ทำตัวเอง!หงส์นำ2รอบโดนตีเจ๊าลุ้นต่อเกมสุดท้าย
"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลทำตัวเองขึ้นนำก่อน 2 ครั้ง 2 คราแต่ดันปล่อยให้ยัง บอยส์ตามตีเสมอได้สำเร็จทำให้ต้องไปลุ้นเข้ารอบต่อในเกมสุดท้ายที่ต้องออกไปเยือนอูดิเนเซ่ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ
วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน 2555
ลิเวอร์พูล 2-2 ยัง บอยส์ เบิร์น
สนาม : แอนฟิลด์
ประตู : 1-0 จอนโจ้ เชลวี่ย์ น. 32, 1-1 ราอูล มาร์เซโล่ โบบาดิลล่า น. 52, 2-1 โจ โคล น. 71, 2-2 ซเวโรติช น. 88
"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลหากเก็บ 3 แต้มได้ในเกมนี้จะกอดคออันจิ มาคัชคาล่าเข้าสู่รอบต่อไปทันทีแต่เบรนแดน รอดเจอร์สก็ยังส่งเหล่านักเตะสำรองลงมาโชว์ฟอร์มเป็นส่วนใหญ่
ตำแหน่งผู้รักษาประตูมีเปเป้ เรน่าลงเฝ้าเสาโดยเกมนี้เขาทำลายสถิติเป็นผู้รักษาประตูที่ลงเล่นในเกมยุโรปมากที่สุดของสโมสรด้วยจำนวน 81 นัดแซงหน้าเรย์ คลีเมนซ์ตำนานจอมหนึบทีมชาติอังกฤษไปแล้ว
แผงหลังมีสจ๊วร์ต ดาวนิ่งที่ได้ลงมาประจำการในตำแหน่งแบ็คซ้ายส่วนคู่เซ็นเตอร์เป็นของเจมี่ คาร์ราเกอร์กับมาร์ติน สเคอร์เทลและอันเดร วิสดอมประจำการตำแหน่งแบ็คขวา
กองกลางยัดไปเลย 5 ตัวนำโดยนูริ ซาฮิน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ซูโซ่ตรงกลางสนามมีโจ โคลและอุสซามะ อัสไซดี้คอยลากเลื้อยริมเส้นและจอนโจ้ เชลวี่ย์ปักหลักค้ำแดนหน้าจำเป็นคนเดียว
ครึ่งแรก
ยัง บอยส์บุกใส่ก่อนเลย
เริ่มเกมขึ้นมาไม่ถึง 2 นาทีกลายเป็นยัง บอยส์ที่ได้ลุ้นทำประตูก่อนถึง 2 ครั้งจากจังหวะตีลังกากลับหลังของโบบาดิลล่ากับลูกยิงตรงริมกรอบเขตโทษด้านซ้ายของนัซซูโล่แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือของเปเป้ เรน่า
ถัดจากนั้นอีก 2 นาทีทีมเยือนได้โต้กลับเร็วก่อนที่บอลจะเลยมาถึงโบบาดิลล่าในกรอบเขตโทษด้านซ้ายซึ่งเขาก็ยิงผ่านเจมี่ คาร์ราเกอร์ไปได้แต่ยังไปตรงตัวของเรน่าอีกครั้ง
หงส์ตั้งเกมไม่ติด
ผ่านไปแล้ว 15 นาทีรูปเกมของ"หงส์แดง"ยังดูเนือยๆทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันแทบไม่มีโอกาสได้จบสกอร์เลยทำให้เสียกองเชียร์ยังคงเงียบกริบอยู่มีแต่แฟนบอลทีมเยือนที่ร้องรำทำเพลงกันสนั่นแอนฟิลด์
โคล-เฮนโด้ได้ส่อง
มาถึงนาทีที่ 17 โจ โคลมีโอกาสได้ลุ้นทำประตูครั้งแรกในจังหวะวิ่งไปเก็บบอลจ่ายทะลุช่องของเชลวี่ย์ในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนยิงเร็วทันทีแต่บอลไหลออกเสาไกลไป
ถัดมาอีกเพียงนาทีเดียว"หงส์แดง"มาได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาหน้ากรอบเขตโทษเยื้องไปทางฝั่งซ้ายโดยเป็นเฮนเดอร์สันรับอาสายิงบอลทะลุกำแพงไปแต่ก็ยังไปเข้ามือของโวล์ฟลี่ย์
เฮนโด้หลุดเดี่ยวแต่...ไม่เข้า
นาทีที่ 26 เชลวี่ย์โชว์ไขว้บอลจังหวะเดียวทะลุแผงหลังทั้งกระบิให้เฮนเดอร์สันได้หลุดเดี่ยวไปดวยกับโวล์ฟลี่ย์แล้วแต่ดันไม่นิ่งยิงไปติดเซฟโกลทีมเยือนอย่างน่าเสียดาย
ตาหวานถอดวิสดอมส่งหัวขิงทำเกม-ได้ประตูเลย
รอดเจอร์สเปลี่ยนตัวเร็วอีกครั้งโดยส่งสตีเว่น เจอร์ราร์ดลงสนามไปช่วยเกมแดนกลางแทนอันเดร วิสดอมแล้วถอยจอร์แดน เฮนเดอร์สันลงมาประจำการตรงแบ็คขวาแทนในนาทีที่ 30
หลังเปลี่ยนตัวเพียง 2 นาที"หงส์แดง"ก็ขึ้นนำจนได้ในจังหวะที่โจ โคลทำขิ่งกับซูโซ่หน้ากรอบเขตโทษด้านขวาก่อนที่อดีตดาวเตะทีมชาติอังกฤษจะหลุดเข้าไปเปิดมาให้เชลวี่ย์ที่รออยู่หน้าปากประตูโล่งๆได้โหม่งเข้าไปแบบสบายๆ
หงส์บุกหนักลุ้นเอาลูก 2
เกมของเจ้าถิ่นดีขึ้นเรื่อยๆและมาได้ลุ้นประตูอีกครั้งในจังหวะที่ซูโซ่เลี้ยงมาถึงนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตัดสินใจยิงทันทีแต่บอลยังไปติดบล็อคกองหลังออกไป
จากจังหวะเตะมุมโจ โคลวิ่งเก็บตกบอลที่เคลียร์ออกมาไม่ขาดก่อนยิงเข้ากรอบและเป็นสเคอร์เทลที่ยืนอยู่ตรงหน้าปากประตูสะกิดบอลเปลี่ยนทางแต่โวล์ฟลี่ยังไวพุ่งไปปัดเอาไว้ได้หวุดหวิด
ซูโซ่ดวลเดี่ยวแต่ยิงออก
ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาทีบอลทำชิ่งสั้นของ"หงส์แดง"ออกฤทธิ์อีกแล้วเมื่อเชลวี่ย์จ่ายสั้นๆไปให้โคลแทงพรวดเดียวซูโซ่เข้าไปล่อเป้ายัง บอยส์แต่ดาวรุ่นกระทิงดันรีบร้อนแปด้วยซ้ายบอลเฉี่ยวเสาซ้ายมือออกไปไม่กี่คืบ
ครึ่งหลัง
ยัง บอยส์เปิดหน้าแลก
เริ่มครึ่งหลังมา 3 นาทีทีมเยือนมีโอกาสลุ้นตีเสมอในจังหวะที่อเล็กซานเดอร์ ฟาร์เนรุดรับบอลสั้นมาจากโบบาดิลล่าหน้าปากเขตโทษด้านซ้ายก่อนตวัดยิงไกลทันทีแต่บอลยังไม่ตรงกรอบ
หลังจากนั้นอีกนิดเดียวเอลซาด ซเวโรติชกองหลังเติมขึ้นมารับบอลตรงระยะ 35 หลาก่อนสับไกยิงทันทีแต่บอลหลุดเสาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
เฮนโด้ประกบพลาดยัง บอยส์ตีเจ๊าสำเร็จ
ตูมเดียวตาข่ายแทบขาดไปเลย...ยัง บอยส์ได้จังหวะสวนกลับก่อนเปิดบอลยาวมาให้โบบาดิลล่าพักบอลด้วยเข่าในกรอบเขตโทษด้านซ้ายหลบเฮนเดอร์สันก่อนสับไกด้วยซ้ายเต็มข้อทันทีบอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงามในนาทีที่ 52
ตาหวานก้นร้อนส่งซัวเรซ
เบรนแดน รอดเจอร์สเห็นท่าไม่ดีต้องรีบปิดบัญชีดีกว่าไปลุ้นนัดหน้าจัดการส่งหลุยส์ ซัวเรซดาวยิงตัวความหวังลงมาแทนซูโซ่ในนาทีที่ 61 เพื่อหวังยิงประตูขึ้นนำให้ได้
ชิ่งอย่างสวยโคลหลุดยิงพาหงส์นำ
ประตูแรกของโจ โคลในซีซั่นนี้มาจนได้ในจังหวะที่ซัวเรซได้บอลในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนจ่ายมาให้เจอร์ราร์ดที่เติมขึ้นมากลางประตูแทงจังหวะเดียวให้โคลหลุดเข้าไปยิงสวนโวล์ฟลี่เป็นประตูขึ้นนำในนาทีที่ 71
ยัง บอยส์เปิดหน้าแลกเสมอจนได้
เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายยัง บอยส์พยายามบุกแหลกเพื่อหวังประตูตีเสมอให้ได้หากไม่เช่นนั้นพวกเขาจะตกรอบทันทีแต่ก็ยังไม่มีโอกาสทำประตูมากเท่าไหร่ลุ้นลุ้นแต่ลูกยิงไกลทว่าบอลไปเข้ามือของเรน่า
มาถึง 2 นาทีสุดท้ายซเวโรติชที่ไดยิงไกลหลายครั้งในเกมนี้ก็ส่งบอลเข้าไปกองก้อนตาข่ายจนได้เมื่อซัดด้วยอีซ้ายเต็มๆระยะ 30 หลาบอลพุ่งเสียบคานเข้าไปอย่างสวยและจบเกมด้วยสกอร์นี้ทำให้ทุกทีมต้องไปลุ้นต่อในเกมสุดท้าย
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, อันเดร วิสดอม (สตีเว่น เจอร์ราร์ด น. 30), นูริ ซาฮิน , โจ โคล (ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น. 75), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, จอนโจ้ เชลวี่ย์ , อุสซามะ อัสไซดี้, ซูโซ่ (หลุยส์ ซัวเรซ น. 61)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : แบรด โจนส์, โฆเซ่ เอ็นริเก้, เซบาสเตียน โคอาเตส, โจ อัลเลน
ยัง บอยส์ เบิร์น : มาร์โค โวล์ฟลี่, อเลน เนฟ, เอลซาด ซเวโรวัค , ดูซาน เวสโควัค (ยูฮานี่ โอยาล่า น. 23), ซุตเตอร์, แยน เล็คแจ็คส์, อเล็กซานเดอร์ ฟาร์เนรุด, คริสเตียน เชอนูลี่ย์, ราฟาเอล นัซซูโล่ (ไมเคิ่ล เลซิเนน่า น. 77), ราอูล มาร์เซโล่ โบบาดิลล่า , ยูโลจิโอ้ ซาราเต้
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : แลนดรี้ เอ็มโวโก้, อเล็กซานเดอร์ กอนซาเลซ, โมเรโน่ คอสตานโซ่, ปาสคาล ดูไบ, มัทเธียส วิตคีเวียซ