ข่าว 5 เรื่องควรรู้ ! หลังเกม อาร์เจนติน่า เอาชนะ ไนจีเรีย 2-1 บอลโลก 2022 27 มิ.ย. 2018

ในที่สุด ลิโอเนล เมสซี ก็ทำประตูในฟุตบอลโลกปีนี้ได้สำเร็จ กลายเป็นนักเตะอาร์เจนไตน์คนที่ 3 ต่อจาก บาติสตูต้า และ มาราโดนา ที่ทำประตูได้ในบอลโลก 3 ครั้ง แต่สิ่งที่น่าพูดถึงมากกว่าสถิติก็คือจังหวะการทำประตูของเขา 

ในนาทีที่ 14 เมสซี เจอช่องวิ่งเข้าเขตโทษก่อนส่งซิกให้ บาเนก้า หยอดบอลข้ามแผงแนวรับ ไนจีเรีย มิดฟิลด์จาก เซบีญา โยนบอลได้อย่างแม่นยำ และ เมสซี ก็ไม่ทำเสียของ เขาพักบอลด้วยหน้าขาอย่างนิ่มนวล แตะด้วยซ้ายเพื่อสปีดหนี โอเมรูโอ ก่อนจบด้วยขวาทีเดียวผ่านมือ อูโซโฮ เข้าไป การสัมผัสบอลทั้งสามครั้งของ เมสซี คือสิ่งที่ควรบรรจุในหลักสูตรของโรงเรียนฟุตบอลทุกโรงเรียนเลยทีเดียว

นี่แหละคือสิ่งที่ อาร์เจนตินา รอมานาน ไม่เชื่อดูสีหน้าของ มาราโดนา ได้

นับตั้งแต่การแพ้อย่างน่าผิดหวังกับ โครเอเชีย สองเกมต่อมาของ ไนจีเรีย นั้นทำได้อย่างน่าชื่นชมทั้งสิ้น และการที่พวกเขาต้องตกรอบนั้นก็ถือว่าค่อนข้างโชคร้ายทีเดียว

ไนจีเรีย สู้ในเกมนี้กับ อาร์เจนตินา ได้อย่างสมศักดิ์ศรี อาจจะไม่สูสี แต่พวกเขาสมควรจะแบ่งแต้มและได้เข้ารอบตาม โครเอเชีย ไป พวเขาสร้างโอกาสหลายต่อหลายครั้งแต่ก็เจาะประตูเพิ่มไม่ได้ และในขณะที่เกมกำลังจบด้วยผลเสมอ อาร์เจนตินา ก็มาได้ประตูชัย

ประตูชัยในนาทีที่ 86 ของ อาร์เจนตินา มาจากการบุกทางกราบขวาก่อนครอสบอลเข้ากลาง มาร์กอส โรโฮ ที่นาน ๆ จะโชว์ฟอร์มดีซักที เติมขึ้นสูงทางกราบซ้ายก่อนวิ่งตัดเข้าใน วิ่งเข้าแปบอลเสียบเสาอย่างสวยงาม กู้ชีพ อาร์เจนตินา ไว้ได้สำเร็จ

ในปี 1998 โครเอเชีย ที่เพิ่งเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก ก็สามารคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลกได้ทันทีด้วยการเอาชนะทีมอย่าง เยอรมนี ในรอบควอร์เตอร์ไฟนอล และ ชนะ เนเธอร์แลนด์ ในรอบชิงที่ 3

20 ปีต่อมา พวกเขาถล่ม อาร์เจนตินา รองแชมป์เก่าขาดลอย 3-0 จบจ่าฝูงกลุ่มเข้าไปเจอกับ เดนมาร์ค ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจหาก โครเอเชีย จะผ่านทัพโคนมได้อย่างไม่ยากเย็น

ในรอบ 8 ทีม คู่แข่งที่พวกเขาอาจได้เจอคือ สเปน หรือ รัสเซีย ซึ่งรายแรกแม้จะมีสตาร์เต็มทีม แต่ฟอร์มในรอบแบ่งกลุ่มนั้นไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ โดยเฉพาะในเกมสุดท้ายที่เสมอ โมร็อกโก 2-2 และการชนะ อิหร่าน แค่ลูกเดียวด้วยการทำประตูแบบไม่ตั้งใจของ คอสต้า ส่วนรายหลังยิ่งไม่ต้องพูดถึง ได้เปรียบแค่การเป็นเจ้าภาพเท่านั้น

ประเมินคร่าว ๆ แล้ว ตอนนี้ โครเอเชีย มีสิทธิ์ไปได้ไกลถึงรอบเซมิไฟนอลเลยทีเดียว และดูจากฟอร์มของเหล่าทีมใหญ่ ๆ ในรอบแบ่งกลุ่ม นั่นแปลว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะไปได้ไกลกว่าอันดับ 3 ในปี 98 อีกก็เป็นได้

ปฏิกิริยาของ ดิเอโก้ มาราโดนา แทนความรู้สึกของแฟนบอล อาร์เจนตินา ทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

ก่อนเกมเริ่ม อดีตแข้งตำนานผู้พา อาร์เจนตินา เป็นแชมป์โลก ออกมาแสดงความไม่พอใจที่ทางสมาคมฟุตบอลอาร์เจนไตน์ดูไม่เดือดร้อนอะไรเลยจากการที่พวกเขาเสี่ยงต่อการตกรอบแบ่งกลุ่ม และในเกมกับ ไนจีเรีย พี่แกก็ดูจะเสพวิญญาณแฟนบอลแบบเต็มขั้นไว้ก่อนหน้าเกมจะเริ่ม พร้อมรอปลดปล่อยเมื่อถึงเวลาฉลอง

และทันที่ที่ เมสซี ยิงประตูขึ้นนำได้ เฮียแกก็แสดงท่าทางดีใจให้แฟนบอลทั่วโลกได้ชมกัน เป็นแบบที่ค่อนข้างแปลก ๆ หน่อยแต่เข้าใจได้

และพอทีมได้ประตูนำ 2-1 ในช่วงท้ายเกม ดิเอโก้ จัดการระดมส่งนิ้วกลางจากทั้ง 2 มือลงไปสนาม ราวจะบอกว่าภาระทุกอย่างบนบ่าของแฟนบอลอย่างเขานั้นหมดสิ้นลงแล้ว 

มันเป็นความรู้สึกและการกระทำที่บ้าบอ และหากไปทำแบบนี้ในที่สาธารณะตามเวลาปกติ คุณคงถูกจับไปแล้ว แต่เมื่อเป็นเวลาฉลองในเกมฟุตบอล ถ้าคุณดูฟุตบอล คุณจะเข้าใจความรู้สึกของ มาราโดนา อย่างไม่ต้องสงสัย

หากทีมชาติไทยยิงประตูในนาทีสุดท้ายแล้วเข้าไปเตะบอลโลกรอบสุดท้ายได้ ผมเองก็คงทำอะไรแบบนี้ให้มันสุดเหวี่ยงเหมือนกัน

ไนจีเรีย กับ ไอซ์แลนด์ เป็น 2 ทีมล่าสุดที่ต้องตกรอบ แต่จิตวิญญาณนักสู้ของพวกเขาจะไม่ถูกลืมง่าย ๆ อย่างแน่นอน

ไนจีเรีย พลิกสถานการณ์จากเต็งตกรอบมาเป็นเต็งเข้ารอบได้ด้วยการถลุง ไอซ์แลนด์ ยับ 2-0 และในเกมนี้พวกเขากทำผลงานได้น่าชื่นชมอีกครั้ง ตั้งรับเกมรุกของ อาร์เจนตินา อย่างเหนี่ยวแน่นและเกือบจะแบ่งแต้มอยู่แล้วแท้ ๆ ก่อนจะโดน โรโฮ ปล้นคะแนนสำคัญไปในนาทีที่ 86

ด้าน ไอซ์แลนด์ ที่ในเกมนี้พวกเขาหลังพิงฝา ต้องการ 3 คะแนนเท่านั้นจึงจะเข้ารอบ พวกเขเองก็ทำได้ดีในการกดดันใส่ โครเอเชีย และมีโอกาสจบสกอร์มากถึง 17 ครั้งแต่ก็พลาดไป ท้ายที่สุดพวกเขาพ่าย 1-2  เกมได้แค่ 1 คะแนนเท่านั้นในปีแรกของพวกเขา แต่เป็น 1 คะแนนที่ไม่มีใครลืมการแบ่งแต้มกับ อาร์เจนตินา อย่างแน่นอน

เมื่อลองย้อนดูทีมอื่น ๆ ที่ตกรอบไปแล้ว เกือบทั้งหมดเป็นทีมที่ต่อสู้ได้อย่างน่าชื่นชม และทิ้งความรู้สึกเอาไว้ให้เหล่าผู้ที่เข้ารอบไปแล้วไม่มากก็น้อย เปรู และ เปาโล เกร์เรโร ทิ้งทวนนัดสุดท้ายด้วยการเอาชนะ ออสเตรเลีย 2-0 อิหร่าน เกือบจะพลิกเข้ารอบสำเร็จในเกมเสมอกับ โปรตุเกส โมร็อกโก เกือบทำ สเปน ตกรอบแบบพลิกความคาดหมาย ซาอุดิ อาระเบีย คว้าชัยชนะนัดแรกในรอบ 24 ปี หรือ ปานามา ที่สู้กับ เบลเยียม และ อังกฤษ อย่างไม่เกรงกลัว พร้อมฝากอย่างน้อย 1 ประตูไว้ในฟุตบอลโลกหนนี้  

ยังเหลืออีก 4 กลุ่มที่เหลือ และทีมอย่าง เกาหลีใต้, เซอร์เบีย หรือ ญี่ปุ่น อาจสร้างบาดแผลให้กับเหล่าทีมใหญ่อีกก็ได้ และแม้จะไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยความใจสู้ของพวกเขาก็จะเป็นที่จดจำอยู่ในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกอย่างแน่นนอน