ไหลเป็นเยี่ยว!เหยินเบิ้ลหงส์ต้อนวีแกนมันตีน 3-0
"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลเกือบทำเดอะ ค็อปเซ็งคาแอนฟิลด์อีกคำรบหลังฟอร์มครึ่งแรกดูไม่จืดแต่ได้ทีเด็ดหลุยส์ ซัวเรซยิงคนเดียวสองประตูก่อนที่โฆเซ่ เอ็นริเก้มาปิดท้ายถล่มวีแกนเละ 3-0 ขยับจาก 13 ขึ้นมาอยู่ที่ 11 และประตูได้เสียเป็น"บวก"ครั้งแรกในฤดูกาลนี้อีกด้วย
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2555
ลิเวอร์พูล 3-0 วีแกน แอธเลติก
สนาม : แอนฟิลด์
ประตู : 1-0 หลุยส์ ซัวเรซ น.47, 2-0 หลุยส์ ซัวเรซ น. 58, 3-0 โฆเซ่ เอ็นริเก้ น. 65
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 3-0 วีแกน
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูลทีมอันดับ 13 ไม่แพ้ใครในลีกมา 6 นัดแล้วแต่ก็เก็บชัยชนะได้เพียง 2 เกมแถมยังไม่ชนะมา 5 นัดรวดรวมทุกรายการเกมนี้ต้องเปิดบ้านรับมือวีแกน แอธเลติกที่ดูเหมือนจะแพ้ทางกันไม่ชนะมา 5 นัดตั้งแต่ปี 2009 โดยแบ่งเก็บการเสมอ 2 นัด และแพ้ถึง 3 นัดยามเจอกับลูกทีมของโรเบร์โต้ มาร์ติเนซ
เบรนแดน รอดเจอร์สส่งเปเป้ เรน่าที่หายจากอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาเฝ้าเสาทำให้แบรด โจนส์ต้องกระเด็นเป็นตัวสำรองแผงกองหลังได้ดาเนี่ยล แอกเกอร์ที่ฝืนเล่นทั้งที่เจ็บโคนขาหนีบในเกมก่อนหายเดี้ยงทันเวลากลับมาจับ คู่กับมาร์ติน สเคอร์เทลที่หายหน้าไปในนัดที่แล้วเพราะไวรัสเล่นงานโดยอันเดร วิสดอมและเกล็น จอห์นสันยืนแบ็คขวา-ซ้ายตามลำดับ
กองกลางนูริ ซาฮินที่ได้ลงเล่นบ่อยครั้งในช่วงหลังถูกดร็อปในเกมนี้โดยเป็นโอกาสของสตี เว่น เจอร์ราร์ดทำเกมร่วมกับโจ อัลเลนกลางสนามขนาบข้างปีกด้วยโฆเซ่ เอ็นริเก้ที่ได้ยืนสูงตรงริมเส้นด้านซ้ายกับราฮีม สเตอร์ลิ่งด้านขวามีซูโซ่คอยทำเกมรุกอยู่หลังหลุยส์ ซัวเรซที่กำลังท็อปฟอร์มในตอนนี้
ด้านวีแกนมีคะแนนตามหลังเจ้าถิ่นเพียงแต้มเดียวเท่านั้นโดยผลงานนัดล่าสุด เสียท่าโดนเวสต์บรอมวิช บุกมาชนะ 2-1 ทำให้มาร์ติเนซต้องเน้นเป็นพิเศษ
ตำแหน่งนายประตูตกเป็นของอาลี อัล ฮับซี่จอมหนึบจากโอมานแผงหลังนำโดยแกรี่ คัลด์เวลล์กัปตันทีมส่วนกองกลางมีเจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์คอยทำเกมอยู่หลัง 3 กองหน้าอย่างดิ ซานโต, โกเน่และมาโลนี่ย์
ครึ่งแรก
เอ็นริเก้ประเดิมส่องไกล
เปิดเกมขึ้นมา 5 นาทีลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายครองเกมบุกใส่ตามความคาดหมายและได้ลุ้นยิงประตูใน จังหวะแรกเมื่อโฆเซ่ เอ็นริเก้ตัดบอลได้กลางสนามก่อนลากขึ้นมาถึงระยะประมาณ 25 หลาพร้อมสับด้วยซ้ายข้างถนัดแต่บอลพุ่งเลียดหลุดเสาขวามือออกไป
ซูโซ่เลื้อยอย่างสวย
ถัดมาอีก 1 นาทีเป็นคราวของเจ้าหนูซูโซ่ได้โชว์บ้างเมื่อเกี่ยวพลิกบอลอย่างสวยกลางสนาม ก่อนลากหาแผงหลังของวีแกนจนถึงหน้ากรอบเขตโทษแต่ไม่มีตัวส่งทำให้เขาตัดสิน ใจยิงด้วยซ้ายแต่บอลยังไปติดบล็อคของกองหลังทีมเยือนกระเด้งออกมา
หงส์ได้ลุ้นอีก 2 ทีติด
นาทีที่ 9 "หงส์แดง"เกือบได้ประตูขึ้นนำสุดๆเมื่อหลุยส์ ซัวเรซได้บอลลากเข้ามาในกรอบเขตโทษด้านซ้ายโล่งๆก่อนเปิดเข้ากลางแต่โดนเบน วัตสันพุ่งเข้ามาสกัดออกหลังแบบหวุดหวิดจะเข้าประตูตัวเองเหลือเกิน
จากจังหวะเตะมุมสตีเว่น เจอร์ราร์ดเปิดลึกมาถึงเสาสองให้ดาเนี่ยล แอกเกอร์ที่ขึ้นมารอโขกได้โหม่งบอลแต่ยังไปติดอัล ฮับซี่ที่ปิดมุมเสาแรกเอาไว้
วีแกนส่องครั้งแรก...เบอเซชูร์ยิงข้ามคาน
วีแกนมาได้ลุ้นบ้างในนาทีที่ 14 เมื่อพวกเขาพยายามต่อบอลขึ้นมาในแดนของเจ้าถิ่นก่อนที่โกเน่จะป้ายบอลกลับไป ให้เบอเซชูร์ได้ตะบันด้วยขวาระยะไกลกว่า 30 หลาบอลพุ่งเข้าตรงกลางประตูแต่สูงไปนิดเดียว
เอ็นริเก้ล้มในเขต....ค็อปเฮเก้อ
สาวกเดอะ ค็อปในสนามเฮกันเก้อไปเลยในจังหวะสวนกลับที่ซัวเรซลากขึ้นมาจากกลางสนามก่อน ปาดไปให้เอ็นริเก้ที่เติมขึ้นมาเบียดกับฟิเกรัวก่อนทิ้งตัวล้มลงไปในกรอบเขต โทษแต่เควิน เฟรนด์กรรมการทำเฉยไม่เป่าในจังหวะนี้
โกเน่สองไกลเรน่ายังไม่หลับ
นาทีที่ 19 เปเป้ เรน่าได้ออกแรงเซฟครั้งแรกในจังหวะที่โกเน่ได้บอลเลี้ยงอยู่ระยะไกลกว่า 35 หลาซึ่งเจ้าตัวตัดสินใจลักไก่ยิงทันทีแต่มือกาวหัวใสยังไม่หลับขยับไปรับเอา ไว้ได้ที่เสาขวามือ
จอห์นสันเต็มข้อยังไม่เข้า
นาทีที่ 21 ลิเวอร์พูลได้เตะมุมด้านฝั่งขวาแต่โดนวีแกนสกัดออกมาได้บอลยังไม่พ้นอันตราย จอห์นสันรอเก็บตกอยู่บริเวณหัวกะโหลกก่อนตัดสินใจยิงเต็มข้อด้วยขวาทันทีแต่ ยังโดนบล็อคออกไป
มาถึงตอนนี้"หงส์แดง"ได้บอลอย่างต่อเนื่องโดยในครั้งนี้เป็นซูโซ่ที่รับบอล มาจาก"หม่อมเหยิน"ก่อนยิงด้วยซ้ายข้างถนัดเต็มข้อบอลพุ่งเข้ากลางประตูทำให้ อัล ฮับซี่กระโดดปัดพ้นอันตราย
จีเจลากหาย...ซูโซ่โหม่งออก
นาทีที่ 32 เกล็น จอห์นสันโชว์ลากบอลริมเส้นด้านซ้ายไปจนสุดเส้นหลังก่อนได้เปิดมากลางประตู บอลเลยซัวเรซที่อยู่เสาแรกมาถึงซูโซ่ที่ได้โหม่งคนเดียวแต่บังคับบอลไม่ดี ลอยออกไปไม่ได้ลุ้น
และในจังหวะนี้เบน วัตสันมีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวทำให้มาร์ติเนซต้องเปลี่ยนเดวิด โจนส์ลงมาทำเกมแดนกลางแทน
ค็อปงง...ตาหวานถอดซูโซ่ส่งเฮนโด้ลงแทน
เบรนแดน รอดเจอร์สตัดสินใจเปลี่ยนแท็กติกอย่างรวดเร็วโดยถอดซูโซ่ที่มีโอกาสเยอะใน เกมนี้ออกหน้าตาเฉยแล้วส่งจอร์แดน เฮนเดอร์สันลงมาขันเกมกลางสนามให้แน่นขึ้นไปอีกในนาทีที่ 35
หลังจากนั้นไม่นานสตีเว่น เจอร์ราร์ดมีโอกาสได้ลองสับไกทำประตูครั้งแรกจากระยะประมาณ 25 หลาแต่บอลยังเหินข้ามคานออกไป
ใจหายวาบ...เรน่าโชว์เก๋าล็อคหลบดิ ซานโต้
ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาที"เดอะ ค็อป"ใจหายใจคว่ำกันหมดในจังหวะส่งบอลคืนหลังไปให้เรน่าจับบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนโชว์เบสิกล็อคหลบดิ ซานโต้ที่พยายามวิ่งเข้ามาแย่งได้อย่างหวุดหวิด
ถัดจากนั้นนาทีเดียวเจอร์ราร์ดแทงทะลุช่องไปให้ซัวเรซหลุดไปถึงเส้นหลังใน กรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนที่ดาวยิงอุรุกวัยจะตวัดจังหวะเดียวเข้ามาหน้าปาก ประตูให้เอ็นริเก้ที่สอดขึ้นมาได้จิ้มบอลระยะไม่กี่หลาตรงเสาแรกแต่ยังไปตรง ตัวของอัล ฮับซี่
ส้นตึกเต็มหน้าอัลเลน!แอนตาซิลแจกเบย
ช่วงทดเวลาบากเจ็บโจ อัลเลนดวงแตกสุดขีดกำลังแย่งบอลอยู่กับมาโลนี่ย์จนล้มลงไปทั้งคู่แต่ก่อน ลงพื้นไปโดนส้นสตั๊ตของดาวเตะวีแกนเข้าเต็มหน้าผากถึงกับเลือดอาบกันเลยที เดียวก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
ครึ่งหลัง
''หม่อมเหยิน"สำเร็จโทษวีแกนหงส์ขึ้นนำ
ความผิดพลาดของวีแกนทำให้ลิเวอร์พูลออกนำจนได้เมื่อสเตอร์ลิ่งฉกบอลส่งคืน หลังสั้นของเบอเซซูร์ได้ตรงริมเส้นด้านขวาก่อนเลี้ยงเข้าไปในกรอบเขตโทษ พร้อมตบกลัวมาให้ซัวเรซที่รออยู่กลางประตูซัดด้วยขวาบอลพุ่งเสียบใต้คาน เข้าไปเป็นประตูออกนำของเจ้าถิ่นในนาทีที่ 47 และเป็นประตูที่ 9 ของ"หม่อมเหยิน"ในพรีเมียร์ลีกขึ้นำเป็นดาวซัลโวเดี่ยวอีกด้วย
หงส์ติ๊ดชิ่งวีแกนรอสวน
ฟรังโก้ ดิ ซานโต้ได้โอกาสลองส่องเป็นครั้งแรกของเกมจากระยะประมาณ 22 หลาบอลไปแฉลบสเคอร์เทลก่อนกระเด้งไปเข้าซองของเรน่าที่ปักหลักรับสบายในนาที ที่ 54
หลังจากนั้นนาทีเดียวสเตอร์ลิ่งได้เลี้ยงทะลุขึ้นไปริมเส้นด้านขวาก่อนเปิด เข้ากลางกองหลังวีแกนสกัดออกไปได้บอลมาถึงเฮนเดอร์สันวิ่งเข้ามายิงไม่จับใน ระยะ 25 หลาบอลพุ่งเลียดเฉี่ยวเสาซ้ายมือไปไม่กี่หลา
เอ็นริเก้แทงอย่างสวย"หม่อมเหยิน"พาหงส์นำ 2-0
นาทีที่ 58 "หงส์แดง"ทะยานนำ 2-0 จนได้ในจังหวะที่เอ็นริเก้ลากบอลจากริมเส้นด้านซ้ายตัดเข้ามากลางสนามก่อน ทิ่มจังหวะเดียว"หม่อมเหยิน"หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับอัล ฮับซี่โดยเขาจิ้มด้วยหัวเกือกขวาบอลลอยเข้าไปซุกก้นตาข่ายอย่างสวยงามเป็น ประตูที่ 2 ของเจ้าตัว
หม่อมเหยินลุ้นแฮตทริค
ซัวเรซกำลังคึกจัดทำชิ่งกับสเตอร์ลิ่งหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจะ จิ้่มบอลไปตรงกรอบแต่ยังติดบล็อคออกหลังไปอีกครั้งในนาทีที่ 62 จากลูกเตะมุมเจอร์ราร์ดเปิดเข้ามาแต่ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
เอ็นริเก้ซ้ำจ่อๆ หงส์ทิ้งขาด
ริมเส้นฝั่งขวาของ"หงส์แดง"วันนี้อันตรายจริงๆซึ่งทำให้พวกเขาได้ประตูทิ้ง ห่างเป็น 3-0 ในจังหวะที่สเตอร์ลิ่งทำชิ่งกับซัวเรซเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนปีกอพอล โล่ยิงไปติดมือของอัล ฮับซี่แต่เอ็นริเก้ยังเร็ววิ่งเข้ามาตามซ้ำระยะ 2 หลาไม่เหลือในนาทีที่ 65
หงส์คุมเกมอยู่หมัด
หลังจากได้ประตูทิ้งห่าง 3-0 "หงส์แดง" ยังดาหน้าทำเกมบุกอย่างต่อเนื่องแต่จังหวะจบยังไม่เด็ดขาดทำให้สกอร์ที่ 4 ของพวกเขายังไม่ตามมาขณะที่วีแกนเองก็ไม่ค่อยมีโอกาสสวนกลับมาเท่าไรนัก เหมือนกัน
นาทีที่ 77 จอห์นสันเลี้ยงเดี่ยวขึ้นมาจากริมเส้นด้านซ้ายของแดนตัวเองก่อนมาถึงระยะ ทำการ 20 หลาซึ่งเขาบรรจงยิงด้วยซ้ายบอลบดไปหน่อยแถมหลุดเสาแรกไปอีกต่างหาก
ซัวเรซได้แค่ลุ้นแฮตทริค
นาทีที่ 81 ซัวเรซรับบอลจ่ายทะลุช่องมาจากเอ็นริเก้ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตวัดยิง เร็วด้วยเท้าซ้ายทันทีแต่บอลผ่านหน้าปากประตูออกไป ซึ่งในจังหวะนี้รอดเจอร์สตัดสินใจถอดแอกเกอร์ออกจากสนามแล้วให้คาร์ราเกอร์ ลงมาแทน
หงส์ปิดเกมคว้าชัยนัดที่ 2 ในแอนฟิลด์
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม"หงส์แดง"ดูจะกำชัยชนะไว้ในมือได้แน่นอนแล้วโดยพวกเขา พยายามครองบอลเอาไว้ขณะที่วีแกนก็ไม่มีจังหวะยิงมากมายอะไรนักก่อนที่ ลิเวอร์พูลจะคว้าชัยในบ้านนัดที่ 2 ของฤดูกาลได้สำเร็จและเป็นชัยชนะนัดที่ 2 ในรอบ 6 นัดอีกด้วย
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า, อันเดร วิสดอม, เกล็น จอห์นสัน, ดาเนี่ยล แอกเกอร์ (เจมี่ คาร์ราเกอร์ น. 82), มาร์ติน สเคอร์เทล, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โฆเซ่ เอ็นริเก้ , ซูโซ่ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น. 35), ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, หลุยส์ ซัวเรซ (จอนโจ้ เชลวี่ย์ น. 87)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : แบรด โจนส์, นูริ ซาฮิน, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, โจ โคล, เซบาสเตียน โคอาเตซ,
: วีแกน แอธเลติก อาลี อัล ฮับซี่, แกรี่ คัลด์เวลล์ (ฆอร์ดี้ โกเมซ น. 69), อีวาน รามิส, มายเนอร์ ฟิเกรัว , เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์, เบน วัตสัน (เดวิด โจนส์ น. 32), เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, ฌอง เบอเซชูร์, อารูน่า โกเน่, ฟรังโก้ ดิ ซานโต้ (เรียว มิยาอิจิ น. 70), ชอน มาโลนี่ย์
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ไมเคิ่ล พอลิตต์, รอนนี่ สตัม, คัลลั่ม แม็คมานามาน, เมาโร โบเซลลี่
_________________