ข่าว 8 เรื่องควรรู้ ! หลังเกม โปรตุเกส เสมอ อิหร่าน 1-1 บอลโลก 2022 26 มิ.ย. 2018
8. โปรตุเกส พาตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากในรอบต่อไป
ก่อนเกมจะจบลงไม่กี่อึดใจ โปรตุเกส มีสกอร์นำ อิหร่านอยู่ 1-0 ขณะที่ผลอีกคู่ สเปน ตามหลัง โมร็อกโก อยู่ 1-2
แม้เกมจะจบลงด้วยผลเสมอของ กระทิงดุ ในท้ายที่สุดทว่าชัยชนะของทัพ ฝอยทอง ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาจบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม
แต่เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดและเกมจบลงด้วยผลเสมอทำให้พวกเขาเข้าป้ายเป็นอันดับที่สอง ไปเจอกับ อุรุกวัย ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ต่อด้วย ฝรั่งเศส หรือ อาร์เจนตินา/ ไนจีเรีย ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนที่น่าจะไปวัดกับ บราซิล ในรอบ 4 ทีมสุดท้าย
ขณะที่ สเปน จะได้วัดกับ รัสเซีย ในรอบต่อไป ต่อด้วย โครเอเชีย หรือ เบลเยียม/ อังกฤษ และน่าจะปิดท้ายด้วย เยอรมนี
แม้อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ในฟุตบอลรอบน็อคเอาท์ ทว่าการเจอกับทีมที่ไม่ค่อยได้ผ่านเข้ารอบลึกๆ ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่บ่อยครั้งนักอย่าง โครเอเชีย, อังกฤษ หรือ เบลเยียม จะทำให้พวกเขามีภาษีดีกว่าอย่างน้อยเมื่อวัดกันที่ประสบการณ์และความนิ่ง
7. อาวุธลับของ สเปน
ดาวยิงจาก เซลตา บีโก้ ทำสถิติมีส่วนเกี่ยวข้องกับประตูของ สเปน ไปแล้วทั้งสิ้น 9 ลูกจากการลงสนาม 11 นัดโดยแบ่งเป็น 5 ประตูและ 4 แอสซิสต์ตามด้วยการเป็นฮีโร่ลงมาเป็นซูเปอร์ซับไขว้ยิงตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บให้กับทีมเพิ่มสถิติการยิงประตูเป็น 6 ประตูใน 12 เกม
และไม่น่าเชื่อว่าประตูทั้งหมดของเขาที่ยิงได้ทั้ง 6 ลูกจะเกิดขึ้นในครึ่งหลัง! ซูเปอร์ซับตัวจริง
6. ความมุ่งมั่นที่มีมากเกินไปของ โรนัลโด้
สตาร์ระดับท็อปของโลกออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมแรกกับ สเปน เมื่อซัดแฮตทริคพาทีมแบ่งแต่มกับ กระทิงดุ ทว่าแมตช์ที่สองของเขากับ โมร็อกโก เรียกได้ว่า โรนัลโด้ แทบจะหายไปจากเกม จะมีก็แต่จังหวะที่ยิงประตูได้เท่านั้น และมาถึงเกมที่ 3 ที่กลายเป็นแมตช์ที่น่าผิดหวังที่สุดของเขาจนถึงตอนนี้
สกอร์ที่นำอยู่เพียงลูกเดียวตอนที่ โปรตุเกส ได้จุดโทษเป็นอีกแรงกดดัน แต่มันคงไม่มากเท่าความต้องการที่จะสังหารประตูเพื่อเพิ่มสถิติส่วนตัวของเขาใน ฟุตบอลโลก ครั้งนี้ มันกลายเป็นจุดโทษที่รีบเร่ง บวกกับความอยากได้ประตูให้ได้เร็วที่สุดส่งผลให้ดาวเตะจาก เรอัล มาดริด ซัดเต็มแรงไปถูก อลิเรซา บีรานวันด์ พุ่งเซฟไว้ได้
สถานการณ์ของเขายิ่งเลวร้ายมากขึ้นไปอีกเมื่อไปสับศอกใส่ผู้เล่นของ อิหร่าน อย่างน่าเกลียด สุ่มเสี่ยงที่จะถูกไล่ออก แต่โชคดีมากที่เขาไม่โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม
5. เปเป้ ยังไว้ลาย
กลายเป็นปราการหลังเสริมเหล็กให้กับ ทัพฝอยทอง เมื่อพวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์เป็นฝ่ายตั้งรับจังหวะสวนกลับอยู่บ่อยครั้ง แต่ด้วยความเด็ดขาดที่มีไม่มาพอของ อิหร่าน บวกกับการยืนถูกที่ถูกเวลาของ เปเป้ ก็ทำให้พวกเขารอดพ้นจากการเสียประตูไปได้หลายครั้ง
เปเป้ มีจังหวะที่เข้าสกัดลูกเกือบจะเป็นอันตรายของตัวแทนจาก เอเชีย ได้หลายต่อหลายหนอย่างที่เรียกได้ว่าพวกเขาแทบหมดปัญญาที่จะเอาชนะเซ็นเตอร์แบ็ค โปรตุเกส รายนี้กระทั่งได้ลูกจุดโทษในช่วงท้ายเกม
4. สมาธิที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยของคู่ปราการหลัง สเปน
ไม่น่าเชื่อว่าสองเซ็นเตอร์แบ็คระดับโลกของ กระทิงดุ จะแสดงความผิดพลาดให้เห็นในเกมระดับนี้กับคู่แข่งอย่าง โมร็อกโก
เซร์คิโอ รามอส มีส่วนสำคัญกับการเสียประตูทั้งสองลูกตั้งแต่จังหวะกั๊กกับ อันเดรส อิเนียสต้า จนโดนฉกบอลจากกลางสนามเข้าไปยิงประตู ขณะที่ลูกที่สองก็เป็นเขาเองที่ประกบ ยุสเซฟ เอ็น-เนส์ยรี ไม่อยู่จนโดนชิงโหม่งตุงตาข่าย
ส่วน เคราร์ด ปิเก้ ก็เกือบจะทำตัวเองโดนไล่ออกตั้งแต่ครึ่งแรกเมื่อไปกระโดดสไลด์สองเท้าเปิดปุ่มใส่ผู้เล่นของ โมร็อกโก อย่างน่าหวาดเสียว ก่อนที่จะไปทำแฮนด์บอลที่หน้ากรอบเขตโทษของตัวเองในครึ่งหลัง ดีที่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร
เป็นที่น่าติดตามว่าเมื่อเข้าสู่รอบน็อคเอาท์แล้วปราการหลังคู่นี้จะมีสมาธิกับเกมได้มากกว่านี้หรือไม่เพราะพวกเขามีสิทธิ์เป็นตัวแปรสำคัญของทีมในรอบต่อๆ ไปทีเดียวหากยังเล่นได้แค่ระดับนี้
3. หัวจิตหัวใจที่ต้องคารวะของพลพรรคแข้ง อิหร่าน
อิหร่าน ถูกมองว่าเป็นไม้ประดับในกลุ่มนี้เมื่อถูกจับมาอยู่ร่วมสายกับทั้ง สเปน และ โปรตุเกส แม้พวกเขาจะสามารถประเดิมสนามล้ม โมร็อกโก ลงได้แต่ก็ต้องมาปราชัยในนัดที่สองต่อ สเปน และปิดท้ายด้วยการเสมอกับ โปรตุเกส
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองเกมดังกล่าวกับทีมระดับท็อปของโลกพวกเขาสามารถสู้อย่างได้ลุ้น ไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรีของผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ที่ค้าแข้งอยู่ในบรรดาลีกใหญ่ของ ยุโรป เลยแม้แต่น้อย
เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาดวลกับ โปรตุเกส ที่มีสตาร์อยู่เต็มทีม ขณะที่ อิหร่าน ไม่ได้มีแข้งระดับโลกเหมือนกับทัพ ฝอยทอง แต่พวกเขาก็ได้รวมใจกันสู้อย่างเต็มที่จะโชคร้ายก็แค่พวกเขาไม่ได้มีตัวจบสกอร์แบบโป้งเดียวจอดเท่านั้น
ตัวแทนจากเอเชีย ทำประตูตีเสมอจากลูกจุดโทษได้ในช่วงท้ายเกมและเกือบจะพลิกกลับมาเอาชนะได้สำเร็จหากลูกยิงโอกาสสุดท้ายไม่หลุดกรอบออกไป แม้พวกเขาจะพ่ายแพ้ตกรอบไปใน ฟุตบอลโลก ครั้งนี้แต่ อิหร่าน ก็สามารถเอาชนะใจของแฟนบอลทั่วโลกได้สำเร็จ
2. VAR ไม่ช่วยอะไรหากผู้ตัดสินคุณภาพห่วยแตก
VAR ถูกใช้เป็นเครื่องมือที่ทำให้เกมดำเนินไปอย่างเที่ยงธรรมและเที่ยงตรง แต่มันไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เลยหากผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่กลางสนามตัดสินใจผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เอ็นริโก คาเซเรซ เชิ้ตดำที่ทำหน้าที่ในเกมนี้เคยถูกก่นด่าจากฝั่ง อียิปต์ ที่เขาลงเป่ามาก่อนหน้านี้แล้วถึงกระทั่งเขียนรายงานถึง ฟีฟ่า และในแมตช์นี้เราก็ได้เห็นว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร
คาเซเรซ ให้ลูกจุดโทษแก่ คริสเตียโน โรนัลโด้ เมื่อล้มในกรอบเขตโทษที่ดูจะเป็นการเรียกจุดโทษที่ง่ายไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับมาตรฐานจุดโทษอื่นๆ ใน ฟุตบอลโลก ครั้งนี้ ตามด้วยการไม่ลงโทษใดๆ แก่สตาร์ โปรตุเกส เมื่อเขาไปสับศอกใส่ผู้เล่น อิหร่าน ในจังหวะต่อมา และปิดท้ายด้วยการให้จุดโทษแก่ตัวแทนจากเอเชียในจังหวะที่ชัดเจนว่าเป็นการทำแฮนด์บอลโดยไม่เจตนา
เรียกได้ว่าท็อปฟอร์มจริงๆ สำหรับเกมนัดนี้ของ คาเซเรซ
1. มหัศจรรย์ กวาเรสมา
สวยงาม หยดย้อย และยากที่จะสรรหาคำใดๆ มาอธิบายประตูของ ริคาร์โด้ กวาเรสมา ในเกมนี้นอกจากจะเห็นด้วยตาของตัวเอง
ระหว่างที่ โปรตุเกส ได้ต่อบอลบุกเข้าใส่อย่างเชื่องช้าและดูจะหมดไอเดียในการเข้าทำ ดูเหมือนว่าพวกเขาเล่นเพื่อประวิงเวลาในการเข้าสู่ห้องแต่งตัวในช่วงพักครึ่ง แต่จู่ๆ กวาเรสมา ก็ได้บอลที่กราบขวา ทำชิ่งหนึ่งสองกับ เอเดรียน ซิลวา ก่อนจะดีดไซด์ก้อยที่หน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งโค้งไปจบลงที่ก้นตาข่ายเป็นประตูขึ้นนำของ โปรตุเกส
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งลูกยิงส่งประกวดประตูยอดเยี่ยมแห่งทัวร์นาเมนต์ทีเดียว
ตารางคะแนน
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ลิเวอร์พูล | 11 | 28 |
2 | แมนเชสเตอร์ | 11 | 23 |
3 | เชลซี | 11 | 19 |
4 | อาร์เซนอล | 11 | 19 |
5 | น็อตติ้งแฮม | 11 | 19 |
6 | ไบรท์ตัน | 11 | 19 |
7 | ฟูแล่ม | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | แบงค็อก ยูไน | 13 | 30 |
2 | บุรีรัมย์ ยู | 10 | 24 |
3 | การท่าเรือ เ | 12 | 22 |
4 | บีจี ปทุม ยู� | 12 | 22 |
5 | พีที ประจวบ � | 13 | 22 |
6 | สุโขทัย เอฟซ | 13 | 20 |
7 | อุทัยธานี เอ | 13 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาเยิร์น มิว | 10 | 26 |
2 | RB ไลป์ซิก | 10 | 21 |
3 | ไอน์ทรัค แฟร | 10 | 20 |
4 | เลเวอร์คูเซ� | 10 | 17 |
5 | ไฟร์บวร์ก | 10 | 17 |
6 | ยูเนี่ยน เบอ | 10 | 16 |
7 | ดอร์ทมุนด์ | 10 | 16 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | นาโปลี | 12 | 26 |
2 | อตาลันต้า | 12 | 25 |
3 | ฟิออเรนติน่� | 12 | 25 |
4 | อินเตอร์ มิล | 12 | 25 |
5 | ลาซิโอ | 12 | 25 |
6 | ยูเวนตุส | 12 | 24 |
7 | เอซี มิลาน | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาร์เซโลน่า | 13 | 33 |
2 | เรอัล มาดริด | 12 | 27 |
3 | แอตเลติโก มา | 13 | 26 |
4 | บียาร์เรอัล | 12 | 24 |
5 | โอซาซูน่า | 13 | 21 |
6 | แอธเลติก บิล | 13 | 20 |
7 | เรอัล เบติส | 13 | 20 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ปารีส แซงต์ � | 11 | 29 |
2 | โมนาโก | 11 | 23 |
3 | โอลิมปิก มาร | 11 | 20 |
4 | ลีลล์ | 11 | 19 |
5 | โอลิมปิก ลีย | 11 | 18 |
6 | นีซ | 11 | 17 |
7 | แร็งส์ | 11 | 17 |
ดูทั้งหมด |