แอ๊ดกิ้นส์จืด!นักบุญตอกย้ำซิว 2-0 เรดดิ้งร่อแร่
เหมือนเป็นการตอกน้ำว่าเซาแธมป์ตันทำถูกแล้วที่ปลดแอ๊ดกิ้นส์ออกไป เมื่อลูกทีมของโปเช็ตติโน่เล่นกันได้อย่างไม่มีข้อผิดพลาดเอาชนะเรดดิ้งไป ด้วยสกอร์ 2-0 อนาคตแห่งการรอดตกชั้นสดใส สวนทางกับทีมนักอ่านที่พ่าย 7 นัดติดอมบีวยจนหน้าเบี้ยวอยู่ท้ายตาราง
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2556
เรดดิ้ง 0 - 2 เซาแธมป์ตัน
สนาม : มาเดจสกี้ สเตเดี๊ยม
ประตู :0-1 โรดริเกซ น.34, 0-1 ลาลัลน่า น.72
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก เรดดิ้ง 0-2 เซาแธมป์ตัน
นี่เป็นเกมแรกที่แอ๊ดกิ้นส์จะได้กลับมาเจอกับอดีตสโมสรของเขาอีกครั้ง หลังจากต้องแยกทางกันไป
แต่นอกเหนือจากการเจอทีมเก่าแล้ว เขาต้องโฟกัสไปที่การเก็บคะแนนให้ได้ เพราะตอนนี้เรดดิ้งป่วยหนักไปนอนอมบ๊วยอยู่ท้ายตารางโน่นเลย
ครึ่งแรก
เกมในช่วงต้นก็เหมือนกับเกมปกติที่ทีมระดับชั้นไม่ต่างกันมากนักเล่นเจอกัน คือยังไม่มีใครเหนือกว่ากันสักเท่าไหร่ แรกๆเรดดิ้งอาจจะได้บุก แต่ผ่าน 10 กว่านาทีแรกไปเป็นเซาแธมป์ตันที่ได้ลุย
นาทีที่ 20 แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองกันเลยทีเดียวสำหรับเรดดิ้งเพราะพวกเขาสมควร ที่จะออกนำไปก่อนแล้ว จากจังหวะที่กองหลังทีมเยือนยืนสกัดกันไม่ดี บอลหลุดไปถึงเล ฟอนเดรที่ได้ยืนจังก้ามีโอกาสไม่ว่าจะจับก่อนหรือยิงเลยก็ได้เพราะไม่มีใคร ใกล้ แต่เขาเลือกที่จะวอลเล่ย์จังหวะเดียว กลายเป็นซัดเบิร์ดออกไปไกลลิบ โคตรน่าเสียดาย
เกมกำลังจะเข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมง ในสนามอันนี้ก็สูสีกันไม่ต่างเหมือนเดิม แต่กล้องพยายามเล่นเหลือเกินคือจังหวะที่ร๊อบสัน-คานูแตะลากบอลเข้าไปในเขต โทษแล้วโดนกองหลังสกัดจังๆ เหมือนจะโดนคนก่อนบอล แต่ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร
นาทีที่ 34 ประตูแรกเกิดขึ้นจนได้ แต่เป็นของทางเซาแธมป์ตันและเรดดิ้งต้องโทษตัวเองกับการที่ยืนแนวรับกันไม่ แน่นพอ โดนโรดริเกซชิ่งบอลกับเพื่อนก่อนหยอดข้ามไลน์แนวรับเข้าไปล้มตัวเข้าชาร์จ บอลพอดีกับที่เฟเดริชี่พยายามออกมาสกัด แต่เหลี่ยมของโรดริเกซดีกว่าบอลเลยเด้งเข้าประตูไป ทีมเยือนนำ 1-0 แอ๊ดกิ้นส์ประท้วงแค่ไหนก็ไร้ผล
ตอน นี้ "นักบุญ" คึกกว่าชัดเจนเลย เพราะจังหวะต่อมารามิเรซก็พลิกตัวหลุดกับดักล้ำหน้าไปได้ ก่อนตะบันเต็มตีนในเขตโทษ เฟเดริชี่ไร้กำลังจะปัดป้องเพราะบอลพุ่งแสกหน้ามาแรงเหลือเกิน แต่ดันไปชนคานซะนี่
ช่วงท้ายครึงแรกนึกว่าจะโดนอีกเม็ดไปแล้วสำหรับเรดดิ้ง เพราะเซาแธมป์ตันมีโอกาสเรื่อยๆ เกมของพวกเขาดูแน่นอนและได้ลุ้นมากกว่า ยังดีที่สกอร์อยู่ทีเดิมไม่ได้ขยับไปไหน จบ 45 นาทีแรก เลยเป็นทีมเยือนที่นำอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง
กลับลงมาเล่นในครึ่งหลังนี้เรดดิ้งเหมือนว่าพยายามฮึดสู้เพื่อเอาประตู ตีเสมอให้ได้ แต่อึดได้พักเดียวก็ต้องตั้งหลักกันใหม่อีก เพราะปัญหาของพวกเขาคือกองหน้าเก็บบอลไม่ค่อยอยู่ แถมหาโอกาสเข้าทำกันไม่ได้ด้วย
มีการปรับทัพกันทั้งสองทีมเลย โดยเรดดิ้งถอดอากัทธรี่ออกไปแล้วส่งแม็คเคลียร์รี่ลงไปเล่นแทน ส่วนเซาแธมป์ตันนั้นให้ลาลัลน่าลงสนามแทนรามิเรซ
นาทีที่ 72 นี่กำลังจะเป็นประตูที่ช่วยให้เซาแธมป์ตันเก็บ 3 คะแนนเต็มในเกมนี้ได้อย่างแน่นอน เมื่อกองหลังของเรดดิ้งมาโดนจุดอ่อนกับลูกชิ่งข้ามหัวที่ลาลัลน่าเล่นกับ เพื่อน ก่อนทะลุหลุดเข้าไปในเขตโทษแล้วยิงเบียดเสาเข้าประตูไป ทีมเยือนทิ้ง 2-0
นาทีที่ 75 เป็นจังหวะกังขาที่ต้องพูดกันแน่นอน เมื่อโบรุคโหนตัวขึ้นรับบอลกลางอากาศ แต่ตัวเขาลอยถอยหลังเข้าไปในประตู แม้ว่าจะรีบผลักบอลทิ้งออกมา แต่ดูจากภาพช้าแล้วเหมือนบอลจะเข้าไปทั้งใบ ถึงอย่างนั้นไลน์แมนก็ยันเสียงแข็งว่าลูกมันยังไม่ข้ามไปแต่อย่างใด
เรดดิ้งอยู่ในอาการมึนงงพอสมควร ตอนนี้เกมของพวกเขาเป็นมึนไเหมือนจะเซ็ตกันไม่ค่อยอยู่ อาจจะเป็นเพราะเวลามันไม่ได้เหลือมากมาย แต่ต้องมาตามถึง 2 ลูกด้วยกันในตอนนี้
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เซาแธมป์ตันขอเล่นเกมแน่นอนไว้ก่อน ถอยกันไปยืนคุมโซนในแดนตัวเองซะมาก ถึงเรดดิ้งจะได้ครองบอลเพิ่มมากขึ้น แต่พื้นที่ของพวกเขาก็น้อยลงไปตามด้วย
จบ 90 นาทีเซาแธมป์ตันเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-0 ทำให้พวกเขามีเพิ่มเป็น 37 คะแนน โดยนี่เป็นชัยชนะเกมที่ 3 ติดต่อกันของพวกเขา ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 11 ส่วนเรดดิ้งแพ้รวด 7 นัดติดยังอยู่บ๊วยพร้อม 23 คะแนนและเกมที่เหลือให้เล่นอีกแค่ 6 นัดเท่านั้น
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เรดดิ้ง : อดัม เฟเดริชี่, คริส กุนเทอร์, เอเดรียน มาเรียปป้า, ฌอน มอร์ริสัน, สตีเฟ่น เคลลี่, เย็ม คาราแกน, โจบี้ แม็คอีนัฟฟ์, ฮาล ร๊อบสัน-คานู(ฮันท์ น.73), แดนนี่ กัทธรี่(แม็คเคลียร์รี่ น.62), โฮป แอ็คแพน(เลเกอร์วูด น.45), อดัม เล ฟอนเดร
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ย์, อเล็กซ์ เพียร์ซ, เอียน ฮาร์ท, พาเวล โพเกร็บเนียค
เซาแธมป์ตัน : อาร์เทอร์ โบรุค, เนธาเนียล ไคลน์, มายะ โยชิดะ, โจส ฮอยเวลด์, ลุค ชอว์, มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน, สตีเว่น เดวิส(โด ปราโด น.89), เจย์ โรดริเกซ, แกสตัน รามิเรซ(ลาลัลน่า น.63), แจ็ค คอร์ก, ริคกี้ แลมเบิร์ต
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : เคลวิน เดวิส, โจเซ่ ฟอนเต้, ดาเนียล ฟ็อกซ์, เจมส์ วอร์ด-พราวซ์, เจสัน พันเชี่ยน
_________________