"อินทรีเหล็ก"เยอรมนี ยังโหดไม่เลิกบุกกระซวกทีมแกร่งอย่างตุรกีพังคาบ้าน 3-1 เก็บชัย 9 เกมรวดครองอันดับ 1 กลุ่ม A อย่างสง่าผ่าเผยเช่นเดียวกับ"อัศวินสีส้ม"ฮอลแลนด์ที่แม้ฟอร์มหนืดเถือเอา ชนะมอลโดวาได้เพียง 1-0 แต่ก็เพียงต่อการคว้าชัยชนะ 9 เกมรวดเข้ารอบด้วยการเป็นที่หนึ่งของกลุ่ม E
ฟุตบอล ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2012" รอบคัดเลือก กลุ่ม A
วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2554
ตุรกี 1 : 3 เยอรมนี
สนาม : เติร์ค เทเลคอม อารีน่า
ประตู : 0-1 มาริโอ โกเมซ น.36, 0-2 โธมัส มุลเลอร์ น.66, 1-2 ฮาคาน คาเดียร์ บัลต้า น.79, 1-3 บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ (จุดโทษ น.86)
คลิปไฮไลท์ ตุรกี 1-3 เยอรมัน
"อินทรีเหล็ก"โชว์สุดยอดฟอร์มกวาดชัย 8 นัดรวดแต่ถึงกระนั้นเกมนี้บุนเดสเทรนเนอร์อย่างโยอาคิม เลิฟประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะไม่เพลาเครื่องเด็ดขาดเพราะต้องการรักษาโม เมนตัมการเล่นของทีมและที่สำคัญทางเดเอฟเบยังตั้งเงินอัดฉีดทั้งนักเตะและ สต๊าฟโค้ชหัวละกว่า 1.8 แสนยูโร หากสามารถเก็บชัยชนะไปทุกนัดจนจบรอบแบ่งกลุ่ม
ครึ่งแรก
เริ่มเกมมา 6 นาทีตุรกีทักทายเยอรมันอย่างร้ายกาจเมื่อเซลคุกแทงบอลให้ฮามิต อัลตินท็อปได้ซัดเต็มข้อด้วยขวาข้างถนัดแต่นอยเออร์ยังเยี่ยมกว่าบินปัดข้าม คานไปได้
นาที 27 มุลเลอร์พยายามทำประตูด้วยการจักรยานอากาศทว่าส่งบอลหลุดออกทางเสาขวาแต่ทาง ฝั่งเจ้าบ้านก็ตอบโต้ด้วยลูกที่ตูรานกระชากบอลไปเปิดเข้ามาหน้าประตูให้เซล คุกสับไกยิงด้วยขวาแต่เหินข้ามคาน
โอกาสยังเป็นของ"อินทรีเหล็ก"เมื่อนาที 35 พวกเขาได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายแล้วเป็นชไวน์สไตเกอร์ที่ครอสเข้ามาให้บาดสตู เบอร์โขกไปติดเซฟของเดมิเรล
นาทีถัดมาเซลคุกชิพบอลข้ามแนวรับเยอรมนีไปให้ฮามิต อัลตินท็อปได้เอี้ยวตัววอลเล่ย์ที่ระยะ 12 หลาแต่นอยเออร์จัดการไว้ได้ไม่พลาด
แต่แล้วความพยายามของทีมเยือนก็มาประสบผลในนาที 36 เมื่อมุลเลอร์เปิดบอลจากฝั่งขวาไปเสาไกลให้โกเมซจัดการสังหารเข้าซุกก้น ตาข่ายอย่างเฉียบขาด เยอรมนีนำ 1-0
ท้ายครึ่งแรกนาที 39 เซลคุกลากบอลตัดเข้าในก่อนเปิดบอลย้อนไปให้ยิลมาซยิงที่บริเวณหัวกระโหลกแต่ เหินข้ามคาน หมดครึ่งแรกเยอรมนีบุกมานำตุรกี 1-0
ครึ่งหลัง
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังตุรกีตัดสินใจถอดเซลคุกที่เล่นได้อย่างยอด เยี่ยมใน 45 นาทีแรกออกอย่างผิดคาดแล้วส่งทอเร่ลงมาแทนซึ่งฮิดดิ้งก์คงมองไปที่การให้ลูก ทีมเล่นบอลด้านกว้างมากกว่าเดิมนั้นเอง
นาที 55 เกิ๊ทเซ่ออกบอลไปให้โกเมซที่แถวบริเวณหัวกระโหลกก่อนที่หัวหอกจากบาเยิร์นหา พื้นที่ว่างจนได้ยิงไปให้เดมิเรลเซฟบอลเสียเป้นลูกเตะมุม
หลังจากนั้นเยอรมนีส่งชูร์เร่ลงมาแทนโพดอลสกี้แล้วในนาที 64 ก็เกือบเป็นเรื่องเมื่อชูร์เร่ลากบอลจากฝั่งซ้ายตัดเข้าในก่อนแตะหลบโกนุ ลแล้วยิงไปให้เดมิเรลต้องใช้เท้าสกัดบอลเอาไว้
แต่แล้วในนาที 66 เกิ๊ทเซ่ก็ครอสบอลให้มุลเลอร์รับไปกดเต็มข้อด้วยเท้าขวาเข้าเสียบเสาประตูให้เยอรมนีนำห่างเป็น 2-0
นาที 72 เกิ๊ทเซ่ลากบอลขึ้นมาประสานงานกับชูร์เร่ก่อนที่ฝ่ายหลังได้สับไกยิงจากบริเวณหัวกระโหลกแต่ไม่ผ่านการป้องกันของเดมิเรล
อย่างไรก็ตามตุรกีมาได้ประตูต่อชีวิตในนาที 79 เมื่อโกนุลพาบอลลุยขึ้นมาแล้วเปิดไปเสาไกลให้บัลต้าที่ยืนว่างไร้ตัวประกบ วิ่งเข้าวอลเล่ย์ที่กรอบ 6 หลาตุงตาข่ายให้ทีมตามมาเป็น 1-2
ท้ายเกมนาที 86 เยอรมนีมาได้จุดโทษหลังโกนุลไปทำฟาวล์ใส่มุลเลอร์แล้วก็เป็นชไวน์สไตเกอร์ ที่ก้าวเข้ามารับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้"อินทรีเหล็ก"บุกมาชนะตุรกี 3-1 ทำให้แข่ง 9 นัดชนะรวด มีประตูได้เสียบวก 25 ยึดจ่าฝูงด้วยสถิติสวยหรู
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ตุรกี : วอลคาน เดมิเรล, ซาบรี้ ซาริโอกลู, เอเกเมน คอร์กมาซ, เซอร์เว็ต เซติน, ฮาคาน บัลต้า , โกคาน โกนุล , เมห์เหม็ด ออเรลิโอ (อูมุ บูลุต น.86), บูรุค ยิลมาซ, เซลกุค อินาน (ก็อกคาน ทอเร่ น.45), อาร์ด้า ตูรัน (คาซิม ริชาร์ดส์ น.70), ฮามิต อัลตินท็อป
ผู้จัดการทีม : กุส ฮิดดิ้งก์
เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์, เยโรม บัวเต็ง (เบเนดิคห์ โฮเวเดส น.73), แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โฮลเกอร์ บัดสตูเบอร์ , ฟิลิปป์ ลาห์ม, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , ซามี เคดิร่า, โธมัส มุลเลอร์ , มาริโอ เกิ๊ทเซ่ (มาร์โก รอยส์ น.89), ลูคัส โพดอลสกี้ (อังเดร ชูร์เร่ น.62), มาริโอ โกเมซ
ผู้จัดการทีม : โยอาคิม เลิฟ
...................................................................................