ตามเป้า!สิงโตยันยูเครน 0-0 ลุ้นเฮ 2 นัดในบ้าน
"สิงโตคำราม"ทีมชาติอังกฤษทำผลงานตามเป้าหลังบุกมายันเสมอยูเครน 0-0 ทำให้ขยับเป็นจ่าฝูงเดี่ยวโดยเหลืออีก 2 นัดในบ้านตัวเองพบมอนเตเนโกรและโปแลนด์โอกาสเข้ารอบค่อนข้างใส
ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
วันอังคารที่ 10 กันยายน 2556
ยูเครน 0-0 อังกฤษ
ประตู : -
รอย ฮอดจ์สันกุนซือทาถูกใช้ผู้เล่นชุดเดิมทั้งหมดยกเว้นเจมส์ มิลเนอร์แข้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ลงเล่นแทนแดนนี่ เวลเบ็คซึ่งติดโทษแบนจากใบเหลืองนัดก่อนโดยนัดนี้ไฮท์ไลท์อยู่ที่แฟร็งค์ แลมพาร์ดลงเล่นให้ทีมชาติครบ 100 นัดพอดี
ครึ่งแรก
ขิงยิงไกล
ช่วงต้นเกมเหมือน"สิงโตคำราม"เล่นอย่างใจเย็นเป็นฝ่ายครองเกมต่อบอลแต่ยูเครนก็เป็นงานใช้ความสามารถเฉพาะตัวเล่นงานคืนและนาทีที่ 3 เจอร์ราร์ดลองทักทายยิงไกล 30 หลาแต่ไปตรงตัวพียาตอฟ
เคฮิลล์ช่วยชีวิต
นาที 13 อังกฤษรอดตายหลังลูกวางยาวเป็นเฟเด็ตสกี้วิ่งแล่บมาที่ริมเขตโทษก่อนวิ่งมาตบย้อนเข้าฮอร์ตให้ โซซุลย่าที่กำลังปรี่เข้ามาแต่โดนเคฮิลล์ที่ตามประกบมาโขกทิ้งข้ามคานหวุดหวิดเสียแค่เตะมุม
เจ้าถิ่นขึงแล้ว
ทีมเยือนเริ่มทำเกมบุกไม่ขึ้นหลังยูเครนเร่งสปีดใส่เกียร์เดินหน้าหมายจะเอาประตูขึ้นนำให้ได้เร็วที่สุดแต่แนวรุกยังไม่พลิกแพลงพอที่จะผ่านแนวรับอังกฤษไปได้
ขิงปั่นไกลสุดซี้ด
นาที 33 หลังหายไปนานเจมส์มิลเนอร์พาบอลจากปีกซ้ายตัดเข้ามาแล้วขวางจ่ายให้เจอร์ราร์ดที่จับจังหวะนึงแล้วเอียงตัวปั่นไซด์โค้งจากระยะ 25 หลาบอลพุ่งเลี้ยวไปหล่นบนเพดานตาข่ายอย่างน่าหวาดเสียว ถ้าต่ำกว่านี้สวยงามแน่ๆ
แลมพ์กดฟรีคิก
นาทีสุดท้ายอังกฤษเริ่มวิ่งไล่ในแดนยูเครนกะไม่ให้ต่อบอลขึ้นมาง่ายๆแล้วแลมพ์ได้โอกาสลุ้นทำประตูจากลูกฟรีคิกปรากฏวิ่งมาซัดบอลถูกกำแพงออกหลังได้เตะมุมลูกนี้ร้องจะเอาแฮนด์บอลขอจุดโทษด้วยแต่กรรมการไม่ให้ หมดครึ่งแรกเสมอกันไป 0-0
ครึ่งหลัง
เริ่มมาอังกฤษก็โดนนวดทันทีเรียกว่าตอนนี้ 11 คนลงไปอยู่ในแดนตัวเองหมดแต่ถ้ายูเครนยังไม่มีมุขใหม่ๆมาเจาะแนวรับทีมเยือนดูแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรสำหรับลูกทีมของรอย ฮอดจ์สัน
วัลค็อตต์โดนเก็บ
นาที 60 วัลค็อตต์เล่นชิ่งกับเพื่อนแล้วกระชากห้อขึ้นมาทางปีกขวาแต่กองหลังเจ้าถิ่นเห็นว่าตามไม่ทันแล้วเลยสไลด์เลาะจากด้านหลังเต็มๆเลยถูกใบเหลืองส่วนแข้งอาร์เซนอลต้องไปปฐมพยาบาลนอกสนาม
อูย...สิงโตเกือบโดน
นาที 71 โอกาสใกล้เคียงที่สุดสำหรับวันนี้หลังยูเครนได้ฟรีคิกเกือบๆบนเส้นเขตโทษก่อนที่โคน็อปลีอันก้าจะรับหน้าที่สังหารวิ่งมาเอียงตัวปั่นไซด์อ้อมกำแพงบอลแฉลบกำแพงเฉี่ยวเสาน่าเข้าสุดๆ โจ ฮาร์ทพุ่งสุดมือไม่ทันแล้ว
ยูเครนหวิดนำอีก
อีก 2 นาทีต่อมาอังกฤษรอดพ้นวิกฤติอีกหนหลังลูกเตะมุมเป็นโคนอปลีอันก้าได้ขวิดจากระยะเหน่งๆ 6 หลาแต่ดันโดนไม่เต็มหัวบอลตกพื้นเข้ามือฮาร์ท เล่นเอาเจ้าตัวลงไปนั่งทรุดเพราะโดนเต็มๆไม่น่าเหลือเพราะจ่อเกิ๊น
แลมพ์เกือบฮีโร่!
อังกฤษเริ่มตั้งสติได้ก่อนหมดเวลา 8 นาทีไคล์ วอล์กเกอร์อ่านเกมขาดจังหวะที่ยูเครนจะสวนขึ้นมาทางริมเส้นดักทางฉกบอลก่อนปาดเข้าเขตโทษให้แลมพ์แหย่ขาดสะกิดบอลเปลี่ยนทางนิดนึงบอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว
ช่วงท้ายเกมอังกฤษเผาเวลาพยายามบุกมาอยู่แถวๆริมเส้นหรือไม่ก็แดนยูเครนให้ลึกที่สุดเพื่อให้จังหวะโดนสวนกลับบอลจะได้แค่ออกข้างแถมช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 ลูกเตะมุมเป็นแลมพ์ที่เสือกหัวโขกตัดหน้ากองหลังบอลเฉี่ยวเสาไปอีกแล้วจนในที่สุดกรรมการเป่านกหวึดหมดเวลาทำให้ลูกทีมปู่รอยบุกมายันเสมอ 0-0 ยังนำฝูงและโปรแกรมสองนัดกับมอนเตเนโกรและโปแลนด์เป็นพวกเขากุมชะตากรรมเข้ารอบสุดท้ายเอาไว้หมดแล้ว
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ยูเครน : อันดรีย์ พียาตอฟ 6,อาร์เต็ม เฟเด็ตสกี้ 5,เยฟเฮน คาเคริดี้ 6,โอเล็กซานเดอร์ คูเชอร์ 5,ยาเชสลาฟ เชสชุค 5,ทาราส สเตปาเนนโก้ 5,เอ็ดมาร์ 5,โอเลช กูเซฟ 5(เบซุส น.68,6),อันเดร ยาร์โมเลนโก้ 7,เยฟเฮน โคนอปลีอันก้า 7*,โรมาน โซซุลย่า 5(เซเลสยอฟ น.89)
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท 6,ไคล์ วอล์กเกอร์ 5,แกรี่ เคฮิลล์ 6,ฟิล จาเกียลก้า 5,แอชลีย์ โคล 5,แฟร็งค์ แลมพาร์ด 6,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 6,แจ็ค วิลเชียร์ 5(ยัง น.67,5),ธีโอ วัลค็อตต์ 5(เคลฟเวอร์ลี่ น.87),ริคกี้ แลมเบิร์ต 4,เจมส์ มิลเนอร์ 6