ไล่มาร์เซโล่!ดิ มาเรียซัดโทนราชัน 10 คนเฮหืด 1-0
หืดจับเลยทีเดียวสำหรับ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ต้องเล่น 10 คนเมื่อ มาร์เซโล่ โดนใบแดงแต่ยังเอาตัวรอดไปได้ประตูจาก อังเดล ดิ มาเรีย ซัดนำชัย ดินาโม ซาเกรบ 1-0
ผลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ส์ ลีก กลุ่ม ดี
วันพุธที่ 14 กันยายน 2554
ดินาโม ซาเกรบ 0-1 เรอัล มาดริด
ประตู: 0-1 อังเคล ดิ มาเรีย น.55
คลิปไฮไลท์ ดินาโม ซาเกร็บ 0-1 เรอัล มาดริด
โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือสเปเชี่ยล วันที่โดนแบนห้ามคุมข้างสนามนั้นขนผู้เล่นชุดฟูลทีมลงพร้อมหน้าพร้อมตาเกม รุก 4 ประสานอันได้แก่ อังเคล ดิ มาเรีย,เมซุต โอซิล,คริสติอาโน่ โรนัลโด้ และ คาริม เบนเซม่า ส่วนเจ้าถิ่น ดินาโม ซาเกรบ เน้นรับแพ็กกลางถึง 5 คนห้อย ราคูวิน่า ยืนหน้าเป้า
ครึ่งแรก
เปิดฉาก "ราชันชุดแดง" เดินหน้าเข้าหาแต่ยังหาจังหวะจังๆไม่ค่อยได้กระทั่งนาที 14 พลาดโอกาสไปเองจากจังหวะที่เจ้าถิ่นกำลังจะดันขึ้นสูง ชาบี้ ชิพข้ามแผงหลังให้ โรนัลโด้ วิ่งสอดทะลุหลุดเข้าไปยิงล่อเป้าในเขตโทษทางซ้ายหลุดกรอบออกข้างหน้าตาเฉย
มาดริด เดินหน้าลุยต่อนาที 20 เบนเซม่า มีโอกาสถึงสองครั้งในระยะห่างกันไม่กี่นาทีเริ่มจากหลุดเข้าไปยิงในกรอบเขต โทษทางขวาเหินข้ามคานตามมาด้วย โรนัลโด้ ไหลให้ เบนเซม่า สอดทะลุซัลโวในเขตโทษฝั่งซ้ายไม่ตรงกรอบอีก
"ราชันชุดแดง" ยังบุกต่อเนื่องนาที 27 ไม่ได้ประตูขึ้นนำได้ยังไงจากจังหวะ เบนเซม่า ฉีกตัวมาเอาบอลทางขวาลากตัดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนผ่านเข้ากลาง โรนัลโด้ แปเน้นๆล่อเป้า 15 หลาตรงตัว เคลาวา นายทวารปัดออกมาเข้าทางปืน โอซิล แปสวนทันทีแต่ เคลาวา ที่ล้มไปแล้วปฎิกริยาไวเหลือเชื่อลุกขึ้นปัดปลายมือออกหลังไป
มาดริดกำลังบุกเพลินๆเกือบพลาดท่าเสียประตูหลังผ่านครึ่งชั่วโมงไปแล้ว บาเตลลี ไหลตามช่องให้ รูคาวิน่า กองหน้าวิ่งแซงกองหลัง เปเป้ หลุดเข้าไปยิงตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตูแต่ คาซิญาส นิ่งมากดักเอาไว้ได้ทัน
ท้ายเกมกลับมาเป็นของ มาดริด อีกครั้ง โรนัลโด้ จ่ายให้ เบนเซม่า ไม่ยอมเป็นเป้านิ่งลงมาล้วงบอลก่อนไหลเข้าไปในกรอบเขตโทษ มาร์เซโล่ สอดทะลุขึ้นมาชิพข้ามตัว เคลาวา นายทวารเจ้าถิ่นผ่านหน้าปากประตู จบครึ่งแรกเสมอแบบไร้สกอร์
ครึ่งหลัง
กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ไม่ถึง 10 นาที "ราชันชุดแดง" ฉวยโอกาสพังประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 บอลเริ่มจาก เบนเซม่า ถ่างไปยืนริมเสันฝั่งซ้ายลากตัดเข้าในก่อนผ่านเข้ากลาง มาร์เซโล่ อยู่ใกล้ๆบริเวณหัวกะโหลกจับก่อนส่งต่อไปทางขวา ดิ มาเรีย เปิดหน้าเท้ารออยู่แล้วแปทันทีแบบไม่ต้องจับเสียบใต้คานเสาสองไปอย่างเหนือ ชั้น
พอเสียประตูเกมรับของเจ้าถิ่นปั่นป่วนสมาธิแตกกระเจิงอีกนาทีถัดมา มาดริด เกือบทิ้งห่าง 2-0 ดิ มาเรีย ไหลเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายให้ โรนัลโด้ แปเน้นๆกะว่าเข้าแน่ๆแต่ เคลาวา นายทวารปฎิกริยาไวมากพุ่งปัดเพียงเสี้ยววินาที
พอได้ประตูขึ้นนำดูเหมือน "ราชันชุดแดง" จะเพลาเกมบุกเล่นเนือยๆลงไปกระทั่งเกิดเรื่องขึ้นจนได้ในนาที 73 เมื่อ มาดริด เหลือ 10 คนจากจังหวะ มาร์เซโล่ โดนในเหลืองไปแล้วไม่ระวังเจตนาพุ่งหลาวล้มในเขตโทษกะจะเอาจุดโทษ ผู้ตัดสินไม่หลงกลชูใบเหลืองใบที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออก
แม้ตัวนอยกว่าแต่ มาดริด กลับต่อบอลลุ้นพังประตูที่สอง โรนัลโด้ ไหลให้ เบนเซม่า หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วยิงเน้นๆแต่ เคลาวา นายทวารเจ้าถิ่นล้มตัวใช้ขาดักไว้ได้ทัน
ท้ายเกม "ราชันชุดแดง" ตัวน้อยกว่าถอยร่นลงไปตั้งรับให้ ดินาโม ซาเกรบบุกเข้าใส่ก่อนอาศัยสวนกลับวางบอลยาวให้ โรนัลโด้ วิ่งควบเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายก่อนซัดเน้นๆแต่ เคลาวา นายทวารนัดนี้เหนียวเหลือเกินปัดได้อีก จบเกม มาดริด ชนะ 1-0
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ดินาโม ซาเกรบ: อิบัน เคลาวา,หลุยส์ อิบาเนซ,โทเนล,โดมากอจ วิดา,อิบัน โทเมซัค,มิลาน บาเดลลี,อาเดรียน คาเลลโล่(ซิตัม น.87),มัตเตโอ โควาซิช(โปรคิวัช น.62),ซัมเมียร์,เยอร์โก เลโก้,อันเต้ รูคาวิน่า(เบซิราจ น.75)
เรอัล มาดริด: อิเคร์ คาซิญาส,เซร์คิโอ รามอส,ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่,เปเป้,มาร์เซโล่,อัง เคล ดิ มาเรีย(ลาส น.78),ชาบี้ อลอนโซ่,ฟาบิโอ โคเอนเทรา,เมซุต โอซิล(อีกวาอิน น.78),คริสติอาโน่ โรนัลโด้,คาริม เบนเซม่า(อาร์เบลัว น.82)