ข่าว 5 เรื่องควรรู้ ! หลังเกม อังกฤษ เอาชนะ ปานามา 6-1 บอลโลก 2022 25 มิ.ย. 2018
ทัพสิงโตทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม สามารถถลุงคู่แข่งหน้าใหม่อย่าง ปานามา ไปได้ 6-1 ขึ้นไปมี 6 คะแนนเท่า เบลเยียม พร้อมกับการันตีการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเรียบร้อย ในขณะที่ ปานามา กับ ตูนิเซีย ต้องน้ำตาตกกันไปโดยยังไม่มีซักคะแนน
ไปดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นบ้างในเกมที่สิงโตยำใหญ่ใส่ ปานามา ขนาดนี้
5. เจ้าพ่อลูกนิ่ง
อาจจะไม่ใช่สไตล์ปั่นลูกโค้งแบบ เดวิด แบ็คแฮม แต่ คีแรน ทริปเปียร์ ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในการเปิดบอลเข้าเขตอันตรายและ 2 ประตูจากการเปิดลูกนิ่งของเขาเป็นประตูให้ทีมได้ด้วย
เกมดังกล่าว อังกฤษ ได้ประตูขึ้นนำจากลูกเตะมุมของ ทริปเปียร์ ที่เปิดเข้าตรงกลางให้ สโตนส์ ได้อย่างแม่นยำ ส่วนลูกที่ 4 ก็มาจากการปั่นฟรีคิกของเขาให้ แฮร์รี เคน ได้โขกตั้งกลับมาจนเป็นประตูในที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น ลูกที่ห้าที่ เคน โดนทำฟาวล์ในเขตโทษก็เกิดจากการระแวงของกองหลังคู่แข่งจนสติหลุดไปพัวพันกับเคนจนล้มลง เมื่อพิจารณาว่า 2 ลูกในเกมกับ ตูนิเซีย ก็ได้ประตูจากเซ็ตพีซทั้งคู๋่ นั่นทำให้ประตูของ อังกฤษ 5 ประตู เกิดมาจากลูกเซ็ตพีซทั้งนั้น
ข้อเสียอย่างเดียวของการเล่นลูกเซ็ตพีซได้ดีก็คือ อังกฤษ ตอนนี้ไม่แน่ใจเลยว่าเล่นลูกปกติได้ดีเพียงไหน อย่าง เคน ในเกมกับ ปานามา ก็ไม่มีโอกาสยิงเองจริง ๆ เลย
หากโดนคู่แข่งจับทางลูกเซ็ตพีซได้ อนาคตของทีมชาติ อังกฤษ ในบอลโลกครั้งนี้ก็น่าเป็นห่วงอยู่ไม่ใช่น้อย
4. ความเด็ดขาดของ เคน
แฮร์รี เคน ยังแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นเพชรฆาตที่เลือดเย็นขนาดไหน เมื่อจัดากรเหมาลูกโทษทั้งสองครั้งไม่พลาด ช่วยให้ทีมถล่ม ปานามา ไป 6-1
ทั้งสองลูก เคน ตัดสินใจยิงเข้ามุมด้านซ้ายบนของประตูเหมือนกัน และยิงอัดตาข่ายขาดเหมือนกัน แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและความนิ่งของเจ้าตัวเป็นอย่างดี
จนถึงตอนนี้ 4 จาก 5 ประตูของ เคน มาจากลูกเซ็ตพีซทั้งหมด และกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของฟุตบอลโลก 2018 ในตอนนี้ไปแล้ว แต่ข้อเสียเดียวก็คือมันยังไม่มีลูกไหนมาจากการยิงในช่วงเวลาปกติเลย (อีกลูกมาจาการแฉลบอย่างไม่ได้ตั้งใจ) ซึ่ง เคน จะใช้ชื่อว่าเป็นกองหน้าที่อันตรายที่สุดคนนึงในบอลโลก ก็คงต้องพิสูจน์ตัวเองตรงนี้ให้ได้ก่อน แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น เหล่ากองหลังจะประมาท แฮร์รี เคน ไม่ได้เด็ดขาด
3. สเตอร์ลิง ยังไม่มา
จากฟอร์มในนัดที่แล้วและภาพหลุดแผนการเล่นของ เซาธ์เกต ทำให้มีการเดาไปต่าง ๆ นานาว่า ราฮีม สเตอร์ลิง จะไม่ได้ลงในเกมนี้ ซึ่งทุกคนคิดผิด
ราฮีม ยังคงได้ลงในตำแหน่งกองหน้าตัวต่ำต่อไป ได้โอกาสก่อน แรชฟอร์ด, วาร์ดี้ หรือ เวลเบ็ค อย่างไรก็ตาม ปีกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังเปิดตัวไม่ได้เสียที แม้จะมีโอกาสได้โขกจ่อ ๆ ในครึ่งแรกก็ยังติดเซฟของ เปเนโด ครึ่งหลังมีโอกาสโฉบบอลหลุดเดี่ยว เปเนโด ก็ยังออกมาสกัดได้ เรียกได้ว่าสกัดดาวรุ่งกันแบบสุด ๆ
เกมหน้าจะเป็นของจริงที่ อังกฤษ จะต้องรับมือเป็นครั้งแรกในฟุตบอลโลก 2018 และจากฟอร์ม 2 นัดที่ผ่านมา นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของ สเตอร์ลิง ในการแจ้งเกิดกับฟุตบอลโลกปีนี้เสียทีก่อนที่จะถูกถอดออกไปและให้โอกาสคนอื่นบ้าง
2. ปานามา มาเพื่อข่มขวัญ
อย่างที่เคยบอกไว้แล้วในเกมแรกกับ เบลเยียม ปานามา เพิ่งจะมาฟุตบอลโลกได้เป็นครั้แรก และมาในสถานะที่เป็นรองสุด ๆ รองยิ่งกว่า ซาอุดิ อาระเบีย หรือ รัสเซีย ที่มีอันดับฟีฟ่าต่ำกว่าเสียอีก เพราะฉะนั้นแค่ได้ลงเล่นก็ถือว่าน่าประทับใจแล้ว
แต่การมาเล่นแล้วแพ้ไปยับเยินอย่างเดียวมันก็ไม่ได้อะไรน่ะสิ เพราะฉะนั้นทำไมไม่ใส่ให้เต็มที่ไปข้างนึงเลยล่ะ ผลคือทั้งนักเตะเบลเยียมและนักเตะอังกฤษโดนเล่นงานจนสะบักสะบอมไปหมด
ปานามา โดนใบเหลืองไป 5 ใบในเกมแรกพร้อมกับการส่งคู่แข่งลงไปนอนที่พื้นได้หลายครั้ง ส่วนในเกมกับ อังกฤษ พวกเขาได้มาแค่ 3 ใบ แต่กลับข่มขวัญนักเตะ อังกฤษ ได้มากกว่านั้น ทั้งแถมศอกใส่ ลินการ์ด ตั้งแต่เพิ่งเริ่มเกมบ้างล่ะ ตบเข้าไปที่สันคอ แฮร์รี เคน บ้างล่ะ
ตูนิเซีย คงต้องไปยืมเสื้อเกราะอเมริกันฟุตบอลมาแล้วล่ะมั้งถึงจะเอา ปานามา อยู่
1. จุดอ่อนอยู่ที่ด้านซ้าย
ปานามา ทำเกมบุกได้น่ากลัวช่วงต้นครึ่งแรก จากนั้นมีอีกประปรายในครึ่งหลัง แต่จุดที่ทำให้พวกเขาบุกขึ้นมาลุ้นเสียวได้ล้วยอยู่ที่ฝั่งซ้ายทั้งหมด
บาร์เซนาส ได้โอกาสลองส่องจากเส้นเขตโทษฝั่งซ้าย ซแม้บอลอาจจะไม่ตรงกรอบ แต่ พิคฟอร์ด ก็ต้องพุ่งกันสุดตัวทีเดียว จากนั้นโอกาสของ มูรีโญ ก็เกือบจะทำให้ทีมได้ประตูเหมือนกัน แต่ดูเหมือนเขาจะคิดอะไรต่อไม่ออกเลยลุยใส่ พิคฟอร์ด ไปเลยดื้อ ๆ แบบนั้น
แอชลีย์ ยัง คือต้นตอของปัญหา การขึ้นเกมบุกของเขานั้นทำได้ดี แตกลับไม่สามารถลงมาช่วยเกมรับได้อย่างที่ควรเป็น ลองคิดดูว่าถ้าไม่ใช่ เอ็ดการื บาร์เซนาส แต่เป็น ดรีส์ เมอร์เทนส์ เรื่องราวคงจะต่างกว่านี้ไปเยอะ และ เซาธ์เกต ต้องรีบลงมือแก้ไขโดยด่วน หากไม่อยากเสี่ยงคว้าที่ 2 ของกลุ่มในเกมสุดท้าย
ตารางคะแนน
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ลิเวอร์พูล | 11 | 28 |
2 | แมนเชสเตอร์ | 11 | 23 |
3 | เชลซี | 11 | 19 |
4 | อาร์เซนอล | 11 | 19 |
5 | น็อตติ้งแฮม | 11 | 19 |
6 | ไบรท์ตัน | 11 | 19 |
7 | ฟูแล่ม | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | แบงค็อก ยูไน | 13 | 30 |
2 | บุรีรัมย์ ยู | 10 | 24 |
3 | การท่าเรือ เ | 12 | 22 |
4 | บีจี ปทุม ยู� | 12 | 22 |
5 | พีที ประจวบ � | 13 | 22 |
6 | สุโขทัย เอฟซ | 13 | 20 |
7 | อุทัยธานี เอ | 13 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาเยิร์น มิว | 10 | 26 |
2 | RB ไลป์ซิก | 10 | 21 |
3 | ไอน์ทรัค แฟร | 10 | 20 |
4 | เลเวอร์คูเซ� | 10 | 17 |
5 | ไฟร์บวร์ก | 10 | 17 |
6 | ยูเนี่ยน เบอ | 10 | 16 |
7 | ดอร์ทมุนด์ | 10 | 16 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | นาโปลี | 12 | 26 |
2 | อตาลันต้า | 12 | 25 |
3 | ฟิออเรนติน่� | 12 | 25 |
4 | อินเตอร์ มิล | 12 | 25 |
5 | ลาซิโอ | 12 | 25 |
6 | ยูเวนตุส | 12 | 24 |
7 | เอซี มิลาน | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาร์เซโลน่า | 13 | 33 |
2 | เรอัล มาดริด | 12 | 27 |
3 | แอตเลติโก มา | 13 | 26 |
4 | บียาร์เรอัล | 12 | 24 |
5 | โอซาซูน่า | 13 | 21 |
6 | แอธเลติก บิล | 13 | 20 |
7 | เรอัล เบติส | 13 | 20 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ปารีส แซงต์ � | 11 | 29 |
2 | โมนาโก | 11 | 23 |
3 | โอลิมปิก มาร | 11 | 20 |
4 | ลีลล์ | 11 | 19 |
5 | โอลิมปิก ลีย | 11 | 18 |
6 | นีซ | 11 | 17 |
7 | แร็งส์ | 11 | 17 |
ดูทั้งหมด |