ข่าว 5 เรื่องควรรู้ !!! หลังเกม ไก่เดือยทอง บุกชนะ สวอนซี 3-0 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 18 มี.ค. 2018
โชว์ฟอร์มอันร้อยแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับ 'ไก่เดือยทอง' ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส หลังสามารถบุกไปเอาชนะคู่แข่งอย่าง สวอนซี ซิตี้ คาถิ่น ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม 3-0 งานนี้ลูกทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ได้ยิ้มแก้มปริกันอีกครั้ง ลอยเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เอฟเอคัพ ได้สำเร็จอีกปี
เกมเมื่อคืนนี้มีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย และหากคุณเป็นแฟนพันธ์ุแท้ฟุตบอลแล้วละก็ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะพลาดเรื่องต่าง ๆ ต่อไปนี้
5. สเปอร์สไม่ใช่ One Man's Team
การบาดเจ็บของ แฮร์รี่ เคน ทำให้ใคร ๆ หลายคนคิดว่า การลุ้นอันดับไปเล่นยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีกของ 'ไก่เดือยทอง' นั้นจบลงแล้ว
พวกเขาคิดผิด
ฟอร์มในวันนี้โชว์ให้ชาวโลกได้เห็นอีกครั้งว่า พวกเขาไม่ได้มีแต่เพียง แฮร์รี่ เคน เท่านั้นที่มีความอันตรายอย่างยิ่งยวด ซอน เฮือง-มิน โชว์ให้เห็นทักษะอีกครั้งว่าอันตรายขนาดนั้น แม้ว่าลูกที่เขายิงเข้าไปขะถูกจับล้ำหน้า แต่การพักบอลและความเด็ดขาดในยามต้องดวลกับกองหลังต่างหากคือความอันตรายที่แท้จริงของเขา ไหนจะ ลูคัส มูรา กับ เอริค ลาเมลา ที่โชว์ฟอร์มการลากเลื้อยที่เด่นแบบสุด ๆ และที่สำคัญที่สุดคือเพลย์เมกเกอร์เท้าชั่งทองอย่าง คริสเตียน เอริคเซน ที่โชว์ฟอร์มเยี่ยม เหมายิงคนเดียวไป 2
บทพิสูจน์สุดท้ายสำหรับพลพรรคคลับไก่ในยามไร้ เคน คือเกมกับ เชลซี หลังสัปดาห์ทีมชาติ ถ้าพวกเขาสามารถเอาชนะ สิงห์บลูได้ มันจะไม่ใช่แค่การการันตีพื้นที่อันดับ 4 เท่านั้น แต่ยังหมายถึงความพร้อมของทีมในวันที่ไร้หน้าเป้าหมายเลข 1 ของทีมว่าคือของจริงแบบไม่ต้องสงสัย
4. VAR แผลงฤทธิ์อีกแล้ว
หากลูกยิงของ ซอน เป็นประตูแล้วละก็ สเปอร์ส ึงลอยเข้ารอบไปแล้วตั้งแต่ครึ่งแรกยังไม่จบ
จังหวะเจ้าปัญหาเกิดขึ้นในนาทีที่ 23 เมื่อคริสเตียน เอริคเซน ตักบอลโด่งจากแดนของ สเปอร์ส ไปหน้าเขตโทษของ สวอนซี ซอน เก็บบอลได้ก่อนได้ซัดบริเวฯเส้นกรอบเขตโทษเป็นประตู ทว่าปู้กำกับเส้นเลือกที่จะสบัดธงล้ำหน้าในจังหวะกำ้กึ่งดังกล่าว เดือดร้อน เควิน เฟรนด์ ต้องเรียกดูภาพจาก VAR
ซึ่งภาพจาก VAR ที่โชว์ขึ้นทางโทรทํศน์นขณะแข่งขันไม่สามารถแสดงความชัดเจนได้อีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อเส้นที่ควรจะชี้ว่า ซอน ล้ำหน้า กลับสร้างความกำกวมขึ้นไปอีก เพราะเท้าของนักเตะคนสุดท้ายของ สวอนซี ดันวางเหลื่อมกันเพียงนิดเดียว
หาก โอลส์สัน สามารถตีไข่แตกให้ทัพ 'หงส์ขาว' ได้ตอนเริ่มครึ่งหลัง แล้วทำให้เกทตึงเครียดไ้มากกว่านี้ละก็ VAR และ เควิน เฟรนด์ จะกลายเป็นตราบาปในเกมนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
3. ยอเรนเต้กับอนาคตที่ไม่แน่นอน
เมื่อศูนย์หน้าหมายเลข 1 ของทีมบาดเจ็บ แถมเกมที่กำลังจะแข่งเป็นเกมถ้วย ไหนจะคู่แข่งที่อันดับห่างกัน 10 ตำแหน่ง ไม่มีเหตุผลอันไหนเลยที่จะห้าม แฟร์นันโด ยอเรนเต้ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนี้
แต่เขาก้ได้ลงเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น
ส่วนหนึ่งอาจต้องโทษ ซอน เฮือง-มิน ที่กำลังโชว์ฟอร์มอันร้อนแรงในช่วงนี้ หลังเหมา 2 ในเกมก่อนกับ บอร์นมัธ แต่หากไม่ใช่เพราะว่า ยอเรนเต้ ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ได้ก่อนละก็ วันนี้ยังไงเขาก็ควรได้ลงเป็นตัวจริง
ยิ่งเมื่อได้โอกาสลงมาในสนาม แต่กลับพาดโอกาสทองในการทำประตูไปถึง 2 ครั้ง ยอเรนเต้ต้องกลับไปทบทวนตัวเองอีกทีได้แล้วว่าเขาควรปรับปรุงตัวอย่างไร ก่อนจะสายเกินแก้
ก่อนที่เขาจะกลายเป็นแบบ วินเซนต์ แยนส์เซน
2. สถิติในบ้านไม่ช่วยอะไร
คุณคิดว่า ระหว่าง เชลซี ลิเวอร์พูล และ สวอนซี ทีมไหนชนะไหนบ้านติดต่อกันมากสุดในฤดูกาลนี้
ลิเวอร์พูล ? ผิด เชลซี ? ผิด
ถูกต้อง สวอนซี คือทีมที่ชนะในบ้านมากกว่า ลิเวอร์พูล กับ เชลซี เพิ่งจะทำสถิติชนะติดต่อกันในบ้านได้ถึง 7 เกม เมื่อพวกเขาสามารถเอาชนะ เวสต์แฮม 4-1 เมื่อตอตนต้นเดือน เหนือกว่าลิเวอร์พูลที่ทำไว้ 6 ครั้ง เทียบเท่ากับ สเปอร์ส ที่ 7 ครั้ง ตามหลังเพียง อาร์เซนอล (8 ครั้ง) แมนยู (12 ครั้ง) และ แมนซิตี้ (13 ครั้ง) เท่านั้น
แต่เกมวันนี้ทำให้เห็นแบบชัดเจนสุด ๆ ว่าสถิติมีไว้ก็แค่โชว์เท่านั้น หลังเจ้าบ้านแทบจะบุกกดันใส่ทีมเยือนจากลอนดอนไม่ได้เลย มีโอกาสยิงเพียง 3 ครั้ง ในขณะที่ สเปอร์ส ทำไปถึง 25
แต่บางทีสถิติอาจจะถูกต้องแล้วก็ได้ เพราะครั้งสุดท้ายที่ สวอนซี แพ้ในบ้าน พวกเขาแพ้ต่อ สเปอร์ส นี่แหละ สกอร์ก็คล้าย ๆ กัน คือพวกเขายิงคู่แข่งไม่ได้เลย (แพ้ 0-2)
1. ถึงจะแพ้ แต่ก็มีโอกาสสูงที่จะรอดตกชั้น
เมื่อกางสถิติดูแล้ว การที่พวกเขาแพ้ สเปอร์ส ในวันนี้อาจจะไม่ใช่ลางร้ายอะไรนัก
ลูกทีมของ คาร์ลูส คาร์วาลาล ลงแข่งด้วยสภาพทีมที่ไม่พร้อมนัก โดยเฉพาะการขาด อังเดร อายิว ดาวเตะชาวกานาที่ได้ฤกษ์กลับมายัง สวอนซี อีกครั้ง หลังย้ายไปอยูกับ เวสต์แฮม ในฤดูกาลที่แล้ว นอกจากนี้ เกมรับยังไม่ได้ส่งตัวที่ดีที่สุดลงสนาม โดยเฉพาะผู้รักษาประตูที่ใช้ คริสตอฟฟ์ นอร์ดเฟลท์ ลงแทน ลูคัส ฟาเบียนสกี้ แล้วยังโชว์ฟอร์มเซฟอุดตลุดขนาดนี้
ยังมีสถิติอีกอันที่น่าสนใจของ สวอนซี ภายใต้การคุมทีมของ คาร์วาลาล นั่นก็คือ 'หงส์ขาว' ทำประตูในยุคของเขาไปแล้ว 14 ประตู จากการลงเล่นเพียง 10 เกม เหนือกว่าฟอร์มของ สวอนซีก่อนหน้านั้นที่ทำได้เพียง 11 ลูก จาก 20 เกม
ดูท่าแล้วคงได้อยู่กับทีมอีกยาว หากเขาสามารถพา สวอนซี รอดตกชั้นได้จริงน่ะนะ
แท๊กที่เกียวข้อง
แหล่งข่าวจาก http://www.90min.com/th
ตารางคะแนน
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ลิเวอร์พูล | 11 | 28 |
2 | แมนเชสเตอร์ | 11 | 23 |
3 | เชลซี | 11 | 19 |
4 | อาร์เซนอล | 11 | 19 |
5 | น็อตติ้งแฮม | 11 | 19 |
6 | ไบรท์ตัน | 11 | 19 |
7 | ฟูแล่ม | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | แบงค็อก ยูไน | 13 | 30 |
2 | บุรีรัมย์ ยู | 10 | 24 |
3 | การท่าเรือ เ | 12 | 22 |
4 | บีจี ปทุม ยู� | 12 | 22 |
5 | พีที ประจวบ � | 13 | 22 |
6 | สุโขทัย เอฟซ | 13 | 20 |
7 | อุทัยธานี เอ | 13 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาเยิร์น มิว | 10 | 26 |
2 | RB ไลป์ซิก | 10 | 21 |
3 | ไอน์ทรัค แฟร | 10 | 20 |
4 | เลเวอร์คูเซ� | 10 | 17 |
5 | ไฟร์บวร์ก | 10 | 17 |
6 | ยูเนี่ยน เบอ | 10 | 16 |
7 | ดอร์ทมุนด์ | 10 | 16 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | นาโปลี | 12 | 26 |
2 | อตาลันต้า | 12 | 25 |
3 | ฟิออเรนติน่� | 12 | 25 |
4 | อินเตอร์ มิล | 12 | 25 |
5 | ลาซิโอ | 12 | 25 |
6 | ยูเวนตุส | 12 | 24 |
7 | เอซี มิลาน | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาร์เซโลน่า | 13 | 33 |
2 | เรอัล มาดริด | 12 | 27 |
3 | แอตเลติโก มา | 13 | 26 |
4 | บียาร์เรอัล | 12 | 24 |
5 | โอซาซูน่า | 13 | 21 |
6 | แอธเลติก บิล | 13 | 20 |
7 | เรอัล เบติส | 13 | 20 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ปารีส แซงต์ � | 11 | 29 |
2 | โมนาโก | 11 | 23 |
3 | โอลิมปิก มาร | 11 | 20 |
4 | ลีลล์ | 11 | 19 |
5 | โอลิมปิก ลีย | 11 | 18 |
6 | นีซ | 11 | 17 |
7 | แร็งส์ | 11 | 17 |
ดูทั้งหมด |