งูใหญ่ช็อค!แทร็ปซอนสปอร์บุกถลกหนังคาถิ่น 1-0
"งูใหญ่"อินเตอร์ มิลานภายใต้การทำทีมของจาน ปิเอโร่ กาสเปรินี่ยังทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ต่อเนื่องหลังเปิดบ้านพ่ายให้ แทร็ปซอนสปอร์อาคันตุกะจากแดนไก่งวง 1-0 ทำให้ฤดูกาลใหม่นี้เก็บสถิติแพ้รวดในทุกเกมอย่างเป็นทางการ
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
วันพุธที่ 14 กันยายน 2554
สนาม : จูเซ็ปเป้ เมียซซ่า
อินเตอร์ มิลาน 0-1 แทร็ปซอนสปอร์
ประตู : 0-1 ออนเดรจ เซลุตก้า น.76
คลิปไฮไลท์ อินเตอร์ มิลาน 0-1 แทร็บซอนสปอร์
เจ้าบ้าน"งูใหญ่"อินเตอร์ มิลานดร็อปดีเอโก้ มิลิโต้ไว้เป็นเพียงสำรองโดยแนวรุกมีจามเปาโล ปาซซินี่,เวสลี่ย์ สไนเดอร์และเมาโร ซาราเต้ลงเป็นสามประสาน ขณะที่ยูโตะ นากาโตโมะและฮาเวียร์ ซาเน็ตติคอยขึ้นเกมจากริมเส้น
ด้านทีมเยือนแทร็ปซอนสปอร์ส่งเปาโล เอ็นริเก้ลงเป็นหัวหอกตัวเป้าและให้ฮาลิล อัลตินท็อปคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลังโดยมีเซอร์คาน บัลซี่และอลันซินโญ่คอยป่วนริมเส้น
ครึ่งแรก
สไนจ์เดอร์ยิงฟริคิกติด
เริ่มเกมมาได้เพียง 2 นาทีอินเตอร์มาได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายระยะ 25 หลาและเป็นสไนจ์เดอร์ที่รับหน้าที่สังหารทว่ายิงไปติดหัวกำแพงออกหลังไป
เกมช้าชวนหลับ
เกมในช่วง 15 นาทีค่อนข้างเนือย ทั้งสองทีมขึ้นเกมอย่างระมัดระวังและไม่มีจังหวะเปิดหน้าแลกให้เห็น ขณะที่แนวรับของทั้งคู่ยังไม่มีข้อผิดพลาดทำให้โอกาสจบสกอร์แทบหาไม่เจอ
ซาราเต้ทิ้งโอกาส
ถัดมาอีก 3 นาทีโอบีได้โอกาสหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายแบบทุลักทุเลก่อนจิ้มบอล กลับมาให้ซาราเต้ทว่าดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์กลับทำได้ไม่ดีพอในจังหวะจบสกอร์
เช็กยิงไกล
เกมวันนี้ดูค่อนข้างอึดอัดทำให้ทีมเยือนต้องหันมาหาโอกาสทำประตูจากลูกยิง ไกลในนาทีที่ 23 ของเช็กทว่าบอลก็โด่งเกินไป ไม่ได้ลุ้นอะไรมาก
ฟรีคิกสไนจ์เดอร์ไม่ทำงาน
นาทีที่ 30 "เนรัซซูรี่"มาได้ลูกฟรีคิกเกือบจะตำแหน่งเดียวกับในช่วงต้นเกมและเป็น สไนจ์เดอร์ที่รับเหมาเช่นเคยแต่ก็ยังยิงไปติดกำแพงออกหลังเป็นครั้งที่ 2
ซาราเต้ยิงมุมแคบ
สองนาทีต่อมาโอบีจ่ายบอลต่อให้ซาราเต้ได้กระชากหนีแนวรับแทร็ปซอนสปอร์เข้า ไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาก่อนพยายามยิงยัดเสาแรกทันทีแต่ก็ไม่ผ่านผู้รักษา ประตูทีมเยือน
งูลุ้น 2 จังหวะ
ต่อมานาทีเดียวแนวรับทีมเยือนสกัดบอลไม่ดีมาเข้าทางปาซซินี่ได้ยิงในกรอบเขต โทษทว่าก็ไม่ถนัดทำให้ลูกเบาไม่มีน้ำหนัก เซนกิ้นรับสบายและในนาทีเดียวกันอินเตอร์ก็ได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อซาราเต้หลุด เข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายแต่ก็ยิงไปติดตัวเซนกิ้นที่ออกมาปิดมุมได้เยี่ยม
กัมบิอัสโซ่วอลเล่ย์
ก่อนหมดครึ่งแรกหนึ่งนาทีอินเตอร์มาได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะที่ปาซซิ นี่โหม่งบอลกลับมาให้กัมบิอัสโซ่ตั้งเท้าวอลเล่ย์จากนอกกรอบเขตโทษ บอลได้น้ำหนักดีแต่ไม่ตรงกรอบ ทำให้จบครึ่งแรกยังคงเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง
สไนจ์เดอร์ลุ้นฟรีคิก
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียงนาทีเดียวเจ้าบ้านมาได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษระยะ 30 หลาและเป็นสไนจ์เดอร์เจ้าเก่าที่รับหน้าที่สังหาร บอลหลุดเสาซ้ายมือออกไปไม่ไกลนัก
เอ็นริเก้ยิงไกล
หลังจากกลับมาเล่นในครึ่งหลังทีมเยือนรูปเกมดีขึ้นและเปิดเกมรุกเข้าใส่"งู ใหญ่"ต่อเนื่องก่อนจะได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของเอ็นริเก้ในนาทีที่ 52 แต่ก็ไม่ตรงกรอบ
สไนจ์เดอร์ยิงไกล
ถัดมาอีก 4 นาทีเจ้าบ้านตอบโต้ขึ้นมาบ้างและได้ลุ้นจากลูกยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษด้วยขวาของสไนจ์เดอร์ทว่าก็ไม่ตรงกรอบ
มิลิโต้ลุ้น 2 ครั้งติดๆ
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 73 อินเตอร์น่าได้ประตูขึ้นนำอย่างสุดๆจากลูกยิงในกรอบเขตโทษของมิลิโต้ที่ไป ติดเซฟนายทวารทีมเยือนก่อนดาวยิงอาร์เจนไตน์จะได้โอกาสโหม่งอีกครั้งในนาที เดียวกันแต่ก็หลุดเสาซ้ายมือออกไปอีก
เจ้าบ้านช็อค
อย่างไรก็ตามอีกสามนาทีถัดมาแฟนบอลเจ้าถิ่นก็ถึงกับช็อคไปตามๆกันเมื่อกลาย เป็นแทร็ปซอนสปอร์ที่พังประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 เมื่ออัลตินท็อปยิงไปชนคานในจังหวะแรก บอลกระดอนออกมากัมบิอัสโซ่โหม่งสกัดไม่ขาดไปเข้าทางเซลุตก้ากระชากหนึ่ง จังหวะก่อนล้มตัวยิงเข้าประตูไป
งูเกือบตีเสมอ
ก่อนหมดเวลา 2 นาทีอินเตอร์เกือบตามตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะที่สไนจ์เดอร์แทงบอลให้เคาติ นโญ่หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายและบรรจงยิงได้ดีแล้วทว่าต้องชมเซนกิ้น ที่เหินปัดทิ้งออกไปได้หวุดหวิด
จบเกม"งูใหญ่"อินเตอร์ มิลานพ่ายให้แทร็ปซอนสปอร์ 1-0 จากประตูชัยของออนเดรจ เซลุตก้าในนาทีที่ 76 พร้อมทำสถิติแพ้รวดในทุกเกมที่เป็นทางการในฤดูกาลใหม่นี้
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
อินเตอร์ มิลาน : ฮู ลิโอ เซซาร์,โจนาธาน,ลูซิโอ,อันเดรีย ราน็อคเคีย,ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ,เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่,โจเอล โอบี(ริคาร์โด้ อัลวาเรซ น.55),ยูโตะ นากาโตโมะ,จามเปาโล ปาซซินี่(ดีเอโก้ มิลิโต้ น.55),เวสลี่ย์ สไนเดอร์,เมาโร ซาราเต้(ฟิลิเป้ เคาตินโญ่ น.77)
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : วอลเตอร์ ซามูเอล,เปาโล ออร์ลันโดนี่,ดาวิเด้ ฟาราโอนี่,มัตเตโอ เบียงเช็ตติ
แทร็ปซอนสปอร์ : โตลก้า เซนกิ้น,มาเร็ค เช็ค,อาร์กาดิอุส โกลวาสกี้,เซอร์คาน บัลซี่,กิราย คาซาร์,ออนเดรจ เซลุตก้า,เปาโล เอ็นริเก้(โรเบิร์ต วิตเทค น.74),ดิดิเย่ร์ โซโกร่า,อลันซินโญ่(มาเร็ค ซาปาร่า น.64),กุสตาโว่ โคลมัน,ฮาลิล อัลตินท็อป(อากุต อัคกัน น.88)
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : มุสตาฟา ยุมลู,พาเวล โบรเซ็ค,โบร่ เซวิม,เฟอร์แฮท ออซโทรัน