กิ๊บสันเบิกร่อง!ซัดแฉลบท๊อฟฟี่อัดคิวพีอาร์สบาย 2-0
ไม่ใช่งานยากสำหรับ"ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน"เอฟเวอร์ตันหลังเหนือกว่าควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์สเกือบทั้งเกมก่อนได้ลูกยิงแฉลบของดาร์รอน กิ๊บสันแล้วปิดท้ายที่ลูกตวัดของวิคเตอร์ อนิเชบี้พาให้ทีมเอาชนะไป 2-0 ยังเกาะกลุ่มได้ลุ้นท็อปโฟร์ต่อไป
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังฤษ
สนาม : กูดิสัน ปาร์ค
วันเสาร์ที่ 13 เมษายน 2556
เอฟเวอร์ตัน 2:0 ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส
ประตู : 1-0 กิ๊บสัน น.40, 2-0 อนิเชบี้ น.56
ครึ่งแรก
เปิดฉากมาเร้าใจน่าดูหวิดได้ประตูนำกันไปฝั่งละหนแล้วทีแรกเป็นของคิวพีอาร์ก่อนจากการยิงไกลหน้าเขตโทษโดยฮอยเลตต์แต่บอลเลี้ยวหลุดเสาไกลออกหลัง ทางเอฟเวอร์ตันก็เกือบไปจากการทำชิ่งของเบนส์กับพีนาร์หลุดมาเปิดไปในเขตโทษแต่อนิเชบี้ยืดหัวไปโหม่งไม่ถึง
หลังจากนั้นผ่านมา 20 นาทีกลับกลายเป็นว่าโอกาสลุ้นประตูลดลงไปอย่างเห็นได้ชัดทั้งสองฝ่าย ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสพาบอลขึ้นไปถึงเขตโทษของอีกฝ่ายพอๆกันแต่จังหวะสุดท้ายไม่เฉียบคมเชื่อมต่อกับเป้าหมายไม่ถึง
โอกาสจะๆของ"ทหารเสือราชินี"มาแล้วหวิดเป็นประตูออกนำจากจังหวะที่ฮอยเลตต์ดีดขึ้นหน้าให้กับปาร์คได้พาบอลตัดเข้ากรอบเขตโทษทางขวาก่อนจะตวัดเปิดไปตรงกลางแล้วมีเรมี่ยิงเน้นๆจะยัดเข้าเสาแรกอยู่แล้วแต่ฮาเวิร์ดยังพุ่งปัดออหลังไปได้อยู่
จังหวะของ"ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน"มากับเขาบ้างด้วยลูกฟรีคิดทางริมเส้นขวาก่อนเป็นเบนส์มารับหน้าที่เปิดเรียดย้อนไปหน้าเขตโทษถึงเท้าของกิ๊บสันวิ่งเข้ามายิงเน้นๆก่อนบอลจะเข้าทางของดิสแต็งพยายามแปเปลี่ยนทางแต่บอลก็หลุดเสาอีกฝั่งออกหลังไปอีก
แล้วก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาทีก็มาเกิดประตูขึ้นจนได้โดยเป็นฝั่งเจ้าบ้านที่มาทำได้จากบอลไหลออกไปทางซ้ายสุดริมเส้นให้เบนส์ก่อนเปิดเข้ากลางมาถึงมิราญาสยิงทีแรกติดบล็อกบอลกระดอนมาเข้าทางกิ๊บสันหน้าเขตโทษยิงซ้ำเข้าไปหนนี้บอลแฉลบฮิลล์เปลี่ยนทางหนีเซซาร์เข้าประตู เอฟเวอร์ตันออกนำเรียบร้อย 1-0
ครึ่งหลัง
กลับมาครึ่งหลังเกือบเป็นตุงที่สองของเอฟเวอร์ตันแล้วจากความพริ้วของมิราญาส ณ สุดเส้นหลังฝั่งซ้ายแตะผ่านตัวประกบมาได้ก่อนจะปาดไปตรงกรอบ 6 หลาให้อนิเชบี้ดึงจังหวะหลบตัวเสียบคนแรกมาได้แล้วค่อยยิ่งแต่บอลชนเสาอย่างจังเลยอดได้ประตู
นาที 50 งานชุกของเซซาร์อีกแล้วจากจังหวะเตะมุมทางซ้ายเข้ามาโดยมิราญาสแล้วถึงหัวดิสแต็งทางเสาแรกได้โหม่งเอาชนะตัวประกบบอลพุ่งจะเข้าทางเสาแรกแต่นายด่านชาวบราซิลยังบินปัดออกหลังไปได้ทัน
แล้วสุดท้าย"ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน"ก็บวกเพิ่มอีกประตูได้สำเร็จจากบอลเตะมุมทางขวาบ้างหนนี้รับหน้าที่โดยเบนส์เปิดเข้าไปลึกถึงเสาไกลแล้วดิสแต็งขึ้นโหม่งมาหน้าประตูก่อนจะเป็นอนิเชบี้ช่วยตวัดบอลเข้าประตูไปอีกต่อนึง เอฟเวอร์ตันนำห่างเป็น 2-0 แล้ว
เกมรุกของคิวพีอาร์ดูเงียบไปถนัดตาแทบจะเปิดให้ฝั่งเอฟเวอร์ตันได้บุกลุ้นประตูเพิ่มอยู่ฝั่งเดียว หนนี้เป็นจังหวะโต้กลับขึ้นมาแล้วอนิเชบี้แปะไปตรงกลางให้กับพีนาร์สอดมาก่อนจ่ายไปทางซ้ายให้กับมิราญาสล็อกเข้าขวาตัดเข้าในแล้วสับไกแต่ยังไม่ผ่านฮาเวิร์ด
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกม"ทหารเสือราชินี"ยังบุกไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันเหมือนเดิมเจอเอฟเวอร์ตันกดดใส่เข้าใส่อยู่เรื่อยๆอีกต่างหากแล้วก็ได้ลุ้นอีกครั้งจากมิราญาสที่จะแตะแหวกมาโดนสกัดไว้บอลลอยเข้าหัวเลยแต่งตามาเล่นต่อได้แล้ววอลเลย์กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปบอลติดไซด์เลี้ยวหาประตูเซซาร์เลยต้องปัดไปก่อน
ท้ายเกมแล้วโอกาสของคิวพีอาร์เพิ่งจะมากันบ้างแล้วจากจังหวะที่โอนูโอฮาได้เลี้ยงหลุดมามาทางขวาเข้าเขตโทษก่อนจะไดทียิงเน้นๆด้วยซ้ายแต่ว่ายังไม่ผ่านฮาเวิร์ดปัดออกมาทัน
"ท๊อฟฟี่"เคาะบอลกันสบายเลยแทบจะปิดเกมแล้วแต่ยังไม่หนำใจขอลองส่องอีกทีโดยกิ๊บสันจากระยะ 30 หลาหนนี้ยิงแฉลบอีกแล้วแต่ก็ไม่ตรงกรอบหลุดเสาออกหลังไม่เท่าไหร่
ทดเจ็บคิวพีอาร์ของลองส่องอีกซักทีจากการยิงไกลของทาวน์เซนด์จากระยะ 25 หลาซัดด้วยซ้ายแต่บอลยังไม่แม่นยำพุ่งหลุดเสาแรกออกหลังไปอีก
จบเกมเอฟเวอร์ตันก็เอาชนะคิวพีอาร์ไปแบบไม่ยากเย็น 2-0 ทำให้พวกเขาบังเกาะกลุ่มลุ้นท็อปโฟร์ขยับมาห่างจากสเปอร์สกับเชลซี 3 แต้มก่อน ส่วน"ทหารเสือ"โดนเรดดิ้งทำแต้มมาเท่ากันแล้วที่ 24 คะแนนแต่ยังไม่เสียอันดับรองบ๊วย
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาเวิร์ด, เลห์ตัน เบนส์, ฟิล จาเกียลก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เซมุส โคลแมน, ดาร์รอน กิ๊บสัน, เควิน มิราญาส (เนย์สมิธ น.88), ลีออน ออสแมน (เยลาวิช น.82), สตีเฟ่น พีนาร์, มารูยาน เฟลไลนี่, วิคเตอร์ อนิเชบี้ (ไฮติงก้า น.90+3)
สำรองไม่ได้ลงสนาม : แยน มูช่า, ไบรอัน โอเบียโด, โธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์, รอส บาร์คลี่ย์
ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส : ฮูลิโอ เซซาร์, คริสโตเฟอร์ แซมบ้า, คลินท์ ฮิลล์, เนดุม โอนูโอฮา, โจเซ่ โบซิงวา, ปาร์ค จี ซอง (ทารับท์ น.62), เอสเตบัน กราเนโร่ (เดียคิเต้ น.74), เจอร์เมน จีนาส, ดาวิด ฮอยเลตต์, แอนดรอส ทาวน์เซนด์, โลอิค เรมี่
สำรองไม่ได้ลงสนาม : โรเบิร์ต กรีน, ทาล เบน ฮาอิม, แฟรงกี้ ซัทเธอร์แลนด์, เจมี่ แม็คกี, เจย์ โบธรอยด์