โคตรนิ่ง!ตราไก่ดวลเป้าดับจอมโหด 4-1 ซิวแชมป์โลกยู-20
ขุนพล"ตราไก่น้อย"ฝรั่งเศสที่นำโดยกัปตันทีมปอล ป็อกบาโชว์ความเยือกเย็นในสถานการณ์ที่บีบคั้น หลังเจ๊าอุรุกวัยใน 120 นาทีแบบไร้สกอร์ก่อนมาดวลจุดโทษเอาชนะ 4-1 ชนิดยิงเข้าทุกคน ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์โลก ยู-20 มาครองเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของชาติ
ฟุตบอลยู-20 ชิงแชมป์โลก รอบชิงชนะเลิศ
วันเสาร์ที่ 13 กรกฏาคม 2556
ฝรั่งเศส 0 : 0 อุรุกวัย
(ครบ 120 นาที เสมอ 0-0 ฝรั่งเศสดวลจุดโทษชนะ 4-1)
สนาม : เติร์ก เทเลคอม อารีน่า
ประตู :
ฝรั่งเศสทะลุเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก ยู-20 ได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ แต่ไม่อาจใช้งานซามูแอล เอิงตีตี้กองหลังตัวหลักที่ติดโทษแบนหลังโดนไล่ออกในแมตช์กับกาน่าได้ เลยต้องส่งมาอามาดู ซาร์ลงมาทำหน้าที่แทน ส่วนปอล ป็อกบายังคุมแดนกลางปั้นเกมให้ยาย่า ซาโนโก้ยิงตามปรกติ
อุรุกวัยไม่มีปัญหาตัวผู้เล่น โดยพวกเขาเข้าสู่รองชิงชนะเลิศได้ด้วยเกมรับอันเหนียวแน่นที่เพิ่งเสียไปแค่สองประตู เกมนี้ขออาศัยเกมโต้กลับเล่นงานคู่ต่อสู้โดยมีนิโกลัส โลเปซเป็นตัวชูโรงในแนกรุก
ครึ่งแรก
เปิดฉากผลัดกันสวน
เริ่มเกมมาได้เพียง 4 นาทีโลเปซศูนย์หน้าอุรุกวัยก็ลากบอลไปซัดที่หัวกระโหลกติดเซฟอาเรโอล่า ขณะที่ป็อกบากัปตันทีมฝรั่งเศสก็เอาคืนด้วยการส่องไกลระยะ 25 หลาไปตรงตัวเด อาโมเรส
รูปเกมยังสูสี
ถึงนาที 14 โตแว็งที่แจ้งเกิดได้ในรายการนี้ก็กระชากบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนซัดมุมแคบข้ามคาน อีกสองนาทีให้หลังอุรุกวัยสวนคืนจากจังหวะลากไปยิงของคริสโตโฟโร่แต่บอลเหินข้ามคาน
จอมโหดน่าขึ้นนำ
โอกาสใกล้เคียงต่อการได้ประตูมาเกิดขึ้นกับฝั่ง"จอมโหด"ในนาที 20 จากจังหวะที่จิมิเนซบอมบ์ยาวจากแดนหลังเข้าไปในเขตโทษแล้วซาร์เคลียร์ไม่ดีเปิดช่องให้โลเปซเข้าจิ้มบอลติดเซฟอาเรโอล่า
โลเปซเลื้อยหลบสามไปหวดข้ามคาน
แม้ช่วงกลางครึ่งแรกเป็นฝรั่งเศสที่ทำได้ดีกว่าแต่หาจังหวะจบสกอร์จังๆไม่ได้ ผิดกับฝั่งอุรุกวัยที่มีโลเปซเป็นตัวป่วน โดยเฉพาะนาที 41 ที่เขาลากบอลหลบ 3 กองหลังไปตะบันทางด้านซ้ายแต่ข้ามคาน
ปาอิสเกือบชาร์จพาจอมโหดนำ
นาที 43 อุรุกวัยหวุดหวิดจะได้ประตูขึ้นนำที่สุดเมื่ออเวแน็ตติเปิดเตะมุมมาให้ซิลวาชงไปยังเสาไกลที่มีปาอิสรอชาร์จในกรอบ 6 หลาแต่ยังโดนฟูลกิเย่ร์แบ็คขวา"ตราไก่"ปาดหน้าสกัดบอลทิ้งได้ทัน
อเวแน็ตติหวด 6 หลาหลุดกรอบเฉย
ลูกเตะมุมของ"จอมโหด"ในจังหวะต่อเนื่องยังสร้างโอกาสให้พวกเขาเมื่อบอลลอยมาเข้าทางอเวแน็ตติที่ระยะ 6 หลาแต่เขาดันซัลโวหลุดกรอบไปเหลือเชื่อทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกันที่ 0-0
ครึ่งหลัง
โลเปซมาอีกกระหน่ำไกลข้ามคาน
เข้าสู่ครึ่งหลังโลเปซยังเป็นตัวอันตรายสำหรับแนวรับ"ตราไก่"กับการหาจังหวะยิงทุกครั้งที่มีโอกาสอย่างเช่นที่เกิดขึ้นในนาที 58 แต่น่าเสียดายที่ลูกส่องไกลหน้าเขตโทษของเขาข้ามคานไปนิดเดียว
ตราไก่เซ็งต้องเปลี่ยนบาเอเบ็คที่เจ็บ
เกมผ่านมาครบชั่วโมงป็อกบามาโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของฝรั่งเศสจากจังหวะปะทะที่ดูแล้วไม่น่าถึงขั้นได้รับบทลงโทษ ขณะที่บาเอเบ็คมีอาการบาดเจ็บแฮมสตริงเลยต้องส่งโบเซ็ตติลงมาลุยแทน
โลเปซป่วนตราไก่ได้ใจ
โอกาสครั้งสำคัญอีกครั้งของอุรุกวัยมาเกิดขึ้นในนาที 67 เมื่อโลเปซได้บอลจนหลุดไปที่เขตโทษแต่จับบอลไม่ดีเลยเจอกองหลังขวาง เขามีอเวแน็ตติที่ยืนว่างแต่เลือกยิงเองหลุดกรอบประตูไป
โบเซ็ตติเกือบเป็นซูเปอร์ซับ
นาที 73 โตแว็งกระชากบอลหนีจิมิเนซมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนเปิดบอลไปที่เสาไกลให้โบเซ็ตติที่ยืนชาร์จพลังแล้วเอี้ยวตัววอลเล่ย์ส่งบอลข้ามคานไปแบบน่าเสียวไส้สำหรับฝั่งอุรุกวัย
ผลักกันส่องคนละตุ๊บ
สี่นาทีถัดมาคอนด็อกเบียโหม่งชงลูกเตะมุมมาเข้าทางป็อกบาแต่เด อาโมเรสปรี่ออกมาจัดการบอลถึงเท้า หลังจากนั้นเด อาร์ราสกาเอต้าลากบอลมาจ่ายให้อเวแน็ตติยิงไปติดเซฟของอาเรโอล่า
ท้ายเกมมันส์พ่ะย่ะค่ะ
นาที 84 แวร์ตูต์กระหน่ำบอลแบบไม่จับจากระยะ 25 หลาแต่เด อาโมเรสเยี่ยมกว่าบินปัดออกหลังเฉย สามนาทีให้หลังเวลาซเกวซครอสบอลเกือบหล่นเสียบคานแต่อาเรโอล่าก็เช็คแล้ว ก่อนลงเอย 0-0
ต่อเวลาพิเศษ
เด อาร์ราสกาเอต้าลงมาป่วนอย่างแท้จริง
ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรกอุรุกวัยมีโอกาสมากกว่าโดยเฉพาะจากเด อาร์ราสกาเอต้าที่หนแรกลากทะลวงไปยิงหน้าเขตโทษติดเซฟ ขณะที่นาที 103 เลี้ยงบอลวนที่หัวกระโหลกก่อนซัดข้ามคาน
แวร์ตูต์โดนบอลอัดมีวูบไปแป๊ปนึง
นาที 109 อุรุกวัยได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะ 30 หลา โอลาซ่าเข้าซัดไปติดกแพงกระดอนออกมาให้ซิลวาวอลเล่ย์ซ้ำไปโดนหัวแวร์ตูต์จนวูบลงกองกับพื้น แต่ลุกมาเล่นต่อได้ ก่อนจบลงด้วยการเสมอ 0-0
ดวลจุดโทษ
ฝรั่งเศส : ป็อกบา
อุรุกวัย : เวลาซเกวซ
ฝรั่งเศส : แวร์ตูต์
อุรุกวัย : เด อาร์ราสกาเอต้า
ฝรั่งเศส : เอ็นกานโด้
อุรุกวัย : โอลาซ่า
ฝรั่งเศส : ฟูลกิเย่ร์
จบเกมฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ยู-20 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้วยการดวลจุดโทษชนะอุรุกวัย 4-1 หลังเสมอใน 120 นาทีแบบไร้สกอร์ ขณะทีกาน่าซิวที่สามเมื่อต้อนอิรักยับ 3-0 ขณะที่อเบเนเซอร์ อัสซิฟูอาห์กองหน้า"ดาวดำ"เป็นดาวซัลโวของทัวร์นาเม้นต์ด้วยจำนวน 6 ประตู
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฝรั่งเศส : อัลฟงส์ อาเรโอล่า, ดิมิทรี่ ฟูลกิเย่ร์, คูร์ท ซูม่า, มาฮามาดู-นาบี้ ซาร์, ลูกัส ดีญ (ปิแอร์ โปลามัต น.114), ปอล ป็อกบา , จอร์แดน แวร์ตูต์ , เชฟเฟร่ กงด็อกเบีย, ฌอง-คริสตอฟ บาเอเบ็ค (อเล็กซี่ โบเซ็ตติ น.63) (อาเซล เอ็นกานโด้ น.111), ฟลอริย็อง โตแว็ง, ยาย่า ซาโนโก้
เทรนเนอร์ : ปิแอร์ มานคอฟสกี้
อุรุกวัย : กีเยร์โม่ เด อาโมเรส, เอมิเลียโน่ เวลาซเกวซ , กัสตัน ซิลวา, จานนี่ ดานิเอลเล่ โรดริเกวซ (ลูคัส โอลาซ่า น.100), โฮเซ่ จิมิเนซ (กีเยร์โม่ วาเลร่า น.82), เลโอนาร์โด้ ปาอิส, เซบาสเตียน คริสโตโฟโร่ , ดิเอโก้ ลาซอลต์ ซัวเรซ (จอร์เจี้ยน เด อาร์ราสกาเอต้า น.71), เฟเดริโก้ อเซเวโด้ ฟากุนเดซ, นิโกลัส โลเปซ, เฟลิเป้ อเวแน็ตติ
เทรนเนอร์ : ฮวน เบร์เซรี่