แลมพ์เบิ้ล!สิงโตตามสั่งยำรองบ่อน 5-0 คัดบอลโลก
ทีมชาติอังกฤษลงประเดิมเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกได้สมใจกองเชียร์ เมื่อพวกเขาบุกไปเอาชนะมอลโดว่าด้วยสกอร์ขาดลอย 5-0 จากสองประตูของแลมพาร์ด คว้า 3 คะแนนแรกได้ไร้ปัญหา
ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก กลุ่มเอช
มอลโดว่า 0 - 5 อังกฤษ
สนาม : ซิมบรู สเตเดี๊ยม
ประตู :0-1 แลมพาร์ด(จุดโทษ) น.4, 0-2 แลมพาร์ด น.29, 0-3 เดโฟ น.32, 0-4 มิลเนอร์ น.74, 0-5 เบนส์ น.83
ทีมชาติอังกฤษลงประเดิมเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกเป็นนัดแรกโดยที่ไม่มีหัวหอกเบอร์หนึ่งอย่างรูนี่ย์ที่ต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บอยู่ เลยจัดเดโฟลงเล่นในแดนหน้า โดยมีเคลฟเวอร์ลี่ย์เป็นตัวปั้นตรงกึ่งกลาง
ด้านข้างมีมิลเนอร์กับแชมเบอร์เลนที่วันนี้ได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีม
ครึ่งแรก
นำเร็วเลยจ๊ะ!แลมพ์ซัดจุดโทษเต็มแรง
เริ่มเกมมาได้แค่ 4 นาที อังกฤษก็มีประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็วเลย จากการที่ผู้เล่นของมอลโดว่าไปทำแฮนด์บอลจนกรรมการเป่าเป็นจุดโทษ แลมพาร์ดรับหน้าที่สังหารอัดเข้าไปเต็มแรง ผู้รักษาประตูพุ่งถูกทางจริง แต่เอาไม่อยู่ "สิงโตคำราม" นำเลย 1-0
ซาไกนายทำอะไร๊!?
อีก 3 นาทีต่อมา จริงๆมันน่าจะเป็นจังหวะขึ้นนำห่าง 2-0 ไปแล้วสำหรับอังกฤษ กับจังหวะที่แชมเบอร์เลนกระชากพาบอลหนีตัวประกบตรงริมเส้นได้สวย ก่อนจะเปิดตัดเลียดเข้ากลางไปเสาแรก เดโฟชาร์จเข้ามาแต่ตัวเองอยู่ในสภาพกึ่งไม่พร้อม เลยลังเลว่าจะจับหรือยิงดี สุดท้ายบอลปลิ้นหลุดออกหลังไป ทั้งที่ถ้าปล่อยผ่านก็จะมีแลมพาร์ดชาร์จพลังรอยิงอยู่แล้วเชียว
สิงโตดูขี่แต่ไม่ขาด
เกมนี้อังกฤษก็ดูจะเหนือกว่าในเรื่องของการครองบอลตามสเต็ปที่เป็นทีมที่ภาษีดีกว่า เพียงแต่เกมของพวกเขาก็ไม่ได้กดดันอะไรทางเจ้าบ้านมากสักเท่าไหร่ แถมยังโดนจังหวะสวนกลับอยู่เนืองๆ เผลอๆเล่นไปเล่นมาทำเพิ่มไม่ได้เดี๋ยวได้ดีช็อกกันพอดี
ขอเป็นพระเอก!แลมพ์สอดโขกหล่อๆ 2-0
นาทีที่ 29 ลูกนี้ง่ายๆสบายใจปนความเด็ดขาดขอแลมพาร์ดเลย เมื่อเขาสอดขึ้นไปรอโหม่งลูกเปิดของจอห์นสันที่บรรจงตักลึกเข้าไปในกรอบเขตโทษข้ามหัวกองหลัง ก่อนหล่นปุ้กลงจุดนัดพบที่แข้งเชลซีเข้าโขกผ่านมือของผู้รักษาประตูไปเสียบเสานิ่มๆ 2-0 อังกฤษนำห่างสักที
ขาดแล้วสินะ!ซาไกซัดสิงโตไหลมาเทมา
อีก 3 นาทีต่อมา เป็นยี่ห้อการค้าของเขาจริงๆสำหรับเดโฟที่ถ้าหากได้ง้างตีนซัดเหมาะๆเมื่อไหร่ล่ะได้เรื่อง กับจังหวะที่แชมเบอร์เลนตะลุยขึ้นหน้า แล้วแทงทะลุช่องให้เดโฟแม้ว่าจะเบี่ยงออกข้างนิดๆ แต่บอลมันเข้าขวาพอดีเลยได้เอี้ยวซัดเน้นๆส่งบอลเบียดเสาแรกไปซุกตาข่ายสวยงาม เกมขาด 3-0 ถ้าไม่ประมาทจนน่าเขกกระโหลก ยังไงเกมนี้คงไม่พลิก
สิงโตคุมเกมไปเรื่อย
อาจจะเพราะว่าตอนนี้เกมขาดไปแล้ว เลยทำให้สมาธิของผู้เล่นมอลโดว่าตกลงไปจากตอนแรกที่โดนนำแค่ 1-0 เป็นอังกฤษที่ได้ครองบอลค่อนข้างจะเด็ดขาดอยู่ฝ่ายเดียว ดูท่าเกมคงจะจบครึ่งแรกโดยคงสกอร์นี้เอาไว้ เพราะตอนนี้เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายแล้ว
จบ 45 นาทีแรก อังกฤษพอจะไหลก็ใส่ไม่ยั้งออกนำไป 3-0 ซึ่งก็เป็นที่คาดกันเอาไว้อยู่แล้ว มาดูกันในครึ่งหลังว่าอังกฤษจะทำเพิ่มหรือไข่แตกหรือไหมเท่านั้นเอง
ครึ่งหลัง
อังกฤษเปลี่ยนเอาเจอร์ราร์ดกัปตันทีมออกไปพัก แล้วส่งคาร์ริคที่กลับมามีชื่อในทีมชาติอีกครั้งในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์อย่างเป็นทางการลงไปเล่นแทน
สิงโตให้ธีโอลงแทนรุ่นน้อง
นาทีที่ 59 หลังจากครองบอลไปมาแบบไม่ได้ขยีบสปีดกันอยู่พักใหญ่ อังกฤาก็เปลี่ยนตัวผู้เล่นอีกหนึ่ง ด้วยการส่งจรวดทางเรียบอย่างวัลค็อตต์ลงไปเล่นแทนรุ่นน้องในทีมอาร์เซนอลอย่างแชมเบอร์เลน
สิงโตยังนวดไปเรื่อย
ตอนนี้เกมก็ยังเป็นของทางอังกฤษที่บุกวันเวย์อยู่ฝ่ายเดียว แม้ว่ามอลโดว่าจะได้สวนบ้าง แต่ก็เหมือนมดกัดเจ็บแสบๆแต่ไม่เป็นอะไรมากมาย ตอนนี้ก็รอว่าเกมจะคงสกอร์นี้ต่อไปหรืออังกฤษจะทำเพิ่มได้ไหม เพราะดูจากการเข้าทำไม่ได้มีอะไรมาก แต่อาจจะเหมือนครึ่งแรกที่พอจะมาก็มากันรวดๆเลย
โก๋แดนลงแทนซาไก
นาทีที่ 68 อังกฤษเปลี่ยนเต็มแม็กเลย เมื่อตัดสินใจถอดเอาเดโฟที่มีสไตล์โฉบเฉี่ยว ตีนคมออกไป แล้วให้เวลเบ็คที่แม้ความคมจะเป็นรอง(มหาศาล) แต่เรื่องการเก็บบอลและเทคนิคก็ถือว่าพอตัว
นึกว่าจะไม่ยิง!สิงโตถ่ายสวยได้เม็ด 4
นาทีที่ 74 เป็นการต่อบอลกันที่สวยงามจนเกือบจะเหมือนดีแต่ป้อล่อไม่เป้นเลยสำหรับอังกฤษ ในจังหวะที่สามหน่ออย่างวัลค็อตต์, เวลเบ็คและเคลฟเวอร์ลี่ย์หลุดขึ้นไป จ่ายบอลต่อกันไปมาไม่ยิงสักที แต่สุดท้ายเป็นการฝืนที่ยอดเยี่ยมเมื่อจ่ายกันไปจนสุดที่วัลค็อตต์ซึ่งส่งย้อนกลับหลังไปที่มิลเนอร์สอดขึ้นมาบรรจงแปเน้นๆส่งบอลเลียดผ่านมือนามาสโก้ที่วันนี้หมดสิทธิ์รับทุกลูก เกมขาดไปอีกขั้ร 4-0
สิงห์แอบกลุ้ม!เจทีเจ็บ
อีก 2 นาทีต่อมา กลายเป็นเชลซีต้องมานั่งคิดมากกันสักหน่อย เมื่อเห็นภาพที่เทอร์รี่ลงไปนั่งกับพื้นสนามทำหน้าเซ็งเกลเพราะน่าจะมีอาการบาดเจ็บกำเริบขึ้นมา ซึ่งก่อนหน้าที่จะลงเล่นในเกมนี้ เจ้าตัวก็เพิ่งจะผ่านความฟิตแบบเฉียดฉิวมาด้วย
เม็ด 5 มาแล้ว!เบนส์ยิงเฮงได้เฮกับเพื่อน
นาทีที่ 83 แม้ว่าจะเฮงๆอยู่หน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นประตูอยู่ดีกับลูกยิงฟรีคิกของเบนส์ที่พยายามจะปั่นให้โค้งหนีกำแพง แม้บอลจะไปติดซะก่อน แต่กลายเป็นดีเมื่อแฉลบเปลี่ยนทางพุ่งย้อยไปซุกเสาแรก น่าสงสารนามาสโก้เสียจริง สกอร์เละ 5-0
จบ 90 นาที เป็นอังกฤษที่เก็บ 3 คะแนนพร้อมกดประตูตุนไว้ได้เยอะอย่างที่หวังเอาไว้ เมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะมอลโดว่าไปขาดลอย 5-0 เริ่มต้นการคัดเลือกฟุตบอลโลก 2014 ได้สวยเหมือนกันสำหรับฮอดจ์สัน
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
มอลโดว่า : สตานิสลาฟ นามาสโก้ 2, อีกอร์ อาร์มาส 3, วิตตอร์ โกโลวาเทนโก้ 3, อเล็กซานดรู อีพูเรียนู 2, เซอร์กี้ โควาลชุค 3, ซีเมียน บัลการู 3, อเล็กซานดรู โอนิก้า3, อเล็กซานดรู กัตแคน 4, อเล็กซานเดอร์ ซูโวรอฟ5(เดดอฟ 4 น.45), อาร์ตัวร์ ปาทราส5, อีกอร์ ปิคุสซิแอ็ค 4(ซิโดเรนโก้ 4 น.76(ออฟซีนิตอฟ - น.85)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : เซอร์กี้ ปาสเซนโก้, อันเดรียน เกนไก, เปรตู ราคู, วิตาลี บอร์ดิยาน, ยูเกนนุย เซโบตารู, อเล็กซานดรู ปาสเซนก้, สตานิสลาฟ อีวานอฟ, อนาโตลี โดรอส, เซอร์กี้ อเล็กซีฟ
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท 6, เกล็น จอห์นสัน 7.5, เลจ์ตัน เบนส์ 7.5, โจเลี่ยน เลสค็อตต์ 5.5, จอห์น เทอร์รี่ 5.5, สตีเว่น เจอร์ราร์ด 7(คาร์ริค 6 น.45), เจมส์ มิลเนอร์ 7, แฟรงค์ แลมพาร์ด 8, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ 7, อเล็กซ์ อ๊อกเหลด แชมเบอร์เลน 8*(วัลค็อตต์ 5 น.58), เจอร์เมน เดโฟ 7(เวลเบ็ค 6 น.68)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : จอห์น รัดดี้, แจ็ค บัตแลนด์, ไคล์ วอล์คเกอร์, ไรอัน เบอร์ทรานด์, แกรี่ เคฮิลล์, ฟีล จาเกียลก้า, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์
_________________