เดมพ์ซี่ย์เบิ้ล!USAพลิกหักปีกอินทรีชุดบีสุดมันส์ 4-3
นีคือความหวังของชาติอย่างแท้จริง คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ กองหน้าค่ายสเปอร์สโชว์ความคมกริบยิง 2 เม็ดช่วย "แยงกี้" สหรัฐ หักปากกาเซียนปราบ "อินทรีเหล็ก" เยอรมันชุดไม่ฟูลทีมด้วยสกอร์มโหฬาร 4-3
ผลอุ่นเครื่อง
วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2556
สหรัฐ 4-3เยอรมัน
ประตู: 1-0 โจซี่ อัลติดอร์ น.13,2-0 มาร์ค อังเดร แตร์ สเตเก้น (ทำเข้าประตูตัวเอง) น.16,2-1 ไฮโค เวสเตอร์มันน์ น.51,3-1 คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ น.60,4-1 คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ น.65,4-2 มักซ์ ครูเซ่ น.79,4-3 จูเลี่ยน แดร็กซ์เลอร์ น.81
ครึ่งแรก
แยงกี้ทักทาย!อัลติดอร์ส่องเบิ้ล
เปิดฉาก สหรัฐ ในฐานะเจ้าถิ่นเดินหน้าลุยก่อนแค่นาทีแรกได้ลุ้นก่อน ซูซี่ เปิดจากริมเส้นทางขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษ อัลติดอร์ ง้างเท้ายิงติดบล็อค แมร์เตซาคเกอร์ มาช่วยไว้ได้ทันตามมาด้วย ซูซี่ เปิดฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งขวามายังเสาแรก อัลติดอร์ เทคตัวโหม่งสะบัดผ่านหน้าปากประตู
แมร์เตเกือบแย่งซีนยิงนำ
จากนั้น "อินทรีเหล็ก" ได้บุกบ้างนาที 10 แมร์เตซาคเกอร์ สอดจากแดนหลังอาศัยความแข็งแกร่งเบียดเอาชนะ ดามาร์คุส หลุดเข้าไปยิงล่อเป้าเผาขนบอลถากเสาออกไปน่าเสียดาย
USA ผงาดนำ 1-0!อัลติดอร์วอลเลย์สวย
จนกระทั่งนาที 13 กองเชียร์ในสนามเฮกันลั่นทีมรักขึ้นนำแล้ว 1-0 เดมพ์ซี่ย์ กระชากจากกลางสนามลากจี้ก่อนไหลไปทางริมเส้นทางขวา ซูซี่ บรรจงหยอดเข้าไปในกรอบเขตโทษ อัลติดอร์ ยืนกางมุ้งรอวอลเลย์ด้วยเท้าขวาแบบไม่ต้องจับบอลพุ่งเสียบเพดานตาข่าย
อินทรีเงิบตาม 0-2!สเตเก้นโคตรเหวอ
อีก 3 นาทีถัดมาไม่น่าเชื่อจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับผู้รักษาประตูดีกรีทีมชาติในจังหวะที่ โฮเวเดส ส่งบอลคืนหลัง สเตเก้น นายทวารใจเหม่อลอยจับบอลพลาดปล่อยให้ลูกค่อยๆกลิ้งตุงตาข่าย สหรัฐ ไม่ต้องออกแรงนำห่าง 2-0
ชูร์เรรรรรรรรรรรรรรร
เสียรวดเดียวถึง 2 ประตูติดๆกัน "อินทรีเหล็ก" พยายามรวบรวมสติกกลับคืนมาในนาที 20 จากควาสามารถเฉพาะตัวของ ชูร์เร่ ลากจากริมเส้นฝั่งขวาตัดเข้าในแตะหนีสองแนวรับสหรัฐหลุดเข้าไปยิงล่อเป้าแปเล่นทางบอลเฉี่ยวเสาไกลนิดเดียว
ไข่ไม่แตก!โคลเซ่ยิงตุงไปแล้ว
ขุนพลเมืองเบียร์ยังเดินหน้ากดดันอย่างต่อเนื่องผ่านครึ่งทางครึ่งแรกจังหวะเปิดบอลยาวทะลุมาถึง โคลเซ่ หลุดเดี่ยวดวลตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตูซัดผ่านมือ ฮาเวิร์ด นายทวารเสียบตาข่ายแต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าเสียก่อน จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบครึ่งแรก สหรัฐ สร้างเซอร์ไพรส์นำห่างถึง 2 เม็ด
ครึ่งหลัง
ไข่แตกแล้วจ้า!เวสเตอร์มันน์ซูเปอร์ซับ
กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ "อินทรีเหล็ก" ลุยแหลกแค่ 5 นาทีเท่านั้นทวงคืนไไล่มา 1-2 จากจังหวะ โยนลูกเตะมุมทางขวาไปยังจุดนัดพบเข้าหัว เวสเตอร์มันน์ ตัวสำรองโขกแสกหน้านายทวาร ฮาวเวิร์ด ตุงตาข่าย
บีสลี่ย์เกือบเฮ
พอเสียประตูขุนพลแยงกี้ส์หันมาเปิดเกมบุกอีกครั้งนาที 53 บีสลี่ย์ รับบอลจากริมเส้นทางซ้ายแหวกผ่านสองแนวรับเยอรมันมาได้ถึงสองคนก่อนกดเรียดไม่เต็มเท้าเข้ามือผู้รักษาประตู
แยงกี้หนี 3-1!เดมพ์ซี่ย์จัดให้ครับ
ผ่าน 1 ชั่วโมงดูเหมือนโอกาสที่ "อินทรีเหล็ก" จะกลับมาเสมอมืดมดเต็มทนโดน สหรัฐ ทิ้งห่างเป็น 3-1 เริ่มจากบอลยาวครึ่งสนามโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้าย อัลติดอร์ พักด้วยอกเอาบอลลงได้สวยก่อนหยอดเข้าไปในกรอบเขตโทษบอลตกลงพื้นกระดอนเข้าทางปืน เดมพ์ซี่ย์ วางเท้ายิงด้วยขวาแบบไม่ต้องจับ
อินทรีเละ!เดมพ์ซี่ย์เบิ้ล 4-1
เรียกว่าเป็นวันของ สหรัฐ จริงๆทำอะไรดูดีไปหมดเลยอีก 5 นาทีถัดมาทิ้งห่างเป็น 4-1 จากความสามารถและเทคนิคเฉพาะตัวของ เดมพ์ซีย์ ได้บอลหน้าเขตโทษล็อคหนี โพดอลสกี้ ก่อนปั่นไซด์ด้วยอีซ้ายบอลโค้งแหวกอากาศผ่านมือนายทวารเสียบใต้คานสุดสวย
เอาโว้ย!ครูเซ่ยิงไล่ 2-4
นำห่างถึง 4-1 สหรัฐ เล่นสบายๆปล่อยให้ "อินทรีเหล็ก" ได้บุกจนกระทั่งนาที 79 ไล่มา 2-4 ครูเซ่ ตัวสำรองทำชิ่งหนึ่ง-สองกับ โพดอลสกี้ ส่งคืน ครูเซ่ ลากตัดเข้าในก่อนปั่นไซด์ด้วยขวาบอลผ่านมือนายทวาร ฮาเวิร์ด เบียดเสาแรก
ชักไม่แน่!แดร็กซ์เลอร์บี้ 3-4
จากชัยชนะที่ว่าแน่ๆของ สหรัฐ ไปๆมาๆโดน "อินทรีเหล็ก" บีบกระชั้นชิดเหลือ 3-4 แซม ตั้งป้อมสับไกนอกกรอบเขตโทษระยะ 25 หลาบอลพุ่งแรงจน ฮาเวิร์ด นายทวารปัดออกมา แดร็กซ์เลอร์ ไวทายาทวิ่งตามซ้ำดาบสองจ่อๆไม่เหลือ
อินทรีบุกแหลก
เวลาที่เหลือแข้งเมืองเบียร์เดินหน้าลุยแหลกหวังตามตีเสมอให้ได้จวนไปเจียนมาอยู่หลายครั้งไม่ยิงไปตรงตัวก็โดนกองหลังสหรัฐสกัดไว้ได้ทัน จบเกม สหรัฐ พลิกชนะ เยอรมัน 4-3
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สหรัฐอเมริกา(4-4-1-1): ฮาเวิร์ด-อีแวนส์,กอนซาเลซ,เบสเลอร์,บีสลี่ย์-ซูซี่(เอดดี้ จอห์นสัน น.56),โจนส์,แบร็ดลี่ย์(คาสตีโญ่ น.56),ฟาเบียน จอห์นสัน(เดวิส น.46)-เดมพ์ซี่ย์-อัลติดอร์(บอยด์ น.81)
เยอรมัน(4-2-3-1):สเตเก้น-ยานเซ่น(โอโก้ น.46),โฮเวเดส,แมร์เตซาคเกอร์(โวลล์ชีด น.46),ลาร์ส เบนเดอร์(เวสเตอร์มันน์ น.46)-ไรนาร์ทซ,สเวน เบนเดอร์(ครูเซ่ น.46)-ชูร์เร่(แซม น.65),แดร็กซ์เลอร์,โพดอลสกี้-โคลเซ่(นิโคไล มุลเลอร์ น.79)