ข่าว 5 เรื่องควรรู้ ! หลังเกม โครเอเชีย เอาชนะ ไนจีเรีย 2-0 บอลโลก 2022 17 มิ.ย. 2018
การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2018 กลุ่มดี นัดแรก
โครเอเชีย 2 - 0 ไนจีเรีย
สนาม คาลินินกราด สเตเดี้ยม
5. การเคลื่อนที่ของ โครเอเชีย
แม้จะต้องต่อกรกับทีมพลังหนุ่มอย่าง ไนจีเรีย ทว่าสถิติหลังเกมชี้ชัดว่า โครเอเชีย เป็นทีมที่เคลื่อนที่เยอะกว่าโดยพวกเขาวิ่งเป็นระยะทางมากกว่า อินทรีมรกต ถึง 3 กิโลเมตรด้วยกัน
การเคลื่อนที่มากกว่าส่งผลดีต่อรูปเกมของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนเพื่อหาที่ว่างเพื่อผ่านบอล หรือการไล่บีบพื้นที่คู่แข่ง ฯลฯ จนเป็นหนึ่งในที่มาของการคว้า 3 คะแนนเต็มในเกมนี้
4. คลาสบอลของคู่หูแดนกลาง โครแอต
ชั้นเชิงของ ลูก้า โมดริช กับ อิวาน ราคิติช คือส่วนสำคัญที่ทำให้ โครเอเชีย กำชัยเหนือ ไนจีเรีย ในเกมนี้ แดนกลางของพวกเขาเหนือกว่าทีมจาก กาฬทวีป อย่างเห็นได้ชัดทั้งการผ่านบอล, การยืนตำแหน่ง และการเคลื่อนที่
สถิติของ โมดริช และ ราคิติช ในเกมนี้ :
สัมผัสบอล 83 และ 87 ครั้ง (มากที่สุดในทีม)
ผ่านบอล 63 และ 65 ครั้ง (มากที่สุดในทีม)
ผ่านบอลนำไปสู่การยิงประตู 1 และ 3 ครั้ง
3. ประสบการณ์ของแนวรับ ไนจีเรีย
ค่าเฉลี่ยของแผงหลังรวมกับสองมิดฟิลด์ตัวรับของ อินทรีมรกต มีอายุเพียง 24.5 ปี และมีเพียง ลีออน บาโลกุน กับ วิลเฟรด เอ็นดิดี้ ที่ค้าแข้งอยู่ในลีกยักษ์ใหญ่กับทีมมีชื่อชั้นอย่าง ไมนซ์ และ เลสเตอร์ ซิตี้
ความเก๋าที่ไม่มากของแผงรับ ไนจีเรีย มาส่งผลเสียในจังหวะที่ไปเหนี่ยว มาริโอ มานด์ซูคิช ล้มลงในกรอบเขตโทษจนเสียลูกจุดโทษ เป็นสาเหตุของประตูที่สองที่เสียไปในเกมนี้
2. อินทรีมรกต ที่ไร้จินตนาการ
เมื่อการต่อพยายามต่อบอลขึ้นไปเล่นเกมรุกของ ไนจีเรีย ไม่สามารถทำอันตรายแนวรับของ โครเอเชีย ได้ และการหายไปจากเกมของบรรดาผู้เล่นในแนวรุกทำให้พวกเขาต้องโยนบอมบ์ยาวหวังให้ อิกาโล เก็บในแดนหน้า ทว่าความสูงใหญ่ของทั้ง ลอฟเรน และ วิดา ก็ทำให้ ไนจีเรีย เป็นฝ่ายเสียเปรียบและไม่สามารถสร้างสรรค์เกมรุกแบบอื่นได้เลย
อเล็กซ์ อิโวบี้ ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง จอห์น โอบี มิเกล ดูจะเชื่องช้าในทุกๆ จังหวะ มีก็แค่ วิคเตอร์ โมเสส ที่อาศัยความสามารถเฉพาะตัวกระชากบอลหนีแนวรับได้สวยๆ ให้เห็นอยู่บ้าง นอกจากนั้นตัวสำรองที่หมายจะส่งลงมาเปลี่ยนเกมทั้ง มูซา, ซิมี และ อิเฮนาโช ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างใดๆ เลย
1. หมากรุก จ่อขึ้นแท่น
ด้วยผลของอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน อาร์เจนตินา เก็บได้เพียง 1 คะแนนจากผลเสมอกับ ไอซ์แลนด์ ทำให้เกมที่สองของกลุ่มที่พวกเขาจะต้องดวลกับ โครเอเชีย ความกดดันจะถาโถมเข้าใส่ทัพ ฟ้าขาว ให้เก็บ 3 คะแนนเต็มเพื่อโอกาสในการเข้ารอบสถานเดียวเท่านั้น กลายเป็นทัพ ตราหมากรุก ที่ถือไพ่เหนือกว่าเต็งหนึ่งของกลุ่มจากอเมริกาใต้
ขณะที่อีกคู่หนึ่ง ไอซ์แลนด์ จะดวลกับ ไนจีเรีย ที่เมื่อพิจารณาการรูปเกมนัดแรกของทั้งสองทีมแล้วขุนพล ไวกิ้ง น่าจะได้ใจจากเกมในนัดแรกมามากโขและมีสิทธิ์ที่จะคว้า 3 คะแนนเต็มหาก อินทรีมรกต ยังไม่สามารถปรับจูนแนวรุกของพวกเขาให้ลงตัวได้ทัน
ตารางคะแนน
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ลิเวอร์พูล | 11 | 28 |
2 | แมนเชสเตอร์ | 11 | 23 |
3 | เชลซี | 11 | 19 |
4 | อาร์เซนอล | 11 | 19 |
5 | น็อตติ้งแฮม | 11 | 19 |
6 | ไบรท์ตัน | 11 | 19 |
7 | ฟูแล่ม | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | แบงค็อก ยูไน | 13 | 30 |
2 | บุรีรัมย์ ยู | 10 | 24 |
3 | การท่าเรือ เ | 12 | 22 |
4 | บีจี ปทุม ยู� | 12 | 22 |
5 | พีที ประจวบ � | 13 | 22 |
6 | สุโขทัย เอฟซ | 13 | 20 |
7 | อุทัยธานี เอ | 13 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาเยิร์น มิว | 10 | 26 |
2 | RB ไลป์ซิก | 10 | 21 |
3 | ไอน์ทรัค แฟร | 10 | 20 |
4 | เลเวอร์คูเซ� | 10 | 17 |
5 | ไฟร์บวร์ก | 10 | 17 |
6 | ยูเนี่ยน เบอ | 10 | 16 |
7 | ดอร์ทมุนด์ | 10 | 16 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | นาโปลี | 12 | 26 |
2 | อตาลันต้า | 12 | 25 |
3 | ฟิออเรนติน่� | 12 | 25 |
4 | อินเตอร์ มิล | 12 | 25 |
5 | ลาซิโอ | 12 | 25 |
6 | ยูเวนตุส | 12 | 24 |
7 | เอซี มิลาน | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาร์เซโลน่า | 13 | 33 |
2 | เรอัล มาดริด | 12 | 27 |
3 | แอตเลติโก มา | 13 | 26 |
4 | บียาร์เรอัล | 12 | 24 |
5 | โอซาซูน่า | 13 | 21 |
6 | แอธเลติก บิล | 13 | 20 |
7 | เรอัล เบติส | 13 | 20 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ปารีส แซงต์ � | 11 | 29 |
2 | โมนาโก | 11 | 23 |
3 | โอลิมปิก มาร | 11 | 20 |
4 | ลีลล์ | 11 | 19 |
5 | โอลิมปิก ลีย | 11 | 18 |
6 | นีซ | 11 | 17 |
7 | แร็งส์ | 11 | 17 |
ดูทั้งหมด |