RVP 4 ตุง!กังหันถลุงโหด 11-0 ฉลองที่ 1 โลก
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ รับเหมาคนเดียวสี่ประตูนอกนั้นช่วยกันดาหน้ากันยิงดลบันดาล ฮอลแลนด์ ฉลองขึ้นครองเบอร์หนึ่งของโลกไล่ถล่ม ซาน มารีโน่ แบบไม่ปราณีปราศัย 11-0 นัดหน้าถ้าชนะอีกโอกาสเป็นชาติแรกไปเล่นรอบสุดท้ายเหลือแค่เอื้อม
ผลฟุตบอลยูโร 2012 รอบคัดเลือก กลุ่ม อี
วันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2554
ฮอลแลนด์ 11-0 ซาน มารีโน่
ประตู: 1-0 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.7,2-0 เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ น.12,3-0 จอห์น ไฮติงก้า น.17,4-0 เดิร์ค เคาท์ น.49, 5-0 คลาส แยน ฮุนเตลาร์ น.56,6-0 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.64 , 7-0 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.67,8-0 คลาส แยน ฮุนเตลาร์ น.77,9-0 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.79,10-0 เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ น.87,11-0 จอร์จินิโอ วิจนัลดุม น.89
ครึ่งแรก
เปิดฉากทีมกังหันลมสีส้มไม่พูดพร่ำทำเพลงบุกเข้าใสตั้งแต่วินาทีแรกกดดัน อย่างหนักจนพังประตูขึ้นนำสำเร็จแค่ 6 นาทีเท่านั้น ฟาน บอมเมล หยอดอย่างแม่นยำข้ามแผงหลัง ฟาน เพอร์ซี่ วิ่งจากแดนหลังหลุดกับดักล้ำหน้ากระโดดแปจ่อๆไม่ถึงห้าหลาไม่เหลือ ฮอลแลนด์ นำ 1-0
หลังปลดล็อคได้เร็วทำให้เกมไหลลื่นอีกหกนาทีถัดมาขยับสกอร์ 2-0 จากความสามารถเฉพาะตัวของ สไนจ์เดอร์ จับด้วยซ้ายแต่งเข้าเท้าขวาล็อคจังหวะก่อนปั่นไซด์หนีมือผู้รักษาประตูเสียบ ตาข่ายอย่างสุดสวย
"อัศวินสีส้ม" ยังโหมบุกอยู่ฝ่ายเดียวนาที 17 นำห่าง 3-0 คราวนี้ต้องยกเครดิตให้ เคาท์ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายก่อนโยนโด่งบอลลอยกลางอากาศก่อนตกมาใส่หัว ไฮติงก้า เทคตัวโหม่งเช็ดเข้าไป
นำห่างขาดสามประตู ฮอลแลนด์ เล่นผ่อนเกมลงไปบ้างกระทั่งผ่านนาที 35 น่าจะได้ประตูที่ 4 เหลือเกินจากจังหวะ สไนจ์เดอร์ พามาทางซ้ายก่อนโยนไปหน้าประตู ไฮติงก้า ติดใจสอดขึ้นมาเทคตัวโหม่งชนคาน
ท้ายครึ่งแรกทีมกังหันปล่อยโอกาสหลุดลอยไปเอง สไนจ์เดอร์ จ่ายไซด์ก้อยอ้อมตัวผู้เล่นซาน มารีโน่ มาถึง ฟาน เพอร์ซี่ หลุดโล่งๆลากโซโล่เข้าไปยิงล่อเป้าดันซัดข้ามคานหน้าตาเฉย จบครึ่งแรก ฮอลแลนด์ ตุนสามเม็ด
ครึ่งหลัง
กลับมาเริ่มต้นกันใหม่แค่สี่นาที ฮอลแลนด์ นำห่าง 4-0 จนได้จากการต่อบอลสามประสานเริ่มจาก ฟน เพอร์ซี่ โยนไปฝั่งขวาให้ ฮุนเตลาร์ แปะจังหวะเดียวไม่ต้องจับ เคาท์ ล้มตัวยิงจ่อๆตุงตาข่าย
เรียกว่าเรียงหน้ากันยิงเลยคราวนี้เป็น ฮุนเตลาร์ บ้าง จากการต่อบอลสามจังหวะ ฟาน เพอร์ซี่ ไหลเข้าไปในกรอบเขตโทษทางขวา สไนจ์เดอร์ จิ้มแบบไม่ต้องจับ ฮุนเตลาร์ ล้มตัวสไลด์จ่อๆเข้าไป
นที 64 สู่หลักครึ่งโหลแล้วสำหรับ ฮอลแลนด์ อาศัยต่อบอลสามจังหวะนำไปสู่ประตู สไนจ์เดอร์ จิ้มทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เคาท์ ไหลให้ ฟาน เพอร์ซี่ ใช้หน้าขาแปะเข้าไป ฮอลแลนด์ นำหายห่วง 6-0
และแล้ว ฟาน เพอร์ซี่ ไม่ต้องรอนานยิงแฮททริคก็เกิดขึ้นจนได้ในอีกสามนาทีถัดมา เคาท์ ไหลเข้าไปในกรอบเขตโททางขวา ฮุนเตลาร์ กดเต็มข้อติดเซฟผู้รักษาประตูปัดทิ้ง ฟาน เพอร์ซี่ ตามซ้ำดาบสองไม่เหลือ ฮอลแลนด์ ทิ้ง 7-0
เข้ 77 ฮอลแลนด์ เล่นเต็มที่เอใจกองเชียร์ได้เป็น 8-0 ฟาน เพอร์ซี่ จ่ายทะลุให้ สตรูตมัน หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนใจกว้างเป็นแม่น้ำไม่ยิงไหลให้ ฮุนเตลาร์ ยิงเข้าไปง่ายๆ
เท่นั้นยังไม่พออีกสองนาทีถัดมา ทีมกังหันลมพังประตูเพิ่ม สตรูตมัน กระชากเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนผ่านเข้ากลางบอลเลย สไนจ์เดอร์ ปล่อยให้ ฟาน เพอร์ซี่ ยิงเข้าข้อเสียบตาข่าย
เกมยังไม่จบ ฮอลแลนด์ เอาใจกองเชียร์ยิงขึ้นสองหลักก่อนหมดเวลาสามนาที ฟาน เพอร์ซี่ ไหลตามช่อง สไนจ์เดอร์ วิ่งสอดทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทก่อนยิงหักข้อเสียบเสาสองทิ้งห่าง 10-0
ก่อนหมดเวลานาทีเดียว "กังหันสีส้ม" พังประตูปิดท้าย ฮุนเตลาร์ ไหลให้ ไฮติงก้า สอดทะลุหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทฝั่งขวาก่อนผ่านเข้ากลาง วิจนัลดุม จับก่อนหมุนตัวยิงเบียดเสาเข้าไป ฮอลแลนด์ นำ 11-0 และชนะด้วยสกอร์ดังกล่าว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฮอลแลนด์: สเคเลนเบิร์ก,ไฮติงก้า,ฟาน เดอร์ วิล,มาไธจ์เซ่น,ปีเตอร์ส,ฟาน บอมเมล,สตรูตมัน,สไนจ์เดอร์,ฟาน เพอร์ซี่,เคาท์,ฮุนเตลาร์
ซาน มารีโน่:อัลโด ซิมอนซินี่,วิตไอลี,ดาวิด ซิมอนซินี่,เบเนเด็ตตินี่,อันเดรนี่,เซอร์เวลลินี่,วานนุชชี่,บอลลินี่,มัซซ่า,เซลวา,วิตาโอลี่