เปาลินโญ่ขี่ม้าขาวน.87!ฟีฟ่ากำหนดแซมบ้าดับจอมโหด2-1ลิ่วชิงดำ
"จอมโหด"อุรุกวัยยื้ออยู่นานหลังจากเอดินสัน คาวานี่ตามตีเสมอได้ต้นครึ่งแรกแต่ต้องมาตกม้าลายก่อนหมดเวลาเพียง 3 นาทีเมื่อเปาลินโญ่ได้จังหวะโขกเต็มหัวพา"แซมบ้า"บราซิลเชือด 2-1 ทะลุเข้าไปรอชิงดำกับสเปนหรืออิตาลีในบ้านเกิดตัวเอง
คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ รอบรองชนะเลิศ
วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2556
บราซิล 2-1 อุรุกวัย
สนาม : เอสตาดิโอ โกเวอร์นาดอร์ ฮอริซอนเต้
ประตู : 1-0 เฟร็ด น. 40, 1-1 เอดินสัน คาวานี่ น. 48, 2-1 เปาลินโญ่ น. 87
ครึ่งแรก
คุมเชิงกันก่อนแทบไม่ได้ยิง
เริ่มเกมขึ้นมาช่วง 10 นาทีแรกทั้งสองทีมยังไม่ค่อยมีจังหวะยิงจะแจ้งกันเท่าไหร่โดยบอลมักไปตายกันตรงก่อนถึงหน้าปากประตูฝั่งตรงข้ามมากกว่า
เซซาร์หนึบ...เซฟโทษฟอร์ลัน
นาทีที่ 13 บราซิลมาเสียจุดโทษเลยจากจังหวะที่ดาวิด ลุยซ์ไปทำฟาวล์ลูกาโน่จากจังหวะต่อเนื่องของลูกเตะมุม
ดีเอโก้ ฟอร์ลันรับหน้าที่สังหารเองโดยเขายิงไปทางมุมขวาของตัวเองแต่เซซาร์อ่านทางออกพุ่งไปเซฟเอาไว้ได้อย่างสวยงามทำให้อุรุกวัยชวดได้ประตูขึ้นนำ
โรดริเกซโหม่งสวนข้ามคาน
อุรุกวัยมาได้ลูกเตะมุมอันตรายทางฝั่งขวาอีกแล้วแต่คราวนี้เซซาร์ออกมาชกบอลได้ก่อนแต่ยังไม่ขาดทำให้คริสเตียน โรดริเกซพยายามโหม่งสวนเข้าไปจากหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลลอยโด่งและไปตกข้างบนตาข่ายแทน
เต็มตีน!ตัวเขียวตะบันหลุดกรอบ
บราซิลมาได้ลุ้นบ้างเหมือนกันจากจังหวะทำชิ่งต่อบอลหน้าปากประตูด้านขวาก่อนที่ฮัลค์จะตัดสินใจยิงเร็วเลยแต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบอยู่ดี
ฟอร์ลันสับได้แค่เสียว
ดูเหมือนว่าอุรุกวัยจะมีดอกาสลุ้นมากกว่าเสียด้วยซ้ำและฟอร์ลันก็พลาดซัดประตูงามหยดอีกครั้งจากจังหวะที่เขาจับบอลหนึ่งจังหวะหน้าปากประตูก่อนหวดด้วยซ้ายเต็มเหนี่ยวแต่บอลกลับเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
มาร์เซโล่เลื้อย!เฟร็ดปิดบัญชีไม่ได้
แฟนเจ้าถิ่นได้เฮกันอีกครั้งเมื่อมาร์เซโล่โชว์สเต็ปเลี้ยงเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาตรงเสาแรกมีเฟร็ดพยายามพุ่งแหย่ขาไปเปลี่ยนทิศทางบอลแต่มันดันออกหลังไป
เฮสนามแตก!เฟร็ดตามซ้ำไม่เหลือซาก
อยู่ดีๆบราซิลก็มาได้ประตูขึ้นนำเฉยเลยเมื่อเนย์มาร์ทำแสบรับบอลโยนยาวจากเปาลินโญ่หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนยิงไปติดมุสเรล่าทว่าบอลกระเด้งกลับมาหน้าปากประตูตั้งให้เฟร็ดวิ่งเข้ามาจิ้มเข้าไปไม่มีพลาดในนาทีที่ 41
ครึ่งหลัง
พลาดเอง!คาวานี่ฉวยโอกาสสังหารไม่เหลือ
เปิดเกมครึ่งหลังเพียงไม่กี่อึดใจแผงหลังบราซิลก็มาพลาดอีกครั้งเมื่อซิลวาเคลียร์บอลไม่ขาดบอลทะลักมาถึงคาวานี่ที่ตัดบอลได้จากมาร์เซโล่ก่อนสับด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษด้านขวาบอลพุ่งเรียดเข้าไปตรงโคนเสาไกลอย่างหมดจด
บราซิลยังเจาะไม่ได้-จอมโหดรอสวน
เกมผ่านมาครบ 60 นาทีบราซิลเป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่าแต่ยังหาจังหวะทำประตูขึ้นนำอีกครั้งไม่ได้ส่วนอุรุกวัยยังเน้นลงไปตั้งรับหนาแน่นเหมือนเดิมรอจังหวะสวนกลับซึ่งก็ยังไม่ค่อยได้ลุ้นมากนัก
ตัวเขียวโอเวอร์เฮดยังห่างไกล
ออสการ์พยายามลากบอลทำเกมมาเปิดริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนโยนไปตรงเสาสองให้เฟร็ดถอยหลังโขกบอลลอยโด่งกลับหลังมาถึงฮัลค์ที่พยายามโอเวอร์เฮดแต่โดนไม่เต็มทำให้บอลลอยโด่งไปไกล
มีเสียว!หม่อมเหยินโขกหลุดคานนิดเดียว
อุรุกวัยเกือบได้ประตูแซงนำเลยจากจังหวะฟรีคิกริมเส้นด้านขวาฟอร์ลันเปิดไปตรงกลางให้ซัวเรซได้โขกแต่ไปแฉลบกองซิลวานิดนึงทำให้บอลข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้นเอง
กุสตาโว่ตะบันไกลเข้าซอง
บราซิลยังตั้งหน้าตั้งตาบุกต่อไปแต่ก็ยังเจาะไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่ทำให้หลุยส์ กุสตาโว่พยายามหันมาลองส่องไกลดูบ้างเมื่อเขาอัดด้วยซ้ายระยะยาว 30 หลาแต่บอลไปเข้าซองของมุสเรล่า
เกือบไป!คาวานี่ยิงแฉลบเฉี่ยวเสา
จังหวะสวนของ"จอมโหด"เกือบได้เหมือนกันจากจังหวะที่คาวานี่หาเหลี่ยมล็อกก่อนได้ง้างเท้าซ้ายยิงหน้าปากเขตโทษบอลไปแฉลบกุสตาโว่เปลี่ยนทางเซซาร์หลงไปแล้วทว่ายังทีที่บอลหลุดเสาไปนิดเดียวเท่านั้น
เปาลินโญ่โขกนำชัย
จนแล้วจนรอดบราซิลก็มาได้ประตูขึ้นนำและน่าจะเป็นประตูชัยด้วยในนาทีที่ 87 จากจังหวะเตะมุมด้านซ้ายที่เนย์มาร์เปิดมาถึงเสาสองให้เปาลินโย่ขึ้นโหม่งหลังกาเซเรสบอลผ่านมือของมุสเรล่าเข้าไปกองก้นตาข่าย
สุดท้ายกลาย"แซมบ้า"ได้ผ่านเข้าไปรอชิงดำตามความคาดหมายโดยต้องรอเจอกับผู้ชนะระหว่างสเปนกับอิตาลีที่มีคิวนัดตัดเชือกกันในวันพฤหัสบดีนี้
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
บราซิล : ฮูลิโอ เซซาร์ 7, ดานี่ อัลเวส 6, ธิอาโก้ ซิลวา 5, ดาวิด ลุยซ์ 5 , มาร์เซโล่ 6, เนย์มาร์ 7, ออสการ์ 4 (เฮอร์นานเดส น. 72), หลุยส์ กุสตาโว่ 6 , เปาลินโญ่ 8, ฮัลค์ 4 (เบอร์นาร์ด น. 65), เฟร็ด 7
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ดีเอโก้, เจฟเฟอร์สัน, ดานเต้, หลุยส์ ฟิลิเป้, เรเวอร์, เฟอร์นานโด, ลูคัส มูร่า, ฮวน, จ๊าดสัน, โจ
อุรุกวัย : เฟอร์นานโด มุสเลร่า, ดีเอโก้ ลูกาโน่, ดีเอโก้ โกดิน, มักซี่ เปเรร่า, มาร์ติน คาเซเรส, คริสเตียน โรดริเกซ, ดีเอโก้ ฟอร์ลัน, เอกิดิโอ อเรวาโล่, อัลวาโร่ กอนซาเลซ, หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี่
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ฮวน คาสติโญ่, มาร์ติน ซิลวา, เซบาสเตียน โคอาเตส, อัลวาโร่ เปเรร่า, มาติอาส อกีร์เรการาย, วอลเตอร์ การ์กาโน่, เซบาสเตียน เอกูเรน, นิโกลัส โลเดยโร่, ดีเอโก้ เปเรซ, กาสตัน รามิเรซ, อเบล เฮอร์นานเดซ