ฟาร์ท,RVPคนละเม็ด!กังหันตอกลิ่มผีดิบ 4-1
"กังหันสีส้ม"ฮอลแลนด์ยังคงฟอร์มเยี่ยมเก็บชัยชนะได้อีกแล้วหลังมีราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ทกับโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ช่วยกันยิงพาให้เอาชนะ"ผีดิบ"โรมาเนียไป 4-1 จำเป็นจ่าฝูงเดี่ยวๆของกลุ่มเรียบร้อย
ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2014
สนาม : เนชั่นแนล สเตเดี้ยม
วันอังคารที่ 16 ตุลาคม 2555
โรมาเนีย 1:4 ฮอลแลนด์
ประตู : 0-1 เลนส์ น.10, 0-2 อินดี้ น.29, 1-2 มาริก้า น.40, 1-3 ฟาน เดอร์ ฟาร์ท น.45, 1-4 ฟาน เพอร์ซี่ น.86
คลิปไฮไลท์ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โรมาเนีย 1-4 เนเธอร์แลนด์
ครึ่งแรก
มาไว!เลนส์โหม่งเช็ดคานกังหันหมุนแล้ว
เพียงแค่ 10 นาทีแรก"กังหันสีส้ม"ก็มาได้ประตูขึ้นนำกันไปแล้วในจังหวะเตะมุมของฟาน เดอร์ ฟาร์ทเข้าไปกลางเขตโทษ ทาทารูซานูออกมาชกก่อนไปเข้าหัวของเลนส์โหม่งสวนเข้ามาเลยและก็ทางดีสุดๆบอล ลอยโก่งก่อนจะไปเช็ดคานเข้าประตูไปในทันใด ฮอลแลนด์ออกนำอย่างไว 1-0
เกือบอีก!เลนส์ซัดเน้นๆยังไม่ผ่าน
ฮอลแลนด์มากันอีกแล้วจากการขึ้นบอลทางริมเส้นขวาที่นาร์ซิงห์ก่อนจะจ่ายเข้า มาให้กับฟาน เพอร์ซี่ดีดแต่ติดเซฟทาทารูซานนู ก่อนจะเปิดย้อนกลับมาให้กับเลนส์ได้ยิงสองครั้งสองคราก็ยังไม่ผ่านอีก
เพอร์ซี่โหม่งไม่ตรงกรอบ
ทีมเยือนยังบุกกันไม่หยุดหย่อนล่าสุดมาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกกันบ้างเปิด เข้าไปที่เสาแรกโดยฟาน เดอร์ ฟาร์ท ก่อนจะเป็นฟาน เพอร์ซี่ที่ได้โหม่งแต่สุดท้ายก็ยังไม่ตรงกรอบหลุดคานออกหลัง
มาแรง!อินดี้โขกบวกเพิ่มให้กังหัน
แล้วนาที 29 พวกเขาก็มาได้ประตูเพิ่มกันอีกรูปเป็นจังหวะฟรีคิกทางซ้ายของฟาน เดอร์ ฟาร์ทเปิดเข้าไปแม่นเหลือเกินถึงเสาสองให้กับมาร์ติน อินดี้โฉบเข้ามาโขกกันแบบโล่งๆส่งบอลไปตุงตาข่าย ฮอลแลนด์ทิ้งห่างไปเป็น 2-0
ยังไม่ยอม!มาริก้ายิงไล่ผีดิบไล่มาแล้ว
นาที 40 เจ้าบ้านกลับมาคึกคักกันอีกครั้งหลังได้ประตูไล่มาแล้วในจังหวะการโซโล่ เดี่ยวของมาริก้าที่ลากจากขวาแหวกเข้ามาจนถึงหน้าเขตโทษก่อนจะเห็นช่องสบ โอกาสกดทันทีสเตเคเลนเบิร์กล้มปัดไม่ทัน โรมาเนียตามมาเป็น 2-1
เอาคืน!ฟาร์ทส่องโทษกันหันทิ้งห่างอีก
แต่ทดเจ็บก็ยังสบโอกาสให้กับ"กังหัน"อีกหลังนาร์ซิงห์สปีดแข่งไปกับทามาส ก่อนจะโดนเบียดล้มลงแล้วโดนเป่าเป็นจุดโทษ ฟาน เดอร์ ฟาร์ทลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารเองแล้วก็ไม่มีเหลือยิงแบบมุมดิก ฮอลแลนด์นำเพิ่มอีกเป็น 3-1 และปิดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง
เกือบอีกแล้ว!RVP โหม่งยังติดเซฟ
กลับมาเริ่มครึ่งหลังฮอลแลนด์เกือบได้ประตูเพิ่มอีกแล้วในจังหวะที่บอลไป อยู่กับฟาน เดอร์ ฟาร์ทที่วันนี้กลายเป็นหัวใจเกมบุกเลยได้ตั้งป้อมเปิดเข้าไปในเขตโทษและเป็น ฟาน เพอร์ซี่โฉบมาโขกแล้วแต่ยังเจอทาทารูซานูปัดเอาไว้ได้อยู่
ผีดิบส่องไกลยังไม่ผ่าน
ฝั่งเจ้าบ้านเองก็มีโอกาสลองบ้างเหมือนกันในนาที 52 จากการยิงไกลของสคานคูระยะประมาณ 25 หลาเยื้องไปทางซ้าย ยิงทีบอลพุ่งยังกับจรวดแต่สเตเคเลนเบิร์กยังล้มตัวทุบบอลออกไปได้อยู่
เกมเริ่มเปลี่ยนแกนแต่ผีดิบเจาะไม่เข้า
หลังจากนั้นโรมาเนียได้โอกาสทำเกมบุกขึ้นมาบ่อยเหมือนกันแต่ก็ยังเจาะแนวรับ ของฮอลแลนด์ไม่เข้าเลย ส่วนทีมเยือนตอนนี้ออกมาเน้นจังหวะรอสวนบ้าง
ชิวไป...กังหันเคาะบอลไม่เร่งรีบ
ผ่านมาจนถึงช่วง 15 นาทีสุดท้ายแล้วเกมกลับมาเป็นของฮอลแลนด์อีกครั้งที่ได้ครองบอลเยอะกว่าแต่ ก็ไม่เร่งรีบอะไรแล้วเน้นถ่ายบอลกันไปมามากกว่า ส่วนโรมาเนียก็เร่งไม่ขึ้นเลยและส่งมูตูลงมาหวังจะทวงประตูให้ได้
เจ้าบ้านโห่หนักไม่ได้จุดโทษ
นาที 81 แฟนเจ้าบ้านโห่หนักหลังพวกเขาคิดว่าจะได้จุดโทษจากอินดี้ไปเหนี่ยวๆดึงๆกับสตานคูจนล้มลงไปแต่กรรมการเลือกจะไม่เป่าให้
ลาก่อน...RVPแปง่ายๆกังหันปิดกล่อง
ก่อนหมดเวลา 4 นาที"อัศวินสีส้ม"ก็ตอกฝาโลงส่ง"ผีดิบ"กลับบ้านเก่าเรียบร้อยในจังหวะบอลออก ไปทางขวาให้กับนาร์ซิงห์พาบอลขึ้นมาก่อนจะมองไกลแล้วเปิดเรียดเข้าไปในเขต โทษให้กับฟาน เพอร์ซี่วิ่งเข้ามาแปสวนทาทารูซานูเข้าไป ฮอลแลนด์ส่งท้ายนำ 4-1
จบเกมฮอลแลนด์ก็ยังเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่องเอาชนะโรมาเนียไป 4-1 ทำให้พวกเขากลายมาเป็นจ่าฝูงโดดๆของกลุ่มไปแล้วเขี่ยโรมาเนียไปเป็นรองจ่า ฝูงแทน
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
โรมาเนีย : ซิเปรียน ทาทารูซานู, รัซวาน รัท, กาเบรียล ทามาส, วลาด ชิริเชส, โดริน โกเอียน, อเล็กซานดรู บูร์เชนู (ลาซาร์ น.61), กาเบรียล ทอร์เย่ (ปอปาราดู น.64), มิไฮ พินทิลี่, ซิเปรียน มาริก้า, กอร์เก้ โกรซาฟ (มูตู น.75), บ็อกดาน สตานคู
สำรองไม่ได้ลงสนาม : คอสเทล พานทิลิมอน, เซร์เกียน ลูชิน, ลาสมิน ลาตอฟเลวิคี่, วาเลริก้า กามัน, ฟลอริน การ์ดอส, ดรากอส กริกอเร่, อเล็กซ์ซานดรู ชิปซิอู, รัซวาน โคคิส, อเล็กซานดรู แม็กซิม
ฮอลแลนด์ : มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก, ริคาร์โด ฟาน ไรจ์น, ยอห์น ไฮติงก้า, รอน ฟลาร์, บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้, ไนเจล เด ยอง, เควิน สตรูทมัน, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท (อเฟลลาย น.76), ลูเซียโน่ นาร์ซิงห์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เยเรมัน เลนส์ (เอเลีย น.89)
สำรองไม่ได้ลงสนาม : มิเชล ฟอร์ม, เคนเน็ธ แฟร์เมียร์, ยานมัท, ดักกลาส ฟรานโก้, นิค เฟียร์เกแฟร์, ยอร์ดี้ คลาซี่, เออร์บี้ เอ็มมานูเอลสัน,คลาส ยาน ฮุนเตลาร์, เดิร์ค เคาท์
_________________