แบร์รี่ปลดล็อค!โขกชัยทดเจ็บเรือเบียดเร้ดดิ้งเม็ดเดียว
แมนเชสเตอร์ ซิตี้หวิดเอาตัวไม่รอดเมื่อบุกอยู่ตลอด 90 นาทีดันทะลวงเร้ดดิ้งไม่ได้ โชคดีที่เทพีแห่งโชคยังเข้าข้างเลยบันดาลให้แกเร็ธ แบร์รี่มาโหม่งประตูชัยช่วงทดเจ็บให้เบียดชนะ 1-0 รั้งที่สองต่อไปโดยจี้จ่าฝูงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเหลือ 3 แต้มแต่แข่งมากกว่า 1 นัด
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม 2555
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 : 0 เร้ดดิ้ง
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
ประตู : 1-0 แกเร็ธ แบร์รี่ น.90+3
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก แมนซิตี้ 1-0 เรดดิ้ง
แมนฯซิตี้อยู่ในช่วงฟอร์มฝืดเมื่อเก็บชัยได้แค่ 2 จาก 5 เกมหลังสุด วันนี้หมดสิทธิใช้งานมาริโอ บาโลเตลลี่ที่ป่วย ขณะที่แว็งซ็องต์ ก็องปานีกับเจมส์ มิลเนอร์เรียกฟิตกลับมาเป็นตัวสำรอง ส่วนดาวรุ่งอย่างคาริม เรกิ๊กได้ออกสตาร์ทตัวจริงเช่นเดียวกับแกเร็ธ แบร์รี่ที่พ้นโทษแบนมาคุมแดนกลาง
เร้ดดิ้งอาการโคม่าหลังพ่ายมา 6 เกมรวด วันนี้ชวดใช้บริการของเจสัน โรเบิร์ตส์ที่เจ็บซี่โครง แต่ได้เยม คาราแกนกับจิมมี่ เคเบ้หวนคืนสู่ทีมตัวจริง ส่วนแดนนี่ กัทธรี่หายเจ็บกลับมาอยู่ที่ม้านั่งสำรอง
ครึ่งแรก
เรือบุกแหลกตั้งแต่ต้น
เกมในช่วงสิบนาทีแรกแมนฯซิตี้มีโอกาสบุกเข้าใส่ก่อนทั้งในจังหวะที่เตเวซแทง บอลทะลุช่องให้อเกวโร่แต่เฟเดริชี่ปรี่ออกจากเส้นประตูมาล้มตัวดักเอาไว้ และช็อตที่"เอล กุน"ลากครึ่งสนามเข้าไปในเขตโทษด้านขวาก่อนเปิดข้ามฟากไปเสาไกลหมายให้"คาร์ ลิตอส"แต่โดนเคลียร์ออกหลัง
ซิลบาทำชิ่งจนได้จบ
นาที 12 ซิลบารับบอลจากยาย่าที่เปิดมาจากฝั่งขวาก่อนที่จอมทัพสแปนิชแปบอลยัดไปให้ เตเวซที่ดึงจังหวะรอจนเล่นชิ่งคืนมาให้หลุดเข้าไปง้างเท้ายิงแฉลบออกหลังได้ เป็นลูกเตะมุมอีกครั้ง
เตเวซตะบันจ่อติดบล็อก
สี่นาทีถัดมาซิลบาเล่นเตะมุมสั้นให้แบร์รี่บอมบ์เข้าเขตโทษถึงอเกวโร่ตั้ง บอลให้เตเวซได้ตะบันที่กรอบ 6 หลาแต่โดนเฟเดริชี่เซฟไว้พอ"คาร์ลิตอส"เก็บบอลนำมายิงซ้ำก็แฉลบออกหลัง
เร้ดดิ้งหืด!เซนเตอร์โดนเหลืองครบ 2 คน
เล่นมาถึงนาที 27 คู่เซนเตอร์แบ็คของทีมเยือนก็รับใบเหลืองครบทั้งสองคนในจังหวะที่เตเวซแตะ บอลหลบเพียร์ซเพื่อทะลุเข้าเขตโทษไปได้แล้วเจอขวาง ส่วนมาริอัปป้าโดนแจกไปตั้งแต่ต้นเกม
แบร์รี่โขกเต็มกบาลตรงตัวโกล
"เดอะ รอยัลส์"ยังบุกไม่ขึ้นจนนาที 35 ซิลบาชิพบอลจากหน้าเขตโทษออกทางด้านขวาให้เตเวซวิ่งตามไปเปิดบอลสู่เสาสอง ให้แบร์รี่เทคตัวขึ้นโหม่งไปตรงตัวเฟเดริชี่ที่ยืนตำแหน่งได้เยี่ยม
ลูกชิ่งซิลบาทะลวงได้ใจ
นาที 39 ซิลบามาเล่นชิ่งกับเตเวซในกรอบเขตโทษด้านขวาจนทะลุไปถึงสุดเส้นหลังก่อนตบ กลับเข้ากลางหวังให้ยาย่าชาร์จแต่เจ้าตัวโดนเพียร์ซแท็คจนล้มคว่ำไปก่อนแถม จุดโทษก็ไม่ได้
อเกวโร่ติดเครื่องลากครึ่งสนาม
ช่วงทดเจ็บอเกวโร่ได้บอลที่ครึ่งสนามก่อนติดเครื่องโซโล่ไปจนถึงสุดเส้นหลัง ฝั่งขวาแล้วชิพบอลข้ามเฟเดริชี่ไปที่ไกลหมายให้ยาย่าเข้าทำแต่โดนตัดออกหลัง ไปก่อนเลยยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง
เรือโหมเกมบุกเหมือนครึ่งแรก
เข้าสู่ครึ่งหลังได้ราวสามนาที"เรือใบสีฟ้า"ได้ลุ้นจากโคโล่ ตูเร่ที่วิ่งเติมขึ้นมาส่องไกลติดบล็อก ไม่กี่อึดใจถัดมาเตเวซแตะบอลหลบสองกองหลังแต่ไปตกใจเมื่อเจอคนที่สามเลยยิง หลุดเสา
เพียร์ซโขกเตะมุมได้เสียว
นาที 54 เป็นโอกาสของผู้มาเยือนบ้างเมื่อได้ลูกเตะมุมทางด้านขวาก่อนที่ฮาร์ทบรรจง เปิดไปที่เสาไกลให้เพียร์ซเทคตัวขึ้นโหม่งย้อนศรมาหลุดเสาแรก หลังจากนั้นเจ้าบ้านส่งเซโก้ลงมาแทนการ์เซีย
เรือบุกได้สวยแต่จบสกอร์ไม่ลง
"เรือใบสีฟ้า"มาบุกอีกครั้งในนาที 62 เตเวซจ่ายบอลยัดไปเข้าเท้าซิลบาในกรอบเขตโทษก่อนที่แข้งสแปนิชไหลต่อให้ซาบา เลต้าเปิดจากเส้นหลังด้านขวาเข้าด้านในแต่ข้ามหัวเซโก้กับกุนไปหมด
เร้ดดิ้งปาดเหงื่อหวิดเหลือสิบตัว
ไลเกิร์ตวู๊ดจวนเจียนมาโดนใบเหลืองที่สองในนาที 72 เมื่อไปรวบขาอเกวโร่จากทางด้านหลังบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ พอซิลบาอาสาปั่นบอลโค้งเข้าหาประตูก็ถูกเฟเดริชี่ชกออกหลัง
ผลัดกันโหม่งก็ยังไม่ได้
ท้ายเกมนาที 83 ฮาร์ทเปิดลูกเตะมุมไปให้เพียร์ซโหม่งหลุดกรอบ ขณะที่ไม่กี่นาทีถัดมาบอลที่แบร์รี่เปิดจากริมเส้นด้านขวามาที่เสาไกลให้ซิ ลบาโขกก็ข้ามคานไปอีก
ดราม่า!เรือได้ประตูชัยทดเจ็บ
แต่ในช่วงทดเจ็บโชคก็เข้าข้างเจ้าบ้านเมื่อซิลบาตั้งป้อมครอสบอลจากริมเส้น ด้านซ้ายไปที่เสาไกลให้แบร์รี่ที่โดดค้ำชอรี่ย์โหม่งเข้าไปซุกก้นตาข่ายโดย ที่เฟเดริชี่ปัดไม่ทัน
จบเกมแมนเชสเตอร์ ซิตี้เปิดบ้านเฉือนเร้ดดิ้ง 1-0 รั้งที่สองตามหลังจ่าฝูงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเหลือ 3 แต้มแต่แข่งมากกว่า 1 นัด ส่วน"เดอะ รอยัลส์"จมบ๊วยต่อไปเมื่อแพ้มา 7 นัดติด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, โคโล่ ตูเร่, มาติย่า นาสตาซิช, คาริม เรกิ๊ก (เจมส์ มิลเนอร์ น.84), ฆาบี การ์เซีย (เอดิน เซโก้ น.58), ยาย่า ตูเร่ , แกเร็ธ แบร์รี่ , คาร์ลอส เตเวซ (สก็อตต์ ซินแคลร์ น.75), ดาบิด ซิลบา , เซร์กิโอ อเกวโร่
สำรองไม่ได้ใช้ : ริชาร์ด ไรท์, โจลีออน เลสค็อตต์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, อับดุล ราซัค
เทรนเนอร์ : โรแบร์โต้ มันชินี่
เร้ดดิ้ง : อดัม เฟเดริชี่, เอียน ฮาร์ท (นิคกี้ ชอรี่ย์ น.87), เอเดรียน มาริอัปป้า , อเล็กซ์ เพียร์ซ , คริส กันเธอร์, โจชัว แม็คอานัฟฟ์, มิเคเล่ ไลเกิร์ตวู๊ด , เจย์ แท็บบ์, จิมมี่ เคเบ้, เยม คาราแกน (แดนนี่ กัทธรี่ น.71), พาเวล โพเกรบเนี๊ยก
สำรองไม่ได้ใช้ : สจ๊วร์ต เทย์เลอร์, กัสปาร์ส กอร์ส, โนเอล ฮันท์, ร็อบสัน กานู, อดัม เลอ ฟองเดร้
เทรนเนอร์ : ไบรอัน แม็คเดอร์ม็อตต์
_________________