โพลดี้ขโมยซีนแจ็ค!วอลเล่ย์อลังปืนย้ำชัยมงต์ฯทะลุน็อคเอ๊าท์
ขโมยซีนกันแบบนี้เชื่อว่ายอมหยวนให้แน่นอนสำหรับอาร์เซนอลที่ขึ้นนำจากการกลับมาทำประตูให้ทีมได้อีกครั้งของวิลเชียร์ ก่อนโพโดลสกี้จะวอลเล่ย์ปิดกล่องสวยซะจนขนลุกย้ำชัยเหนือมงต์เปลลิเย่ร์ไป 2-0 ทะลุผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายสำเร็จเสร็จภารกิจ
ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม บี
วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2555
อาร์เซนอล 2 - 0 มงต์เปลลิเย่ร์
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี๊ยม
ประตู :1-0 วิลเชียร์ น.49, 2-0 โพโดลสกี้ น.63
อาร์เซนอลเกมนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากนอกจาก 3 คะแนนเต็มเท่านั้น เพราะยังไงก็มาเจอกับมงต์เปลลิเย่ร์ที่นอกจากเสมอกับชาลเก้ได้ก็แพ้รวดมาหมด
เกมแรก "ปืนใหญ่" เป็นฝ่ายบุกไปเอาชนะมาได้ 2-1 แม้ว่านัดนั้นชิรูดจะไม่ได้ยิง แต่เกมนี้เชื่อว่าเป้าหมายของเขาชัดเจนอย่างแน่นอน
กลุ่ม บีนี่ดูเหมือนว่าจะได้ลุ้นกันหนักๆ เพราะคะแนน 3 ทีมไล่บี้กันเหลือเกิน ใครพลาดก็มีสิทธิ์น้ำตาตกกันได้ทั้งนั้น
เวนเกอร์เลือกใช้ทีมชุดที่แกร่งที่สุดของเขาลงเล่น มีกาซอร์ล่าร่วมงานกับวิลเชียร์ตรงกลางสนาม ริมเส้นเป็นแชมเบอร์เลนได้รับโอกาสลงตัวจริง
ครึ่งแรก
อับดวงไปนิด!กอสขึ้นโขกแต่เต็มคาน
นาทีที่ 11 นึกว่าจะได้ประตูขึ้นนำไปแบบจะๆแล้วซะอีกสำหรับอาร์เซนอลในจังหวะที่กอสเชียลนี่เติมขึ้นสูงไปเล่นลูกตั้งเตะ ก่อนมีจังหวะสองให้อาร์เซนอลได้เปิดครอสเข้าไปในเขตโทษ กอสฯเทคตัวขึ้นเสาแรกได้โหม่งสะบัดแบบบรรจงคนเดียว แต่บอลมันดันไปชนคานซะอย่างนั้น
หวิดไปนะ!มูนิเย่ร์เกือบได้หลุดยิง
อีก 3 นาทีต่อมา ต้องชมการอ่านเกมของเซสนี่ย์เลย กับจังหวะที่มงต์เปลลิเย่ร์ทำเกมสวนกลับได้สวย พื้นที่กองหลังอาร์เซนอลเปิดชัดเจนเลยแทงให้มูนิเย่ร์ได้วิ่งควบไปลุยแตะยิงในเขตโทษ แต่เซสนี่ย์ไวพุ่งออกมาสกัดบอลได้ก่อน แม้ว่าจะตะปบบไม่อยู่ก็เถอะ
ปืนยังเดินหน้าไม่หยุด
ได้เล่นในบ้าน แถมต้องชนะให้ได้ แบบนี้ไม่มีเวลารีรอเลยสำหรับอาร์เซนอลที่อาจจะมีเสียวโดนสวนนิดหน่อย แต่พวกเขาก็ยังเดินหน้าลุยเพื่อลุ้นประตูแรกให้ได้ ติดตรงจังหวะไม่เอื้อเท่านั้น
ซี๊ดดด!โพลดี้ตั้งป้อมยิงเฉี่ยวเสา
นาทีที่ 31 ยิงสปีดบอลแบบนี้แฟนก็ลุ้นกันเยี่ยวเหนียวเลย เมื่อโพโดลสกี้มีโอกาสได้ยิงเล่นทางนอกกรอบเขตโทษแหวกฝูงนักเตะของทีมเยือนไปได้ ผู้รักษาประตูเองก็ได้แต่มองบอลที่ไหลไม่เร็วสักเท่าไหร่เหมือนจะพุ่งเสียบเสา แต่กลับหลุดออกไปนิดเดียวเท่านั้นเอง
ปืนหาช่องเจาะไม่ได้
เข้าช่วง 5 นาทีสุดท้าย แม้ว่าจะพยายามขึงเกมใส่มากแค่ไหน แต่อาร์เซนอลก็ยังหาช่องเข้าไปเจาะลุ้นยิงประตูทีมเยือนแบบเหน่งๆไม่ได้เลย มีจังหวะที่โพโดลสกี้ได้ลองอีกครั้ง แต่คราวนี้ซัดมุมแคบแล้วบอลมันหลุดออกหลังไปไกลกว่าจังหวะก่อนหน้านี้อีก
ทีมเยือนมาสไตล์ยิงทิ้งเหมือนกัน
เกมนี้จังหวะส่องเข้ากรอบมีน้อยแบบสุดติ่งไปเลยทั้งสองทีม โดยเฉพาะทางมงต์เปลลิเย่ร์ที่ยังหาโอกาสยิงบอลให้ลุ้นแบบตรงกรอบไม่ได้เลย อาจเป็นเพราะว่าพวกเขามีแต่ได้โอกาสยิงไกลเท่านั้น องศาเลยเบี่ยงตามไปด้วย
จบ 45 นาทีแรก นี่ถ้าไม่นับรวมโอกาสของกอสเชียลนี่ที่ขึ้นโหม่งชนคานกับลูกยิงของโพโดลสกี้ ครึ่งแรกก็แทบไม่มีอะไรให้แฟนบอลได้ตามดูกันสักเท่าไหร่ อาจเพราะเกมนี้สำคัญยิ่งนักเตะเลยเกร็งกันไปหมด เวนเกอร์จะทำยังไงในครึ่งหลัง
ครึ่งหลัง
กูนเนอร์สกรี๊ดสลบ!หนูแจ็คยิงขึ้นนำ
นาทีที่ 49 ดีใจกันสองต่อสองเท่าเลยสำหรับสาวกอาร์เซนอล เมื่อพวกเขามาได้ประตูขึ้นนำ แถมคนยิงยังเป็นวิลเชียร์ที่ทำประตูแรกหลังจากเจ็บยาวไปนานแสนนานได้ในจังหวะที่ชิรูด์โหม่งชงมาสวยให้แข้งผู้ดีวิ่งเข้าจิ้มบอลสวนตัวชูดร็องน์เข้าประตูไป เจ้าบ้านได้ประตูที่ต้องการแล้ว 1-0
ขนลุกซู่!โพลดี้วอลเล่ย์งามไปถึงดวงจันทร์
นาทีที่ 62 เล่นเอาแฟนบอลร้องคอแทบแตกเมื่อได้เห็นสุดยอดประตูลูกนี้ของอาร์เซนอล จากจังหวะที่โพโดลสกี้แตะบอลเล่นวัน-ทูกับชิรูด์ที่ยกกลับข้ามกองหลังให้แข้งอินทรีเหล็กได้พอดีสุดๆ เจ้าตัวไม่ต้องจับให้เสียเวลาแต่ซัดวอลเล่ย์ด้วยซ้ายตูมเดียวบอลพุ่งเข้าไปแสกหน้าผู้รักษาประตูที่หมดสิทธิ์รับโดยสิ้นเชิง อาร์เซนอลนำห่างด้วยประตูสุดสวย 2-0
ตอนนี้เน้นชัวร์ได้เลย
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้ายของเกม ตอนนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากสำหรับอาร์เซนอลที่เล่นเกมแน่นอนเพื่อคงสกอร์นี้เอาไว้ก่อน เพราะถ้าไปเล่นผลีผลามไม่ระวัง เกมอาจจะพลิกแล้วต้องมานั่งปวดตับทีหลังได้
โอเคละน้อง!อ็อกเหล็กได้ออก
นาทีที่ 70 อาร์เซนอลทำการปรับเปลี่ยนผู้เล่นเป็นคนแรก ด้วยการที่ถอดเอาแชมเบอร์เลนออกไป ก่อนที่จะส่งแรมซี่ย์ลงเล่นแทน ดูแล้วก็คงได้เรื่องความแน่นอนมากกว่าเรื่องเกมบุกทะลุทะลวง
เกือบได้บวก!พี่สันติยิงติดเซฟ
นาทีที่ 73 ยังเป็นโอกาสของอาร์เซนอลที่จะลุ้นประตูเพิ่มอยู่เหมือนเดิม จากจังหวะขลุกขลิกในเขตโทษของมงต์เปลลิเย่ร์ที่กาซอร์ล่าได้บอลแล้วพยายามจะยิงเบี่ยงเข้าเสาแรก แต่ไม่ผ่านมือผู้รักษาประตูคราวนี้ปัดป้องเอาไว้ได้
ชิรูด์เหมือนไม่ตามกฏ
ไม่ตามกฏยิงประตูทีมเดิมเลยสำหรับชิรูด์ เมื่อเขาอุตส่าห์หลุดเข้าไปมีโอกาสได้ล่อเหน่งๆในกรอบเขตโทษอยู่แล้ว แต่ก็ยังซัดไปติดเซฟของผู้รักษาประตูซะอีก ดูแล้วเจ้าตัวเองก็มึนๆเหมือนกันว่าทำไมยิงไม่ได้
ชิรูด์ได้เสียงปรบมือเพียบ
นาทีที่ 84 พอโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามแม้ว่าจะทำประตูไม่ได้ แต่ชิรูด์ก็ได้รับเสียงปรบมือจากแฟนบอลของทั้งสองทีม ดูแล้วน่าประทับใจเหมือนกัน
จบ 90 นาทีเป็นอาร์เซนอลที่ทำด้สำเร็จ คว้า 3 คะแนนเต็มในบ้านของพวกเขาเองเหนือมงต์เปลลิเย่ร์ ทำให้มีเพิ่มเป็น 10 คะแนนและด้วยการที่ชาลเก้เอาชนะโอลิมเปียกอสได้ พวกเขาเลยผ่านเข้ารอบต่อไปแล้วแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นที่หนึ่งได้หรือไม่ต้องไปดูในเกมสุดท้าย
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : วอจเซียจ เซสนี่ย์, บาการี่ ซานญ่า, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โธมัส แฟร์มาเล่น, โลร็องต์ กอสเชียลนี่, มิเกล อาร์เตต้า, แจ็ค วิลเชียร์, ซานติ กาซอร์ล่า(โคเกอแล็งน์ น.70), ลูคัส โพโดลสกี้, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์(แชร์วินโญ่ น.84), อเล็กซ์ อ๊อกเหลด-แชมเบอร์เลน(แรมซี่ย์ น.70)
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : วีโต้ มันโนเน่, คาร์ล เจนกินสัน, คีแรน กิ๊บส์, อังเดร อาร์ชาวิน
มงต์เปลลิเย่ร์ : เจฟเฟรย์ ชูดร็องน์, อองรี เบดิโม่, ดาเนียล คอนเกร, อับเดล เอล คูทารี่, มาธิเยอ เดพลานเก้, มาปู ยองก้า-เอ็มบีว่า, อันโธนี่ย์ มูนิเย่ร์, มาร์โก้ เอสตราด้า(มาร์กโวซ์ น.79), เรมี่ กาเบล่า(เฮร์เรร่า น.69), แกต็องน์ ชาร์กบงนิเยร์(มาร์แต็งน์ น.69), ยูเนส เบลลองด้า
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : โลร็องต์ เปียนนิเย่ร์, ฮิลตัน, โรแมงน์ ปิตัว, ซีริล เฌินช็อง