ข่าว 5 เรื่องควรรู้ ! หลังเกม ฝรั่งเศส เอาชนะ อุรุกวัย 2-0 บอลโลก 2022 07 ก.ค 2018
ประตูขอ วาราน และ กรีซมันน์ ทำให้ ฝรั่งเศส กรุยทางเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เป็นครั้งที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของพวกเขา และมีโอกาสอีกครั้งที่จะย้อนรอยฟุตบอลโลก 1998 ที่พวกเขาเป็นแชมป์ได้ ในขณะที่ อุรุกวัย ต้องอกหักจากรอบเซมิไฟนอลเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน หลังเคยไปคว้าอันดับ 4 เมื่อ 12 ปีที่แล้วบนแผ่นดินเยอรมนี
ไปดูกันว่าในเกมดังกล่าวมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นบ้าง
5. เกมรับดีไปก็เท่านั้น หากไม่มีเขี้ยวเล็บไว้ยิงประตูคืน
อุรุกวัย เล่นเกมตามแท็คติดได้ดีเยี่ยมมาตั้งแต่เกมแรกในรอบแบ่งกลุ่มแล้ว ซึ่งทั้งเกมกับ อียิปต์ และ ซาอุดิ อาระเบีย ล้วนสะท้อนสิ่งที่เหมือนกันออกมา นั่นก็คือความเฉื่อยชาในเกมรุกของพวกเขา
ประตูชัยของทั้ง 2 เกมมาจากลูกตั้งเตะทั้งหมด ในเกมแรกกับ อียิปต์ ฆิเมเนซ ขึ้นมาโหม่งประตูในนาทีสุดท้ายที่แนวรับ อียิปต์ เริ่มหลุดสมาธิ ส่วนเกมที่สองกับ ซาอุฯ ก็มาจากความผิดพลาดของนายประตู ไม่อย่างนั้น ซัวเรซ คงยังยิงประตูแรกในเกมนั้นไม่ได้
พวกเขามาแก้ตัวได้ดีขึ้นใน 2 เกมหลังสุดก็จริง แต่มันไม่ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการล่าตาข่ายเลย พวกเขาขึ้นบอลช้า เล่นอย่างใจเย็น (แน่นอน เพราะพวกเขาไม่เคยโดนขึ้นนำ) และสุดท้ายก้พร้อมที่จะโยนโอกาสทิ้งแล้วรีบกลับไปตั้งเกมรับมากกว่า ซึ่งมันก็ใช้ได้เฉพาะเวลาทีมขึ้นนำเท่านั้น พอพวกเขาถูกนำบ้างในเกมนี้ พวกเขาก็แทบจะหาโอกาสดี ๆ เจาะประตูฝรั่งเศส ไม่ได้เลย
อุรุกวัย ไม่มีโอกาสยิงฝรั่งเศส เป็นเวลาเกือบ 25 นาทีหลังถูกนำ 0-2 ซึ่งถ้าเป็นเกมระหว่างคู่แข่งที่มีขนาดทีมต่างกันมากก็อาจเป็นไปได้ แต่เมื่อพิจารณาจากรูปเกมแล้ว อุรุกวัย มีโอกาสบุกเหมือนกัน แต่การต่อบอลสุดท้ายเข้าเขตโทษต่างหากที่เป็นปัญหา แม้แต่การยืนของ ซัวเรซ ก็ไม่ได้ช่วยให้เพื่อนร่วมทีมเล่นกันง่ายขึ้นเท่าไหร่
เมื่อพิจารณาว่าโอกาสใกล้เคียงที่สุดที่จะเป็นประตูก็มาจากลูกตั้งเตะแล้ว ยิ่งทำให้เห็นว่าเกมรุกของ อุรุกวัย กู่ไม่กลับแล้วจริง ๆ
4. ผลของการไม่มี คาวานี
ต่อเนื่องกับเกมรุกของ อุรุกวัย การเล่นเกมรุกช้าและดูไม่เต็มใจเป็นเหมือนสันดานลึก ๆ ที่แก้ไม่หาย แต่ การปรับจูนระหว่าง คาวานี และ ซัวเรซ ก็ช่วยบรรเทาอาการได้บ้างอย่างในเกมหลังสุดที่เอาชนะ โปรตุเกส 2-1 และในขณะที่ชาวอุรุกวัยกำลังจะได้ฝันเห็นถ้วยแชมป์โลกสมัยที่ 3 คาวานี ก็ดันมาเจ็บซะอย่างนั้น
ออสการ์ ตาบาเรซ โค้ชของทีมมีตัวเลือกไม่มากนักในการหาอะไหล่มาแทนที่ และเขาก็ตัดสินใจส่ง คริสเตียน สตูอานี ลงมาจับคู่กับดาวยิง บาร์เซโลนา ผลคือ สตูอานี โชว์ฟอร์ไม่ได้เรื่องเลย เข้าปรับจูนกับทีมไม่ติด ต่อบอลกับ ซัวเรซ ไม่ได้ และแม้กระทั่งยิงเองก็ยังทำให้ตรงกรอบไม่ได้ด้วย
ในครึ่งหลังเป็นตาของ มักซี โกเมซ แต่ดาวยิงจาก เซลตา บีโก้ ก็ไม่ได้ต่างกับ สตูอานี เท่าไหร่ ซึ่งมันก็สะท้อนเกมแรก ๆ ในทัวร์นาเมนท์นี้ได้เป็นอย่างดีที่ ซัวเรซ และ คาวานี เองก็ยังไม่ค่อยรู้ใจกันนัก
แต่เพราะการเล่นด้วยกันมา 3-4 เกมที่ช่วยให้พวกเขาแก้ปัญหานั่นลงได้ชั่วคราว ในขณะที่ สตูอานี กับ โกเมซ เหมือนลงมาเพื่อจุดประเด็นดังกล่าวให้กลับมาชัดเจนอีกครั้ง ปัญหาที่ว่าพวกเขาเล่นเกมรุกไม่ได้เรื่องเอาซะเลย
3. ประโยชน์อย่างอื่นของ ชิรูด์
โอลิวิเยร์ นั้นขึ้นชื่อเรื่องความอันตรายของลูกกลางอากาศ เขาเป็นนักเตะที่ทำประตูจากการโหม่งได้มากที่สุดให้กับ อาร์เซนอล และปัจจุบันก็รั้งอันดับ 2 รองจาก ปีเตอร์ เคราช์ และห่างกันเพียง 11 ลูก ทั้ง ๆ ที่ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก น้อยกว่าครึ่งต่อครึ่ง (193 ต่อ 462 นัด) มันจึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะถูกจับตาเป็นคนแรกโดยเหล่ากองหลัง
ในเกมนี้ก็เช่นกัน ทั้ง โกดิน และ ฆิเมเนซ หมายหมั้นปั้นมือที่จะตัด ชิรูด์ ออกจาเพื่อน ๆ ให้ได้ ซึ่งทั้งคู่ก็ทำได้ดีทีเดียว แต่เหมือน ดิดิเยร์ เดชองส์ และ อ็องตวน กรีซมันน์ จะรู้ทัน เพราะประตูแรกของ วาราน มันต้องเป็นลูกสูตรแน่ ๆ และ ชิรูดืก็จัดการดึงกองหลังที่ตัวใหญ่ที่สุดสองคนออกไปให้พ้นทางวิ่งขอ วาราน ได้ยอดเยี่ยม
รวมถึงจังหวะสอดมาโหม่งโล่ง ๆ ของ เอ็มบัปเป้ ด้วย ก็ใครมันจะไปคิดว่านักเตะอย่าง เอ็มบัปเป้ จะเป็นเป้าหมายของการโหม่ง (ซึ่งก็ใช่แหละ ดูวิธีการที่ เอ็มบัปเป้ โหม่งแล้วต้องบอกว่าผิดหวังสุด ๆ)
มันเป็นเหมือนทางสองแพร่งของสองเซ็นเจอร์ฮาล์ฟ เพราะทันทีที่พวกเขาทิ้ง ชิรูด์ เมื่อไหร่ โอกาสเสียประตูก็จะมากขึ้นทันที แนวรับ อุรุกวัย จึงทำได้แต่ก้มหน้ายอมรับผลเท่านั้น
2. กรีซมันน์ ยังคงสำคัญ
แม้ชื่อของไอ้หนู เอ็มบัปเป้ วัย 19 จะเป็นที่กล่าวถึงมากที่สุดในเวลานี้ แต่อดีตแข้งผู้เคยยืนเคียงข้าง เมสซี และ คริสเตียโน บนเวทีบัลลงดอร์ต่างหากคือผู้นำทัพ ฝรั่งเศส อย่างแท้จริงในตอนนี้
กรีซมันน์ เปิดบอลที่ยอดเยี่ยมตรงจุดนัดหมายกับ วาราน ไว้แบบเป๊ะ ๆ ส่งพวกเขาขึ้นนำในครึ่งแรก ก่อนที่จะได้ลูกยิงแบบมีโชคช่วยเล็ก ๆ ที่ทำให้พวกเขาได้ประตูที่สองในครึ่งหลัง ก่อนจบเกมด้วยสกอร์ 2-0 พาพวกเขาเข้ารอบอย่างสวยงาม
ในขณะที่ เอ็มบัปเป้ ดูมีความเป็นวัยรุนใจร้อนอย่างเต็มตัวและเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในเกมนี้ แต่ กรีซมันน์ ยังคงเป็นแม่ทัพที่มีแต่ความมั่นอกมั่นใจ และพร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้ทีมได้ทุก ๆ เมื่อ และเมื่อประสานรวมการยิงอันเฉียบขาดกับลูกโยนอันแม่ยำ เขานี่แหละคือตัวเปลี่ยนเกมที่แท้จริงสำหรับทัพ ฝรั่งเศส
1. นายประตูคือจุดเปลี่ยนของเกม
ในเกมที่ศักยภาพของนักเตะทั้ง 20 คนบนสนามมันพอ ๆ กัน นายประตูของแจ่ละฝั่งนี่แหละคือส่วนที่จะตัดสินแพ้ชนะได้ในเกมรอบน็อคเอาท์
อูโก้ ยอริส ที่ปกติจะขึ้นชื่อเรื่องความสะเพร่าและมักโดนด่าอยู่บ่อย ๆ ในฤดูกาลล่าสุดกับ สเปอร์ส แต่ในเกมวันนี้เขายืนตำแหน่งได้ดีเยี่ยม ตัดสินใจเด็ดขาด และเซฟลูกโหม่งของ คาเซเรส ได้แบบหมดจด
ในขณะที่ แฟร์นันโด มุสเลรา ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเหนียวมาตลอด 4 นัด เสียประตูเดียวในรอบ 16 ทีมและไม่เสียเลยในเกมรอบแบ่งกลุ่ม วันนี้เขากลับทำพลาดถึง 2 หน และแม้หนแรกจะรอดตัวจากการเสียประตูไปได้ แต่รอบที่สองมันทำให้ทีมของพวกเขาใจฝ่อกันเลยทีเดียว
การผิดพลาดของ มุสเลรา เป็นครั้งที่ 9 แล้วที่ผู้รักษาประตูผิดพลาดจนเสียประตูในทัวร์นาเมนท์นี้ และ อุรุกวัยเองก็เคยได้ประโยชน์มาแล้วในเกมที่พวกเขาชนะ ซาอุดิ อาระเบีย 1-0 นี่คงเป็นเวลาที่พวกเขาจะต้องใช้คืนสินะ
ตารางคะแนน
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ลิเวอร์พูล | 11 | 28 |
2 | แมนเชสเตอร์ | 11 | 23 |
3 | เชลซี | 11 | 19 |
4 | อาร์เซนอล | 11 | 19 |
5 | น็อตติ้งแฮม | 11 | 19 |
6 | ไบรท์ตัน | 11 | 19 |
7 | ฟูแล่ม | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | แบงค็อก ยูไน | 13 | 30 |
2 | บุรีรัมย์ ยู | 10 | 24 |
3 | การท่าเรือ เ | 12 | 22 |
4 | บีจี ปทุม ยู� | 12 | 22 |
5 | พีที ประจวบ � | 13 | 22 |
6 | สุโขทัย เอฟซ | 13 | 20 |
7 | อุทัยธานี เอ | 13 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาเยิร์น มิว | 10 | 26 |
2 | RB ไลป์ซิก | 10 | 21 |
3 | ไอน์ทรัค แฟร | 10 | 20 |
4 | เลเวอร์คูเซ� | 10 | 17 |
5 | ไฟร์บวร์ก | 10 | 17 |
6 | ยูเนี่ยน เบอ | 10 | 16 |
7 | ดอร์ทมุนด์ | 10 | 16 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | นาโปลี | 12 | 26 |
2 | อตาลันต้า | 12 | 25 |
3 | ฟิออเรนติน่� | 12 | 25 |
4 | อินเตอร์ มิล | 12 | 25 |
5 | ลาซิโอ | 12 | 25 |
6 | ยูเวนตุส | 12 | 24 |
7 | เอซี มิลาน | 11 | 18 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บาร์เซโลน่า | 13 | 33 |
2 | เรอัล มาดริด | 12 | 27 |
3 | แอตเลติโก มา | 13 | 26 |
4 | บียาร์เรอัล | 12 | 24 |
5 | โอซาซูน่า | 13 | 21 |
6 | แอธเลติก บิล | 13 | 20 |
7 | เรอัล เบติส | 13 | 20 |
ดูทั้งหมด |
2024-2025
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ปารีส แซงต์ � | 11 | 29 |
2 | โมนาโก | 11 | 23 |
3 | โอลิมปิก มาร | 11 | 20 |
4 | ลีลล์ | 11 | 19 |
5 | โอลิมปิก ลีย | 11 | 18 |
6 | นีซ | 11 | 17 |
7 | แร็งส์ | 11 | 17 |
ดูทั้งหมด |