อ.บ.ต.ปิดท้าย!สาลิกาเด็ดกุหลาบหนามทื่อ 2-0 ยึดที่ 5
"สาลิกาดง"นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดได้กาเบรียล โอแบร์ตองจัดการตอกฝาโลงในช่วงทดเจ็บให้พวกเขาจัดการเด็ด"กุหลาบไฟ"แบล็กเบิร์น โรเวอร์ที่มีโอกาสยิงถึง 26 ครั้งแต่เปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้เลยไป 2-0 แซงอาร์เซน่อลกับลิเวอร์พูลไปอยู่ที่ 5 แล้ว
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555
สนาม : อีวู้ด ปาร์ค
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 0:2 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
ประตู : 0-1 ดันน์(ทำเข้าประตูตัวเอง) น.12, 0-2 โอแบร์ตอง น.90+2
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก แบล็คเบิร์น 0-2 นิวคาสเซิล
เกมนี้ทางเจ้าบ้านไม่มีคริส แซมบ้ากำลังหลักของทีมที่หายไปจากทั้งตัวจริงและม้านั่งสำรอง แต่กองหน้าก็มีโมเดสท์หัวหอกคนใหม่ประเดิมสนาม
ส่วนทีมเยือน"สาิลิกา"แม้คู่กองหน้าบาและซิสเซ่จะเสร็จภารกิจช่วยชาติแล้วแต่ก็ยังไม่มีชื่อในคืนนี้เลย ส่วนกองกลางที่กาบายติดโทษแบนก็เป็นเทย์เลอร์ถูกดันมาเล่นแทน
ครึ่งแรก
เปิดฉากมาโอกาสลุ้นจริงๆจังมาในนาที 12 และก็เป็นประตูเลยจากแนวรับ"กุหลาบ"ที่แจกของขวัญหลังไปจ่ายบอลพลาดตรงกลางโดนเบสท์กมาขึ้นมาก่อนจะจ่ายให้โฮนาสตรงกลาง ถ่ายบอลออกไปทางขวาให้เทย์เลอร์เติมมาซัดเต็มไกล แดนน์หวังดีพยายามจะสกัดแต่ผลลัพธ์ออกมาเป็นลบทำเอาโรบินสันหลงทางบอลเลยกระดอนเข้าประตูไปง่ายๆ นิวคาสเซิ่ลออกนำแล้ว 1-0
แล้วเจ้าบ้านเกือบเอาคืนได้ทันควันเช่นกันจากจังหวะเตะมุมที่เปิดเข้ามา โมเดสท์วิ่งโฉบเสาแรกแต่ไม่โดน บอลมาถึงกิเว่ท์ยิงก่อนติดบล็อกแล้วพอซ้ำอีกทีก็หลุดเสาไปนิดเดียวเท่านั้น
นาที 25 เจ้าบ้านน่าจะได้ประตูตีเสมออีกแล้วจากโมเดสท์ที่พาบอลตะลุยจากขวาเข้ามาตรงกลางก่อนออกบอลไปทางซ้ายให้กับฮอยเลตต์จับบอลก่อนตั้งป้อมปั่นไปเสาสอง ครูลโดดไม่ถึงแล้วแต่บอลมันก็ผ่านเสาออกไปนิดเดียวตามเคย
ครบครึ่งชั่วโมงเกือบมีมวยแล้วหลังแบล็กเบิร์นทะลุขึ้นมาโดยฮอยเลตต์ก่อนจะไปล้มหน้าเขตโทษแต่เทย์เลอร์ไม่พอใจไปฉุดฮอยเลตต์ขึ้นมาเพราะคิดว่าเป็นการพุ่งล้ม ก่อนที่ทั้งสองทีมจะกรูเข้ามาทั้งห้ามทั้งจะเอาเรื่อง ก่อนจะสงบลงไปโดยภาพช้าแสดงให้เห็นว่าพุ่งจริงๆ
ช่วงท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านน่าได้ประตูอีกแล้วจากจังหวะเตะมุมอีกครั้งคราวนี้เป็นทางขวาเปิดเข้ามาที่เสาแรก เบสท์เบียดกับกิเวท์ก่อนจะได้ขึ้นโขกเคลียร์แต่ดันโหม่งชนคานอย่างจังโชคดีไม่กลายเป็นประตูไป
ก่อนจะหมดเวลา 2 นาทีแข้ง"สาลิกา"เซ็งเป็นแถบหลังฟิล ดาวด์เลือกให้จุดโทษกับแบล็กเบิร์นในจังหวะที่ซิมป์สันไปชนจะแย่งโหม่งโมเดสท์จากด้านหลัง แล้วดันน์รับหน้าที่สังหารแต่ต้องซูฮกครูลเลยหลังพุ่งถูกทางปัดไว้ได้ มีตามมาซ้ำก็ยังโดนเซฟติดมือ
ครึ่งหลัง
ครึ่งหลังทั้งสองฝ่ายยังพลัดกันบุกอยู่แต่โอกาสที่จะแจ้งหน่อยในช่วงต้นก็ต้องรอนาที 53 จากจังหวะที่เปโตรวิชวางบอลยาวจากแดนตัวเองข้ามมาถึงโมเดสเต้ทางขวาแปบอลหนีครูลที่ออกมาตัดได้แล้วแต่ยังมีซิมป์สันตามมาเคลียร์ไว้ได้
รูปเกมยังมีโอกาสยิงกันน้อยซึ่งทางฝั่ง"สาลิกา"ก็มาได้โอกาสลุ้นกับเขาบ้างจากกัทธรี่ที่พาบอลทะลุมาตรงกลางโล่งๆก่อนจะเลือกยิงไกลแต่บอลมันบดเรียดไป โรบินสันเลยล้มตัวรับไว้ได้ไม่มีปัญหา
นาที 68 แบล็กเบิร์นเกือบได้ประตูตีเสมอครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้จากลูกฟรีคิกในแนวรับที่เลือกบอมบ์เข้าเขตโทษไปเลย บอลถึงหัวของแดนน์ที่หลุดตัวประกบได้โขกโล่งๆแต่น่าเสียดายบอลไร้นำหนักบวกกับครูลออกมาดักอยู่แล้วเลยยังตะปบเข้ามือไปได้
เกมดำเนินมาถึง 10 นาทีสุดท้ายของเกมและเป็นอีกครั้งนึงของเจ้าบ้านที่น่าได้ประตูขึ้นนำอีกจากโรชิน่าที่จ่ายมาตรงกลางให้กับเอ็นซองซี่ตั้งป้อมยิงไกลบอลไปแฉลบแนวรับนิวเป็นใจให้ฟอร์มิก้าที่อยู่ในเขตโทษพลิกตัวไปเล่นต่อได้แต่ดันยิงเข้าข้างตาข่ายไปเอง
มันจะอะไรกันกันหนาสำหรับ"กุหลาบ"ที่ได้ลุ้นประตูตีเสมออีกแล้วในช่วงก่อนหมดเวลาเพียงนาทีจากการเบิ้ลบอลขึ้นหน้ามาแล้วโมเดสท์ดีดบอลข้ามหัวโคลอชชินี่ที่พลิกตัวตามมาแล้วลื่นไปได้ แต่เลือกไม่่ดีเท่าไหร่เพราะจัดการยิงเลยทำให้ครูลยังเซฟไว้ได้ติดหนึบ
แล้วพอทำไม่ได้เจอลงโทษเลยหลังเป็นจังหวะสวนกลับของ"สาลิกา"โดยกัทธรี่แทงบอลทะลุช่องให้กับโอแบร์ตองสปีดไปดวลเดี่ยวกับโรบินสันก่อนจะยิงเสียบเสาสองแบบหมดจด โอแบร์ตองลงมา 3 นาทีบวกสกอร์ปิดท้ายนิวคาสเซิ่ลตอกฝาโลง 2-0
จบเกมทางนิวคาสเซิ่ลที่ก็จัดการเก็บชัยนอกบ้านนัดที่ 5 ได้สำเร็จบุกมาเอาชนะแบล็กเบิร์นไป 2-0 เก็บแต้มเพิ่มมาอยู่ที่ 39 แต้มขยับแซงอาร์เซน่อลกับลิเวอร์พูลขึ้นมาอยู่ที่ 5 ส่วนเจ้าบ้านยังนอนกองอยู่ในอันดับ 18
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ : พอล โรบินสัน, กาเอล กิเวท์, สกอตต์ แดนน์, มาร์ติน โอลส์สัน, เจสัน โลว, สตีเฟ่น เอ็นซองซี่, ราโดซาฟ เปโตรวิช (ฟอร์มิก้า น.66), มอร์เท่น แกมส์ พีเตอร์เซ่น, เดวิด ฮอยเลตต์, แอนโธนี่ โมเดสเต้, เดวิด ดันน์ (โรชิน่า น.78)
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : มาร์ค บันน์, ไซม่อน วูชเซวิช, แกรนท์ ฮานลี่ย์, จอร์แดน สเลว, อดัม เฮนลี่ย์
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด : ทิม ครูล, ไมค์ วิลเลียมสัน, ฟาบริซิโอ้ โคลอชชินี่, ดาวิเด้ ซานตอน, แดนนี่ ซิมป์สัน, ไรอัน เทย์เลอร์ (โอแบร์ตอง น.89), แดนนี่ กัทธรี่, โฮนาส กูเตียร์เรซ, ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา (เพิร์ช น.45), โชล่า อเมโอบี้, ลีออน เบสท์ (โลเวนครานด์ น.77)
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : โรเบิร์ต เอเลียตต์, แดน กอสลิ่ง, เชน เฟอร์กูสัน, เมห์ดี้ อเบอิด