โอซิลฮีโร่!เบียร์หืดจับเฉือนออสเตรีย2-1
เยอรมนีต้องลุ้นจนถึงช่วงนาทีสุดท้ายของเกมก่อนเก็บ 3 แต้มออกจากบ้านของออสเตรียได้สำเร็จโดยเมซุต โอซิล เพลย์เมคเกอร์ร่างเล็กรับบทฮีโร่จากจังหวะยิงจุดโทษช่วงต้นครึ่งหลังเป็นประตูชัยให้ทีมในแมตช์นี้
ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มซี
วันอังคารที่ 11 กันยายน 2555
ออสเตรีย 1-2 เยอรมนี
สนาม : เออร์เนสต์-ฮัปเปิล-สตาดิโอน
ประตู : มาร์โค รอยส์ น. 44, เมซุต โอซิล น. 52, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช น.57
คลิปไฮไลท์ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ออสเตรีย 1-2 เยอรมัน
ออสเตรียเจ้าถิ่นใช้นักเตะที่ค้าแข้งในบุนเดสลีกาส่วนใหญ่ลงสนามนำโดยโรเบิร์ต อัลเมอร์ยืนเฝ้าเสา,เอมานูเอล โปกาเตทซ์และคริสเตียน ฟุคส์ประจำการในตำแหน่งกองหลังโดยมีมาร์ติน ฮาร์นิคและซลัตโก้ ยูนูโซวิชคอยทำเกมสนับสนุนมาร์โก อาร์เนาโตวิชที่ยืนค้ำแดนหน้าเพียงคนเดียว
โยอัคคิม เลิฟส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามโดยมีทีเด็ดที่แผงกองกลางสุดแกร่งอย่างซามี่ เคดิร่า,เมซุต โอซิล,โธมัส มุลเลอร์และโทนี่ โครสส่วนมาร์โค รอยส์และมิโลสลาฟ โคลเซ่ปักหลักคอยล่าตาข่าย
ครึ่งแรก
ออสเตรียได้ลุ้นก่อนแต่ยังติดบล็อก
มาร์ติน ฮาร์นิคแนวรุกของเจ้าถิ่นได้โอกาสสับไกด้วยเท้าขวาในนาทีที่ 4 แต่เป็นมัตส์ ฮุมเมลส์ที่อ่านจังหวะได้ดีก่อนพุ่งเข้ามาบล็อกลูกยิงบอลปลิ้นออกหลังไปทำให้เจ้าถิ่นได้ลูกเตะมุมครั้งแรก
เบียร์โต้กลับโคลเซ่อัดเต็มเท้าได้แค่ลุ้น
มิโลสลาฟ โคลเซ่หัวหอกตัวเก๋าของเยอรมนีมีโอกาสสับไกด้วยเท้าขวาแต่บอลพุ่งไปเข้าทางของโรเบิร์ต อัลเมอร์นายทวารเจ้าถิ่นที่พุ่งรับบอลได้อย่างสวยงามในนาทีที่ 11 ของเกม
โพรเดิลสังเวยเหลือคนแรก
เซบาสเตียน โพรเดิลปราการหลังตัวเก่งของออสเตรียไปเท้าบอลแบบน่าเกลียดใส่มิโลสลาฟ โคลเซ่ทำให้ผู้ตัดสินต้องควักใบเหลืองออกมาเตือนสติก่อนเป็นคนแรก
เบาการ์ตลินเจอร์ได้ส่องบอลเฉี่ยวเสา
จูเลี่ยน เบาการ์ตลินเจอร์มิดฟิลด์ของออสเตรเลียได้บอลจากการเปิดเตะมุมของซลัตโก้ ยูนูโซวิชทางฝั่งว้ายของสนามก่อนหาโอกาสตวัดด้วยขวาข้างสนัดแต่บอลกลับพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปแบบน่าเสียดาย
รอยส์ซัลโวสุดงามพาเบียร์ขึ้นนำ
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 44 เขื่อนของเจ้าบ้านก็แตกจนได้เมื่อเมซุต โอซิลเพลย์เมคเกอร์ของเยอรมนีได้บอลหลุดมาทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษก่อนป้ายมาให้มาร์โค รอยส์มิดฟิลด์ดาวรุ่งได้ง้างเท้าซัดด้วยซ้ายบริเวณกรอบ 18 หลาบอลพุ่งซุกก้นตาข่ายแบบหมดจนส่งให้ทีมเยือนขึ้นนำ
ครึ่งหลัง
เยอรมนีตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่นคนแรกส่งมาริโอ เกิตเซ่ลงมาทำเกมแทนมาร์โค รอยส์คนทำประตูก่อนลงสนามในช่วงครึ่งหลัง
โอซิลซัดโทษส่งเบียร์นำห่าง2-0
เวลี่ คาฟลัคกองกลางออสเตรียเข้าสกัดใส่โธมัส มุลเลอร์กองกลางเยอรมนีล้มคว่ำลงในกรอบเขตโทษก่อนที่เมซุต โอซิลรับหน้าที่สังหารวิ่งมายิงด้วยซ้ายไม่พลาดทำให้ทีมขึ้นนำไปแล้ว 2-0 ในนาทีที่ 52
ออสเตรียบุกหนักตีไข่แตกทันควัน
ถัดจากเสียประตูที่ 2 เพียง 5 นาทีออสเตรียได้บุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วก่อนที่มาร์โก อาร์เนาโตวิชดาวเตะจอมเทคนิคจะเปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้ามาหน้าปากประตูและเป็นซลัตโก้ ยูนูโซวิชที่วิ่งเข้ามาซัดด้วยซ้ายระยะเพียง 6 หลาบอลพุ่งวาบเข้ามุมประตูฝั่งซ้ายเป็นลูกตีตื้นอย่างสวยงาม
ลามห์เข้าช้าสังเวยเหลืองอีกคน
เกมมาถึงนาทีที่ 71 ฟิลิปป์ ลาห์มแบ็กขวากัปตันทีมเยอรมนีไปทำฟาวใส่ซลัตโก้ ยูนูโซวิชที่วันนี้ปั่นป่วนแนวรับทีมเยือนได้ดีเหลือเกินล้มลง โดนกรรมการจดชื่อไปอีกราย
เลิฟส่งโพลดี้ป่วนหลังออสเตรีย
โยอัคคิม เลิฟเห็นทีท่าเกมของเยอรมนีไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ก่อนตัดสินใจส่งลูคัส โพลดอลสกี้ลงสนามมาแทนมิโลสลาฟ โคลเซ่ดาวยิงรุ่นเก๋าที่แทบไม่มีโอกาสได้ส่องพังประตูในนาทีที่ 75
ออสเตรียโหมหนักแต่เจาะไม่เข้า
ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมเจ้าถิ่นเปิดเกมบุกแหลกหวังทวงประตูตีเสมอให้ได้โดยได้ลุ้นจากลูกยิงของอาร์เนาโตวิชและเบาการ์ตลินเจอร์แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือของมานูเอล นอยเออร์ที่ปักหลักเฝ้าปากประตูได้อย่างเหนียวแน่นพร้อมนำทีมคว้า 3 แต้มได้สำเร็จ
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
ออสเตรีย : โรเบิร์ต อัลเมอร์, กอร์กี้ การิคส์, เอมานูเอล โปกาเตทซ์, คริสเตียน ฟุคส์, เซบาสเตียน โพรเดิ้ล, อันเดรียส อีวานชิตซ์ (จาค็อบ แจนท์เชอร์น. 75), ซลัตโก้ ยูนูโซวิช,มาร์ติน ฮาร์นิค (กีโด้ เบิร์กสตอลเลอร์น. 55), จูเลี่ยน เบาการ์ตลินเจอร์ ( มาร์ค ยานโก้น. 85), เวลี่ คาฟลัค, มาร์โก อาร์เนาโตวิช
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : คริสเตียน กราตไซ,ไฮน์ซ่า ลินด์เนอร์, อเล็กซานเดอร์ ดราโกวิช, มาร์คุส ซุตต์เนอร์, ฟลอเรียน เคลน, ฟรานซ์ ชีเมอร์, ยาซิน เปห์ลิวาน, คริสตอฟ เลียตเกบ, ปาทริค เบอร์เกอร์,
เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์, มาร์เซล ชเมลเซอร์, มัตส์ ฮุมเมลส์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ฟิลิป ลาห์ม, ซามี่ เคดิร่า, เมซุต โอซิล,โธมัส มุลเลอร์, โทนี่ โครส, มาร์โค รอยส์ (มาริโอ เกิตเซ่ น.46), มิโลสลาฟ โคลเซ่ (ลูคัส โพดอลสกี้น.75)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์, มาร์ค อันเดร เตอร์ สเตเก้น, เบเนดิคต์ โฮเวเดส, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, เจโรม บัวเต็ง,อิลกาย กุนโดกัน, อันเดร ชูร์เล่, ลาร์ส เบนเดอร์, จูเลี่ยน เดร็กซ์เลอร์,
_________________