนาม อัล มัคตูม สเตเดียม
ไทย 1-0 บาห์เรน
ประตู : 1-0 ชนาธิป สรงกระสินธ์ น.58
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย "เอเชียนคัพ 2019" ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) กลุ่ม A นัดที่ 2 "ช้างศึก" ทีมชาติไทย พบ บาห์เรน โดยนัดแรก ไทย แพ้อินเดีย 1-4 ส่วน บาห์เรน เสมอ ยูเออี 1-1
ไทยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังแพ้ อินเดีย เมื่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย สั่งปลด มิโลวาน ราเยวัช ออกจากตำแหน่งหัวหน้าโค้ช พร้อมทั้งให้ "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย รับหน้าที่คุมทีมชั่วคราว โดยมี "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ เป็นผู้ช่วย
ช้างศึกปรับทัพ 4 ตำแหน่งจากเกมแรก โดยหันมาเล่นเซ็นเตอร์แบ็ก 3 คนเพื่อเน้นเกมรับให้แน่นไว้ก่อน ส่วนเกมรุกพึ่งไปที่ 3 ประสาน ชนาธิป สรงกระสินธ์, อดิศักดิ์ ไกรษร และ ธีรศิลป์ แดงดา
ครึ่งแรก
เกมเริ่มต้นมาเป็นบาห์เรนที่ครองเกมบุกกดดันได้มากกว่า แต่เกมรับของไทยวันนี้ก็เล่นกันอย่างรัดกุม และเมื่อผ่านพ้น 15 นาทีแรกก็เริ่มจับจังหวะของเกมได้มากขึ้น
โอกาสยิงครั้งแรกของช้างศึกในนาทีที่ 20 จากจังหวะโต้กลับที่ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่กระชากขึ้นหน้าก่อนไหลให้ ธีรศิลป์ แดงดา เข้าเขตโทษด้านขวาแล้วสับไกทันที แต่บอลไปติดขากองหลังแล้วเข้ามือผู้รักษาประตู
บาห์เรน กลับมาตั้งเกมได้อีกครั้ง และได้ลุ้น 2 จังหวะซ้อนๆช่วงนาทีที่ 29 ที่ทำให้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ต้องออกแรงเซฟ
นาที 37 ฟรีคิกด้านขวาของ ธีราทร บุญมาทัน เปิดด้วยซ้ายเข้ามาได้ลุ้นกระดอนเข้าทาง ธีรศิลป์ แดงดา เก็บตกซัดข้ามคานจาก 15 หลา
จบครึ่งแรกสกอร์ยัง 0-0 แต่นักเตะไทยโดนใบเหลืองไป 4 คน โดยเป็นเซ็นเตอร์ทั้ง 3 คนคือ พรรษา เหมวิบูลย์, สุพรรณ ทองสงค์, อดิศร พรหมรักษ์ และอีกคนคือ อดิศักดิ์ ไกรษร
ครึ่งหลัง
ช้างศึกเปิดเกมมาได้อย่างคึกคัก แค่ 2 นาทีแรกได้โยนกดดันเข้าเขตโทษ 2 ครั้งขวาทีซ้ายที ก่อนที่จังหวะสุดท้าย ทริสตอง โด กดด้วยขวาข้ามคานออกไป
นาที 54 จังหวะเตะมุมด้านขวา ธีราทร บุญมาทัน เปิดเสาแรก กองหลังบาห์เรนโหม่งสกัดไม่ขาดไปเข้าทาง , ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่จับบอลไม่ดีแถมโดนบีบเร็ว ทำให้ยิงด้วยซ้ายโด่งออกไป
ช้างศึกมาแล้ว...นาที 58 แข้งแดนสยามทะยานออกนำ 1-0 จากการทำเกมอย่างสวยงามเริ่มจาก อดิศักดิ์ ไกรษร ถอยไปรับบอลในแดนตัวเองก่อนแทงทะลุให้ ทริสตอง โด หลุดไปทางปีกขวาเปิดเข้ากลางแฉลบเท้ากองหลังนิดนึงแต่กลายเป็นดีตั้งให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แปแบบวอลเล่ย์ด้วยซ้ายเสียบใต้คานหมดจด
นาที 68 ไทยเปลี่ยนตัว สรรวัชญ์ เดชมิตร ลงมาแทน ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่สภาพร่างกายเริ่มล้ามีอาการบาดเจ็บ และอีก 4 นาทีต่อมาสกอร์น่าจะเป็น 2-0 อย่างที่สุด ชนาธิป สรงกระสินธ์ จ่ายคมให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ยิงด้ายขวาเรียดชนเสาแรกน่าเสียดาย
ศุภชัย ใจเด็ด ลงมาแทน อดิศักดิ์ ไกรษร นาที 80 ช่วงเวลาที่เหลือแข้งไทยช่วยกันเล่นช่วยกันไล่โต้ได้เป็นระยะ น่านำห่างจากจังหวะหลุดเดี่ยวของ ธีรศิลป์ แดงดา ยิงไปติดเซฟ
ทดเจ็บ 4 นาที ไทยเปลี่ยนตัวส่ง มิก้า ชูนวลศรี ลงมาพร้อมกับรักษาสกอร์เก็บชัย 1-0 คว้า 3 แต้มไปครอง มีลุ้นเข้ารอบโดยนัดสุดท้ายรอบแรกเจอกับเจ้าภาพ ยูเออี
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ไทย : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน , พรรษา เหมวิบูลย์, สุพรรณ ทองสงค์, อดิศร พรหมรักษ์, ธีราทร บุญมาทัน, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ทริสตอง โด, ชนาธิป สรงกระสินธ์, อดิศักดิ์ ไกรษร, ธีรศิลป์ แดงดา
บาห์เรน : ซายิด ชับบาห์ อลาวี, วาลีด อัลฮายาม, ซายิด ซาอีด, ฮาหมัด มาห์มูด อัลชามซาน, อับดุลวาฮับ อาลี อัลซาฟี, ยาซีม มาร์ฮูน, จาฟาร์ มาดาน, อาเหม็ด อาลี จูม่า, สะอัด อัลโรไฮมี, ซายิด เรดฮา อิซ่า, โคมาอิล ฮาซาน อลาสวาด
ฟุตบอล "เอเชียนคัพ 2019"
วันพฤหัสบดีที่ 10 ม.ค. 2562
สนาม อัล มัคตูม สเตเดียม
ไทย 1-0 บาห์เรน
ประตู : 1-0 ชนาธิป สรงกระสินธ์ น.58
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย "เอเชียนคัพ 2019" ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) กลุ่ม A นัดที่ 2 "ช้างศึก" ทีมชาติไทย พบ บาห์เรน โดยนัดแรก ไทย แพ้อินเดีย 1-4 ส่วน บาห์เรน เสมอ ยูเออี 1-1
ไทยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังแพ้ อินเดีย เมื่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย สั่งปลด มิโลวาน ราเยวัช ออกจากตำแหน่งหัวหน้าโค้ช พร้อมทั้งให้ "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย รับหน้าที่คุมทีมชั่วคราว โดยมี "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ เป็นผู้ช่วย
ช้างศึกปรับทัพ 4 ตำแหน่งจากเกมแรก โดยหันมาเล่นเซ็นเตอร์แบ็ก 3 คนเพื่อเน้นเกมรับให้แน่นไว้ก่อน ส่วนเกมรุกพึ่งไปที่ 3 ประสาน ชนาธิป สรงกระสินธ์, อดิศักดิ์ ไกรษร และ ธีรศิลป์ แดงดา
ครึ่งแรก
เกมเริ่มต้นมาเป็นบาห์เรนที่ครองเกมบุกกดดันได้มากกว่า แต่เกมรับของไทยวันนี้ก็เล่นกันอย่างรัดกุม และเมื่อผ่านพ้น 15 นาทีแรกก็เริ่มจับจังหวะของเกมได้มากขึ้น
โอกาสยิงครั้งแรกของช้างศึกในนาทีที่ 20 จากจังหวะโต้กลับที่ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่กระชากขึ้นหน้าก่อนไหลให้ ธีรศิลป์ แดงดา เข้าเขตโทษด้านขวาแล้วสับไกทันที แต่บอลไปติดขากองหลังแล้วเข้ามือผู้รักษาประตู
บาห์เรน กลับมาตั้งเกมได้อีกครั้ง และได้ลุ้น 2 จังหวะซ้อนๆช่วงนาทีที่ 29 ที่ทำให้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ต้องออกแรงเซฟ
นาที 37 ฟรีคิกด้านขวาของ ธีราทร บุญมาทัน เปิดด้วยซ้ายเข้ามาได้ลุ้นกระดอนเข้าทาง ธีรศิลป์ แดงดา เก็บตกซัดข้ามคานจาก 15 หลา
จบครึ่งแรกสกอร์ยัง 0-0 แต่นักเตะไทยโดนใบเหลืองไป 4 คน โดยเป็นเซ็นเตอร์ทั้ง 3 คนคือ พรรษา เหมวิบูลย์, สุพรรณ ทองสงค์, อดิศร พรหมรักษ์ และอีกคนคือ อดิศักดิ์ ไกรษร
ครึ่งหลัง
ช้างศึกเปิดเกมมาได้อย่างคึกคัก แค่ 2 นาทีแรกได้โยนกดดันเข้าเขตโทษ 2 ครั้งขวาทีซ้ายที ก่อนที่จังหวะสุดท้าย ทริสตอง โด กดด้วยขวาข้ามคานออกไป
นาที 54 จังหวะเตะมุมด้านขวา ธีราทร บุญมาทัน เปิดเสาแรก กองหลังบาห์เรนโหม่งสกัดไม่ขาดไปเข้าทาง , ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่จับบอลไม่ดีแถมโดนบีบเร็ว ทำให้ยิงด้วยซ้ายโด่งออกไป
ช้างศึกมาแล้ว...นาที 58 แข้งแดนสยามทะยานออกนำ 1-0 จากการทำเกมอย่างสวยงามเริ่มจาก อดิศักดิ์ ไกรษร ถอยไปรับบอลในแดนตัวเองก่อนแทงทะลุให้ ทริสตอง โด หลุดไปทางปีกขวาเปิดเข้ากลางแฉลบเท้ากองหลังนิดนึงแต่กลายเป็นดีตั้งให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แปแบบวอลเล่ย์ด้วยซ้ายเสียบใต้คานหมดจด
นาที 68 ไทยเปลี่ยนตัว สรรวัชญ์ เดชมิตร ลงมาแทน ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่สภาพร่างกายเริ่มล้ามีอาการบาดเจ็บ และอีก 4 นาทีต่อมาสกอร์น่าจะเป็น 2-0 อย่างที่สุด ชนาธิป สรงกระสินธ์ จ่ายคมให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ยิงด้ายขวาเรียดชนเสาแรกน่าเสียดาย
ศุภชัย ใจเด็ด ลงมาแทน อดิศักดิ์ ไกรษร นาที 80 ช่วงเวลาที่เหลือแข้งไทยช่วยกันเล่นช่วยกันไล่โต้ได้เป็นระยะ น่านำห่างจากจังหวะหลุดเดี่ยวของ ธีรศิลป์ แดงดา ยิงไปติดเซฟ
ทดเจ็บ 4 นาที ไทยเปลี่ยนตัวส่ง มิก้า ชูนวลศรี ลงมาพร้อมกับรักษาสกอร์เก็บชัย 1-0 คว้า 3 แต้มไปครอง มีลุ้นเข้ารอบโดยนัดสุดท้ายรอบแรกเจอกับเจ้าภาพ ยูเออี
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ไทย : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน , พรรษา เหมวิบูลย์, สุพรรณ ทองสงค์, อดิศร พรหมรักษ์, ธีราทร บุญมาทัน, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ทริสตอง โด, ชนาธิป สรงกระสินธ์, อดิศักดิ์ ไกรษร, ธีรศิลป์ แดงดา
บาห์เรน : ซายิด ชับบาห์ อลาวี, วาลีด อัลฮายาม, ซายิด ซาอีด, ฮาหมัด มาห์มูด อัลชามซาน, อับดุลวาฮับ อาลี อัลซาฟี, ยาซีม มาร์ฮูน, จาฟาร์ มาดาน, อาเหม็ด อาลี จูม่า, สะอัด อัลโรไฮมี, ซายิด เรดฮา อิซ่า, โคมาอิล ฮาซาน อลาสวาด
ตารางคะแนน
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ลิเวอร์พูล | 11 | 28 |
2 | แมนเชสเตอร์ | 11 | 23 |
3 | เชลซี | 11 | 19 |
4 | อาร์เซนอล | 11 | 19 |
5 | น็อตติ้งแฮม | 11 | 19 |
6 | ไบรท์ตัน | 11 | 19 |
7 | ฟูแล่ม | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | แบงค็อก ยูไน | 13 | 30 |
2 | บุรีรัมย์ ยู | 10 | 24 |
3 | การท่าเรือ เ | 12 | 22 |
4 | บีจี ปทุม ยู� | 12 | 22 |
5 | พีที ประจวบ � | 13 | 22 |
6 | สุโขทัย เอฟซ | 13 | 20 |
7 | อุทัยธานี เอ | 13 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาเยิร์น มิว | 10 | 26 |
2 | RB ไลป์ซิก | 10 | 21 |
3 | ไอน์ทรัค แฟร | 10 | 20 |
4 | เลเวอร์คูเซ� | 10 | 17 |
5 | ไฟร์บวร์ก | 10 | 17 |
6 | ยูเนี่ยน เบอ | 10 | 16 |
7 | ดอร์ทมุนด์ | 10 | 16 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | นาโปลี | 12 | 26 |
2 | อตาลันต้า | 12 | 25 |
3 | ฟิออเรนติน่� | 12 | 25 |
4 | อินเตอร์ มิล | 12 | 25 |
5 | ลาซิโอ | 12 | 25 |
6 | ยูเวนตุส | 12 | 24 |
7 | เอซี มิลาน | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาร์เซโลน่า | 13 | 33 |
2 | เรอัล มาดริด | 12 | 27 |
3 | แอตเลติโก มา | 13 | 26 |
4 | บียาร์เรอัล | 12 | 24 |
5 | โอซาซูน่า | 13 | 21 |
6 | แอธเลติก บิล | 13 | 20 |
7 | เรอัล เบติส | 13 | 20 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ปารีส แซงต์ � | 11 | 29 |
2 | โมนาโก | 11 | 23 |
3 | โอลิมปิก มาร | 11 | 20 |
4 | ลีลล์ | 11 | 19 |
5 | โอลิมปิก ลีย | 11 | 18 |
6 | นีซ | 11 | 17 |
7 | แร็งส์ | 11 | 17 |
ดูทั้งหมด |
Sexy Room
ดูทั้งหมดMotor Zone
ดูทั้งหมด
1 สัปดาห์ มาแล้ว
views: (1,039)
1 สัปดาห์ มาแล้ว
views: (1,027)
1 สัปดาห์ มาแล้ว
views: (1,030)
1 สัปดาห์ มาแล้ว
views: (1,026)