8 นาที 2 ลูก!สิงห์โดนก่อนพลิกแซงแมวดำ 2-1 ขึ้นที่ 3
เป็น 3 คะแนนสุดสำคัญจริงๆสำหรับเชลซีที่พลิกเกมจากการโดนนำไปก่อน แต่มาได้คืนเร็วในช่วงต้นครึ่งหลังดับความหวังของซันเดอร์แลนด์ที่มาพร้อมการเปิดตัวของดิ คานิโอลงด้วยสกอร์ 2-1 ทะยานพรวดเดียวขึ้นที่ 3 มี 58 คะแนนแต่ประตูได้เสียดีกว่าสเปอร์สเยอะ
พรีเมียร์ ลีก
วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2556
เชลซี 2 - 1 ซันเดอร์แลนด์
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ประตู :0-1 อัซปิลิกวยต้า น.45, 1-1 คิลกัลลอน น.47, 2-1 อีวาโนวิช น.55
นี่คือเกมแรกของเปาโล ดิ คานิโอในการคุมทีมซันเดอร์แลนด์ หลังจากที่เขาเข้ามารับงานแทนที่ของโอนีลล์ซึ่งถูกปลดออกไป เพราะผลงานช่วงหลังห่วยสุดๆ ชนะใครไม่เป็น 8 เกมติด แถมยังแพ้ไปถึง 5 เกมด้วยกัน
เกมนี้ดิ คานิโอเลือกวิคแฮมลงตั้นท์กับกองหลังร่างบึ้กของทางเชลซี แล้วให้แกรมนั่งแค่ที่ข้างสนามเท่านั้น
ด้านเบนิเตซที่ช่วงหลังผลงานแจ่มจัด เอาชนะแมนฯยูไนเต็ดในเอฟเอ คัพ ก่อนจะซิวรูบิน คาซานมา 3-1 ในเกมยูโรป้า ลีก แต่นั่นก็แปลว่าพวกเขาต้องหมุนเวียนนักเตะในทีมให้เหมาะตอร์เรสซึ่งยิง 2 ประตูในเกมล่าสุด, แลมพาร์ดและเทอร์รี่นั่งสำรองไปก่อน
"สิงห์ไฮโซ" ได้เล่นในบ้านแบบนี้ต้องคาดหวัง 3 คะแนนเท่านั้น เพราะตอนนี้พวกเขาโดนอาร์เซนอลแซงขึ้นหน้ากลายเป็นที่ 4 แทนแล้วในตารางพรีเมียร์ ลีก
ครึ่งแรก
เกือบได้ไว!เซสซิยองยิงอัดมุมแคบ
เล่นแค่ 3 นาทีซันเดอร์แลนด์ก็เกือบช็อกเชลซีซะแล้ว เพราะกองหลังเจ้าบ้านเคลียร์ไม่ดีไม่ขาดสักที เลยกลายเป็นโดนหนุนบอลสวนเข้าเขตโทษ เซสซิยองได้พลิกเอาบอลไปยิงเน้นๆในเขตโทษ แต่บอลเข้าข้างหน้าต่างไปซะก่อน
สิงห์ปั้นเกมอยู่ใจเย็น
แฟนบอลในสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์พยายามเร้าให้นักเตะเชลซีตั้งเกมน่าดู เพราะจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังหาโอกาสเหมาะๆเจาะซันเดอร์แลนด์ไม่ได้ จริงๆแล้วก็พยายามปั้นเกมอยู่ เพียงแต่มันยังไม่เข้าล็อกเท่านั้นเอง
ติดหัวฟู!AJ ยิงไม่ผ่านบล็อก
นาทีที่ 19 เป็นอีกครั้งที่ซันเดอร์แลนด์ได้ลุ้นและเซสซิยองก็มีส่วนด้วย เมื่อเขาได้บอลทางด้านซ้ายของสนาม ก่อนจะพลิกแล้วจ่ายยาวข้ามสนามไปให้กับจอห์นสันที่เติมขึ้นมาแตะขวา แล้วยิงซ้ายทันทีก่ะให้โค้งไปเสาสอง แต่มีลูอีซเข้ามาบังทางปืนเอาไว้ซะก่อน
แมวดำไม่ได้ครองแต่ได้ฮือ
เกมเข้าครึ่งชั่วโมง แน่นอนตามสูตรเลยคือเชลซีเป็นฝ่ายที่ครองบอลเอาไว้ได้มากกว่า แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือจังหวะการบุกของซันเดอร์แลนด์นี่มันเรียกเสียงฮือฮาได้มากกว่าอยู่พอสมควรจากแฟนๆที่ตามมาเชียร์กันในลอนดอน
เกมอึดอัดน่าดู
เล่นกันมาจนจะจบครึ่งแรกอยู่แล้ว แต่โอกาสเต็มๆนี่ก็ต้องหันไปดูกันตั้งแต่ต้นเกมแล้วก็หายเงียบไปเลย ส่วนหนึงอาจจะเป็นเพราะเชลซีล้าจนพากันเร่งไม่ขึ้นด้วย ทำให้เกมของพวกเขาตันไปพอสมควร ครองบอลแต่ก็ได้อยู่แค่นั้น
ไม่ดีพอ!อาซาร์โขกทั้งเบาทั้งตรง
นาทีที่ 43 พอได้โอกาสมันก็ดันไม่ค่อยจะเต็มเม็ดเต็มหน่วยซะนี่สำหรับเชลซีเมื่อออสการ์มีโอกาสครองบอลในเขตโทษ ก่อนที่จะตักไปเสาสองให้กับอาซาร์โถมตัวโขกกดลงพื้นหวังให้รับยาก แต่บอลมันเบาและตรงตัวของมินญอเล่ต์ที่รับเข้ามือไม่ยาก
จับฉ่ายเป็นเหตุ!อัซปิลิกวยต้ายิงเข้าประตูตัวเอง
อีก 2 นาทีต่อมา งานนี้ตาค้างกันเห็นๆเลยสำหรับเชลซี เพราะจากมีโอกาสลุ้นประตู พวกเขาก็มาเสียประตูไปก่อน ในจังหวะเตะมุมของซันเดอร์แลนด์ที่โยนบอลไปเสาแรก โอเชียวิ่งมาโหม่งเช็ดหวังให้เพื่อนได้ลุ้นต่อ แต่บอลมันตกใส่อัซปิลิกวยต้าที่พยายามสกัดแต่กลับผิดเหลี่ยมพุ่งเข้าประตูไป ซันเดอร์แลนด์นำ 1-0
ครึ่งแรกจบลงพร้อมเสียงนกหวีดยาวของกรรมการและความเซ็งของแฟนเจ้าบ้าน เพราะพวกเขาดันมาเสียประตูในช่วงเวลาสุดสำคัญ ทำให้ต้องตามหลังอยู่ 1-0 เบนิเตซการบ้านเพียบ เพราะฟอร์มลูกทีมอืดเหลือเกิน
ครึ่งหลัง
ช่วงพักครึ่งเชลซีมีการเปลี่ยนตัวโดยส่งตอร์เรสลงไปเล่นแทนบาที่วันนี้แผลงฤทธิ์ไม่ออกสักเท่าไหร่
ช็อกยิ่งกว่า!สิงห์ได้แมวยิงตัวเองปุบปับเลย
นี่เล่นครึ่งหลังมาได้แค่ 2 นาที เชลซีก็มาได้ประตูตีเสมอคืนอย่างทันควันเลย เมื่อตอร์เรสได้บอลกระชากลากขึ้นไปทางซ้าย ก่อนตัดเข้ากลางแล้วไหลต่อไปให้กับออสการ์ที่เติมขึ้นมาพยายามจะตวัดเบี่ยงหนีบล็อกของมินเญอเล่ต์ที่พุ่งเข้ามา แต่กลายเป็นว่าบอลมันไปติดเท้าของคิลกัลลอนทำให้ติดไซด์ก่อนจะไหลเข้าไปเสียบเสาสองหน้าตาเฉย ทำให้เกมเสมอกัน 1-1 แต่ลองเป็นแบบนี้เจ้าบ้านคึกกว่าเห็นๆแน่นอน
กูว่าแล้ว!ลูอีซซัดแฉลบสิงห์พลิกนำ
นาทีที่ 55 ต้องเรียกว่าตามคาดสุดๆเลย เพราะโมเมนตั้มเทไปเชลซีหมดแล้ว เมื่อพวกเขามาได้ประตูพลิกขึ้นนำจากการเก็บตกแถวสองของลูอีซที่วอลเล่ย์บอลจังหวะเดียว แม้ว่าจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่มันก็พุ่งไปแฉลบเท้าของอีวาโนวิชเปลี่ยนทางเข้าไปเสียบเสาสวยซะงั้น เชลซีพลิกเลย 2-1
ดิ คานิโอคิดหนักเลย
ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็มของเกมไปแล้วนั้น เกมนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วอย่างแรง เพียงเวลาไม่กี่นาที ทำให้ดิ คานิโอยืนกลุ้มอยู่ที่ข้างสนามเพื่อหวังจะหาช่องในการให้ทีมกลับมามีลุ้นอีกครั้งให้ได้
ได้สวนกันทีละดอกละคน
นาทีที่ 70 เป็นการแลกกันคนละหมัดโดยแท้สำหรับจังหวะของทั้งสองทีม เริ่มจากเชลซีที่โยนเข้าเขตโทษ ตอร์เรสโหนตัวไปโหม่งหลุดกรอบนิดเดียว ก่อนที่ซันเดอร์แลนด์จะได้ลุ้นจากจอห์นสันที่พยายามจะกดสูตรล็อกยิงให้ติด แต่บอลแป้กหลุดออกหลังไป
แมวดำลุ้นยากแล้วจริงๆ
เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายอาจจะต้องทำใจแล้วสำหรับซันเดอร์แลนด์ เพราะตอนนี้พวกเขายังหาโอกาสที่จะเข้าไปกดดันลุ้นเอาประตูหนักๆจากทางเชลซีไม่ได้เลย แถมยังโดนบุกมาสวนอยู่เนืองๆด้วยอีกต่างหาก
สิงห์ต้องขอเน้นสกอร์
ตอนนี้ไม่เอาแล้วเรื่องเกมรุกสำหรับเชลซี เพราะต้องหันไปทำเกมกันแน่นๆชัวร์ๆตามสไตล์ของเยนิเตซเอาไว้ก่อน เพราะช่วงหลังๆมาเหมือนซันเดอร์แลนด์จะมีฮึดขึ้นมาด้วย กันไว้ก่อนไม่เสียหายอยู่แล้ว
ช่วงท้ายเกมแม้จะพยายามแค่ไหนแต่ก็ไม่เป็นผลสำหรับซันเดอร์แลนด์ จบ 90 นาทีเชลซีเป็นฝ่ายเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้พวกเขาขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 3 ของตารางพรีเมียร์ ลีกได้สำเร็จ
ส่วนซันเดอร์แลนด์นี้ต้องลุ้นคู่ของวีแกนว่าจะจบอย่างไร ก่อนพวกเขาจะดูอันดับของตัวเองอีกทีหนึง
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก 5.5, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช 7.0, ดาบิด ลูอีซ 7.0*, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า 5.0, ไรอัน เบอร์ทรานด์ 5.5, รามิเรส 5.5, ฆวน มาต้า 5.5 (แลมพาร์ด น.89 -), ออสการ์ 6.0, จอห์น โอบี มิเกล 7.0, เอด็องน์ อาซาร์ 5.5 (เบนายูน น.85 -), เด็มบ้า บา 5.0 (ตอร์เรส น.45)
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : รอส เทิร์บูลล์, เปาโล แฟร์เรร่า, จอห์น เทอร์รี่, มาร์โก้ มาริน
ซันเดอร์แลนด์ : ซิมองน์ มินญอเล่ต์ 5.0, ฟิล บาร์ดสลี่ย์ 4.5, แดนนี่ โรส 6.0, แมทธิว คิลกัลลอน 5.5, จอห์น โอเชีย 6.0, อัลเฟร็ด เอ็นดิเย่ 5.5, เซบาสเตียน ลาร์สสัน 4.0 (แม็คคลีน น.71 5.0), เคร็ก การ์ดเนอร์ 4.5 (โคลแบ็ค น.82 -), อดัม จอห์นสัน5.0, สเตฟาน เซสซิยอง 4.5, คอนเนอร์ วิคแฮม 4.5