ประเดิมทาถู!พี่หนุ่มซัดโทนสิงโตเถือกนอร์เวย์ 1-0
รอย ฮอดจ์สันเริ่มต้นการคุมทีมชาติอังกฤษได้ไม่เลวเลย เมื่อเขาพาลูกทีมบุกไปเอาชนะนอร์เวย์ได้ถึงถิ่นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1966 จากประตูชัยของยังที่ทำได้ตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก คว้าชัยชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 ในเกมอุ่นเครื่องนัดแรกเพื่อเตรียมลุยศึกยูโร 2012
อุ่นเครื่องทีมชาติ
วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม 2555
สนาม : อูเลวัน สเตเดี๊ยม
นอร์เวย์ 0 : 1 อังกฤษ
ประตู : 0-1 ยัง น.9
คลิปไฮไลท์ กระชับมิตรทีมชาติ นอร์เวย์ 0-1 อังกฤษ
ครึ่งแรก
แอบง่าย!พี่หนุ่มล็อกผ่านเข้าไปยิงชิล
เริ่มเกมมาได้แค่นาทีที่ 9 อังกฤษก็ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเลย จากจังหวะสวนกลับที่ยังได้บอล ก่อนจะชะลอจังหวะหาโอกาส แล้วล็อกบอลผ่านฮังเกลันด์ที่พลาดเต็มๆ เพราะทิ้งน้ำหนักตัวไปดักอีกข้าง ทำให้ปีกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทะลุเข้าไปซัดด้วยซ้ายผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปเสียบตาข่าย อังกฤษนำแล้ว 1-0
สิงโตชักจะยังไง
หลังจากได้ประตูขึ้นนำ ไปๆมาๆกลายเป็นว่าอังกฤษต้องลงไปเล่นเกมรับซะอย่างนั้น เพราะโดนนอร์เวย์โหมบุกใส่แบบไม่มีหยุด แถมยังเกือบจะมีลุ้นประตูสุดสวยจากการเตะมุมของพีเดอร์เซ่นที่เปิดซะโค้งจนชนเสาแรก ถ้ากว้างกว่านี้อีกนิดอาจจะมีเสียบเลยก็เป็นได้
สิงโตขึ้นทางซ้ายซะจัด
ผ่านช่วง 20 กว่านาทีแรกไป เห็นได้ชัดเลยว่าอังกฤษมักจะขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายเสียมาก ซึ่งเป็นดาวนิ่งที่ประจำการณ์ในเกมนี้ แถมยังมีลูกครอสสวยๆให้แฟนบอลได้เห็น หากสานต่อฟอร์มแบบนี้ไปเรื่อย น่าจะลบคำสบประมาทได้ไม่มากก็น้อยเลย
มิลเนอร์ได้ทะลุไปยิง
นาทีที่ 33 หลังจากงึกๆงักๆกันไปมา อังกฤษก็มาใช้เกมสวนกลับที่ฮอดจ์สันถนัด แล้วมีโอกาสจากมิลเนอร์ซึ่งทะลุขึ้นไปทางขวา ก่อนที่จะล็อกบอลหนีกองหลังของนอร์เวย์ แล้วฝืนยิงด้วยซ้าย แต่บอลมันเบาไปหน่อย ผู้รักษาประตูเลยเซฟได้แบบไม่มีปัญหาสักเท่าไหร่
หัวขิงเข้าแรงไปนะ
นาทีที่ 37 เหมือนพี่แกจะอารมณ์มาจัดไปหน่อยสำหรับเจอร์ราร์ด เพราะจังหวะที่โฮกลี่กำลังจะเตะบอลขึ้นหน้า แต่โดนกัปตันทีมลิเวอร์พูลพุ่งเข้าเสียบแบบหงายปุ่มเข้าใส่จนลงไปนอนเจ็บปวดร้าว ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเสียงดังยาว ก่อนจะวิ่งเข้ามาเตือน แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร
แต่จากจังหวะนี้ก็ทำให้โฮกลี่ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปเพราะเล่นไม่ไหวและนอร์เวย์ต้องเปลี่ยนเอารุดด์ลงมาเล่นแทน
หัวขิงมีหลุดบ้างเหมือนกัน
นาทีที่ 43 หลังจากโดนแฟนเจ้าถิ่โห่เพราะไปทำนักเตะของนอร์เวย์เจ็บ กลายเป็นว่าเจอร์ราร์ดก็มีแอบเสียสมาธิไปบ้างเหมือนกัน เพราะครองบอลอยู่ดีๆก็ไปแตะยาวจนโดนทีมเจ้าถิ่นสวนกลับ แต่ยังดีที่ช่วยกันได้ไม่เสียหายอะไรมาก
จบครึ่งแรกไปแบบว่าไม่ค่อยได้มีอะไรให้ลุ้นมากมาย น่าจะเปนเพราะการอุ่นเครื่องนัดแรกที่ทั้งสองทีมยังคลิกกันไม่ตัวสักเท่าไหร่ ทำให้อังกฤษนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง
อังกฤษมีการเปลี่ยนตัวเอาแบร์รี่ลงไปเล่นแทนเจอร์ราร์ดในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง
เกมยังตึงๆใส่กันอยู่
ผ่านช่วง 10 นาทีแรกของครึ่งหลังไป ยังไม่มีอะไรให้ได้ลุ้นสักเท่าไหร่สำหรับการลงมาเตะในอีก 45 นาทีที่เหลือของเกมนี้ เพราะอังกฤษเองแม้ว่าจะนำอยู่ แต่จังหวะทำเกมบุกของพวกเขาก็ไม่ได้ดีเด่ไปกว่าเจ้าบ้านสักเท่าไหร่
สิงโตเปลี่ยนเอาธีโอลง
นาทีที่ 56 อังกฤษเปลี่ยนเอาวัลค็อตต์ปีกตัวจี๊ดของอาร์เซนอลที่ผ่านความฟิตลงเล่นในเกมนี้แทนปาร์คเกอร์ซึ่งแม้ว่าจะมีข่าวเรื่องอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ แต่หลังจากลงเล่นไปเต็มๆครึ่งหนึงก็น่าจะทำให้แฟนบอลเมืองผู้ดีอุ่นใจได้เหมือนกัน
ก่ะลักไก่!รีเซ่อัดมันเสาแรกเลย
นาทีที่ 62 อีแบบนี้ก่ะลักไก่เลยทีเดียว สำหรับจังหวะของรีเซ่ที่ทำได้สวยโฮกจากการแตะลอดขาของวัลค็อตต์ที่พุ่งเข้าไปพรวด ก่อนที่จะยึกทำเป็นเหมือนจะเปิดบอล แล้วจัดการซัดแบบเต็มตีนส่งบอลพุ่งดูดเข้าเสียบเสาแรก แต่กรีนก็ยังยอดเยี่ยมที่ยืนตำแหน่งสวยปัดทิ้งออกหลังไปได้
สิงโตเน้นไปทางตั้งรับ
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย เหมือนจะเป็นสูตรของฮอดจ์สันอะไรแบบนั้น เพราะอังกฤษลงเล่นในช่วงครึ่งหลังนี้ค่อนข้างจะหนักไปทางเล่นเกมรับแพ็คเกมให้เน้น ก่อนที่จะหาโอกาสลุยขึ้นหน้าเพื่อหาโอกาสโต้กลับสวนคืน
เปิดซิง!อ๊อกเหล็กเล่นแทนพี่หนุ่ม
นาทีที่ 73 ถือว่าเป็นการประเดิมสนามในทีมชาติอังกฤษครั้งแรกของแชมเบอร์เลนเลย เมื่อเขาถูกส่งลงไปเล่นแทนยังผู้ทำประตูขึ้นนำให้อังกฤษในเกมนี้ พร้อมกับทางเฮนเดอร์สันที่ลงเล่นแทนที่ของแบร์รี่ซึ่งมีอาการบาดเจ็บจนต้องส่งสัญญาณขอเปลี่ยนตัวด้วยตัวเขาเองเลย
เกมไปกันเรื่อยๆจ้า
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ไม่ค่อยมีอะไรให้ได้ลุ้นกันสักเท่าไหร่ในเกมนี้ เพราะดูเหมือนว่าจะเป็นเกมเคาะสนิมจากช่วงปิดฤดูกาล เล่นกันพอประมาณอะไรแบบนั้น เลยไม่ค่อยมีจังหวะใส่หรือลุยกันอย่างเต็มที่ให้แฟนบอลเฮได้ฮากัน
จบ 90 นาทีก็เล่นกันแบบกระชับมิตรจริงๆสำหรับทั้งสองทีม เมื่ออังกฤษเป็นผู้กำชัยจากประตูเดียวที่ทำได้ของยัง ทำให้พวกเขาบุกมาเอาชนะนอร์เวย์ไปด้วยสกอร์ 1-0
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นอร์เวย์ : รูเน่ ยาร์สตีน 6, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ 6.5, เบรเด้ ฮังเกลันด์ 5, ทอม โฮกลี่ 6(รุดด์ 6 น.40), มอร์เท่น กัมส์ป พีเดอร์เซ่น 5.5(กรินด์เฮม 6 น.62), ดาเนียล บราเท่น 5(ฮูเซ็คเล็ปป์ 6 น.74), อเล็กซานเดอร์ เท็ตเตย์ 6(เยนเซ่น - น.90), วาดิม เดมิดอฟ 5.5, มาร์คุส เฮนริคเซ่น 6(เบริคช่า - น.84), ทาริค เอลยูนอสซี่ 5.5, โมฮาเม็ด อับเดลลาอูน 5
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : เอสเพน เพตเตอร์เซ่น, อังเดร แมดเซ่น
อังกฤษ : โรเบิร์ต กรีน 6, โจเลี่ยน เลสค็อตต์ 6, เลจ์ตัน เบนส์ 6, ฟีล โจนส์ 6.5(เคลลี่ - น.88), ฟีล จาเกียลก้า 6.5, สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ 6(วัลค็อตต์ 5.5 น.56), สตีเว่น เจอร์ราร์ด 6(แบร์รี่ 4.5 น.45(เฮนเดอร์สัน 6 น.73), สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง 6(จอห์นสัน - น.85), เจมส์ มิลเนอร์ 6, แอชลี่ย์ ยัง 7(แชมเบอร์เลน 6 น.72), แอนดี้ แคร์โรลล์ 6.5
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : โจ ฮาร์ท, เจอร์เมน เดโฟ